จากกรณีด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ น้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพักพัก หมู่ที่ 2 บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 ที่ผ่านมา ซึ่งครอบครัวเร่งออกค้นหาจนมึดค่ำ จนกระทั่งพบศพน้องอยู่กลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านราว 5 กม.
อ่านเพิ่มเติมข่าวน้องชมพู่
- ผลชันสูตรรอบสอง "น้องชมพู่" พบบาดแผลที่อวัยวะเพศ และร่องรอยถูกทำร้าย
- สุดแปลก! วันหาตัว “น้องชมพู่” พ่อเดินเฉียดศพ กลับไม่เห็น แม่แค้นลั่นอยากฆ่าคนอำมหิต
- เจอ 4 หลักฐานใหม่ใกล้ศพน้องชมพู่ คาดคนอุ้มตัวพักในป่า แม่ชี้ญาติไม่ฆ่าเด็ก
- บุกบ้านชายเสื้อส้ม “แอ๋ม” ปัดอุ้มน้องชมพู่ โชว์ชุดไร้คราบ ท้าสาบานมีลูกเล็กไม่อำมหิต
- เกี้ยวหลังน้อย ส่งวิญญาณน้องชมพู่ เผากองฟอน แม่สุดเศร้า ปัดชี้เป้าคนในหมู่บ้าน
- ส่อวุ่น! เสื้อส้มอุ้มน้องชมพู่มีกันเกือบทุกหลัง พยานชี้ตัวเป็นเสื้อยี่ห้อปุ๋ยอุ้มหนีไม่ถึง 5 นาที
- แอ๋ม ส่อรอด! เพื่อนยันมาหาที่บ้านจริง ไม่ได้ไปฆ่าน้องชมพู่ แต่ซวยใส่เสื้อสีส้ม
โดยผลชันสูตรรอบเเรกจาก รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ระบุว่าไม่มีร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศ และไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย ญาติจึงร้องขอให้ส่งศพมาชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งที่ รพ.ตำรวจ กระทั่งวันที่ 18 พ.ค.63 ทราบผลชันสูตรศพมีร่องรอยการทำร้ายร่างกาย พบบาดเเผลที่อวัยวะเพศ แต่ไม่ปรากฏสาเหตุการตาย ซึ่งเมื่อสรุปข้อมูลของทั้ง 2 โรงพยาบาล พบว่าตรงกัน คือ ยังไม่พบการล่วงละเมิดทางเพศ
ล่าสุดวันที่ 21 พ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางขึ้นเขาอีกครั้ง โดยครั้งนี้มีการใช้เส้นทางฝั่งซ้ายสุดของป่ามันสำปะหลัง ซึ่งจะเดินไปพบกับแท็งก์น้ำประปาหมู่บ้านสีน้ำเงิน โดยวันนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากส่วนกลาง ตำรวจรวจตระเวนชายแดด เจ้าหน้าที่กองปราบปราม ทหาร มีการนำสุนัขตำรวจ สุนัขทหาร มาลาดตระเวนบนเขาภูเหล็กไฟร่วมด้วย ซึ่งการเดินตระเวนรอบนี้ มีการแบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด ชุดละ 20 นาย มีสุนัขดมกลิ่นชุดละ 1 ตัว เดินไปตามพื้นที่ป่า โดยการสำรวจยังไม่พบหลักฐานใด ๆ
จากนั้นทีมข่าวลองเดินขึ้นไปบนยอดภู จากเส้นทางที่ฝั่งซ้ายของเขา โดยทีมข่าวตั้งข้อสังเกตอีกว่า หากเดินขึ้นฝั่งนี้ ด.ญ.ชมพู่ วัย 3 ขวบ ไม่น่าจะขึ้นเองได้อีก เนื่องจากทางเดินมีลักษณะลาดชัน และยังมีหินสลับซับซ้อน เมื่อเดินขึ้นไปได้ราว 1 กม. พบว่ามีหินเป็นแนวยาว สูง 3 เมตร ลักษณะคล้ายหน้าผา ซึ่งต้องเดินข้ามหินจำนวนมาก เส้นทางยากลำบาก
เมื่อผ่านจุดดังกล่าว มาอีกราว 200 เมตร ก็จะพบแนวหินคล้ายหน้าผาอีก สูงจากพื้นจุดนั้นราว 4 เมตร ซึ่งจุดนี้มีทั้งกิ่งไม้แห้ง หินน้อยใหญ่ ซึ่งหากเป็นเด็กเดินมาคงหาทางขึ้นไม่ถูก
จากนั้นทีมข่าวกลับลงมาที่จุดเชิงเขา พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เดินทางมาติดตามคดีนี้ และตำรวจตระเวนชายแดน กำลังลาดตระเวณจุดนี้อยู่ โดยมีการพาทีมข่าวเดินทางตามแนวทางเดินหาของป่าของชาวบ้าน มุ่งหน้าไปราว 500 เมตร ซึ่ง 2 ข้างทางเป็นป่าโล่ง มีความชันเล็กน้อย
โดยเส้นทางนี้เดินไม่ยาก ซึ่งเป็นเส้นทางที่สนัขตำรวจพาเดินมาในช่วงวันค้นหาน้องชมพู่วันแรก ๆ ก่อนพบศพ ซึ่งครั้งนั้นพบว่าสุนัขมีการไปหยุดที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดที่พบแหวนหลักฐาน
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ ร.ต.อ.อัครพนธ์ ขันติยู เจ้าหน้าที่ที่ตำรวจ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 23 ซึ่งเป็นชุดค้นหาครั้งนั้น และนำทีมข่าวเข้าไป โดยระบุว่า จุดที่พาทีมข่าวมาดูครั้งนี้ เป็นจุดที่สุนัข ตชด.มาหยุดหลังเดินลัดเลาะป่ามันสำปะหลังเข้ามา จากนั้นสุนัขใช้เล็บเท้าตะกุยที่โคนต้นไม้จุดนี้ ซึ่งวันนี้ยังคงเห็นภาพร่องรอยการตะคุยของกรงเล็บสุนัข
สำหรับการตะกุยลักษณะนี้ของสุนัขดมกลิ่น เป็นการบอกได้อย่างหนึ่งว่าอาจจะพบกลิ่นของน้องชมพู่ ซึ่งคาดว่าคนร้ายอาจจะพาเด็กมานั่งพักที่จุดนี้ ประกอบกับจุดนี้เป็นจุดที่พบหลักฐานชิ้นหนึ่ง "แหวน" ลักษณะไม่เก่าไม่ใหม่วางบนผิวดิน ไม่ได้ฝังอยู่ในดิน ซึ่งยังระบุไม่ได้ว่าเป็นของใคร จะเป็นของชุดค้นหา หรือเป็นของคนร้าย
ทีมข่าวเดินทางมาที่ร้านจำหน่ายอุปกรณ์การเกษตรในตัวเมืองสกลนคร ซึ่งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านกกกอก มากกว่าการเดินทางไปตัวเมืองมุกดาหาร และชาวบ้านระบุว่า ส่วนใหญ่จะเข้าไปซื้อปุ๋ยและวัสดุก่อสร้างในตัวเมืองสกลนคร ทั้งนี้การสำรวจร้านจำหน่ายอุปกรณ์ทางการเกษตรครั้งนี้ ไม่ใช่ร้านที่คนร้ายในคดีนี้มารับเสื้อไปแต่อย่างใด
ร้านแรกที่ทีมข่าวมาคือร้านพันธ์ุทวีมอลล์ สาขาสกลนคร ซึ่งเป็นร้านขนาดใหญ่ จำหน่ายทั้งวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์การเกษตร เมื่อเข้าไปทีมข่าวได้พบกับเสื้อยืดแขนยาวหลากสี ทั้งแขวนและกองอยู่ หลังจุดชำระสินค้าจำนวนมาก
พนักงานในร้านนำตัวอย่างของเสื้อแจกมาให้ทีมข่าวดู ถึงแม้จะเป็นเสื้อคนละบริษัทกัน แต่การออกแบบเสื้อจะคล้ายกัน คือ มีสีพื้นเป็นสีเดียว ด้านหน้าสกรีน ชื่อผลิตภัณฑ์ หรือชื่อร้าน ด้านหลังก็จะสกรีนเป็นชื่อร้าน ชื่อผลิตภัณฑ์ และหมายเลขโทรศัพท์ เป็นเสื้อแขนยาวจั๊มแขน แต่ร้านนี้พยายามหาเสื้อที่ทีมข่าวตามหา คือ สีส้ม พบว่าสินค้าหมด ส่วนที่เหลือก็มีเพียงสีฟ้า สีเหลือง สีแดง น้ำตาล ฯลฯ
นางอมรรัตน์ ทวยจันทร์ พนักงานจำหน่ายปุ๋ยของร้าน เปิดเผยว่า การแจกเสื้อปุ๋ย หรือเสื้อยืดที่สกรีนชื่อร้านมีขึ้นมานานแล้ว อย่างร้านนี้ก็จะแจกมาตั้งแต่เปิดร้าน ปกติจะมีการแจกเสื้อและจัดโปรโมชัน เช่น ซื้อปุ๋ย 4 กระสอบจะได้รับเสื้อ 1 ตัว หรือบางครั้งซื้อ 1 กระสอบแจก 1 ตัว ซึ่งขึ้นอยู่กับทางร้านจะจัดโปรฯ การทำแบบนี้มีมากนานแล้ว
ส่วนเสื้อเหล่านี้เป็นการจัดทำขึ้นมาโดยร้านเอง ซึ่งเจ้าของร้านเป็นคนออกแบบ บางครั้งก็มีบริษัทปุ๋ยนำมาฝากแจกด้วย ซึ่งขึ้นอยู่กับร้านจะจัดโปรฯ อย่างไร บางครั้งไม่ต้องซื้อปุ๋ย ซื้อของในร้านครบราคาที่ร้านกำหนดก็ได้รับแล้ว
การออกแบบเสื้อส่วนใหญ่ก็จะคล้ายกันหมด ปกติจะมีโลโก้สกรีหน้าหลัง และมีหมายเลขโทรศัพท์สกรีนติดไปด้วย ทั้งนี้การสั่งเสื้อก็มีสีที่หลากหลาย ร้านไม่ได้ดำหนดว่าต้องมีสีไหนเป็นพิเศษ ในการสั่งแต่ละครั้งไม่จำเป็นต้องครบสี ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะนำไปใส่หว่านปุ๋ย ใส่ทำการเกษตร
นางอมรรัตน์ กล่าวด้วยว่า บางครั้งไม่ได้แจกเพียงเสื้อ บางครั้งก็จะทำหมวกแจกให้กับลูกค้าด้วย รวมถึงยังมีหมวกแบบที่ชายเสื้อส้มใส่ คือ หมวกที่มีผ้าปิดบังใบหน้าเหลือแต่ตา ด้านหลังของหมวกจะสกรีนชื่อร้านและหมายเลขโทรศัพท์
นอกจากนี้ทีมข่าวได้นำภาพผู้ต้องสงสัยให้ดู นางอมรรัตน์ ยืนยันว่าจำหน้าผู้ต้องสังสัยทั้งหมดไม่ได้ว่า เคยได้รับเสื้อจากทางร้านหรือไม่
ทีมข่าวเดินทางมาที่ร้านจำหน่ายปุ๋ยและอุปกรณ์การเกษตรอีกร้านในเมืองสกลนคร เป็นร้านเก่าแก่ อายุกว่า 40 ปี คือ ร้าน ว.เจริญพันธ์ พบว่าร้านนี้มีเสื้อแจกเช่นเดียวกัน โดยกองเสื้อที่วางอยู่มีหลากหลายสีคละกัน แต่ไม่พบว่ามีสีส้มที่ทีมข่าวต้องการ จะมีสีที่ใกล้เคียงที่สุดเป็นสีแสดสะท้อนแสง เหลือเพียง 1 ตัว ลักษณะเสื้อของร้านนี้จะเป็นผ้ายืด คอปก สีเสื้อเป็นสีพื้นทั้งตัว แขนยาวจั๊มแขน ด้านหน้าเป็นโลโก้ของยี่ห้อปุ๋ย ด้านหลังเป็นชื่อของผลิตภัณฑ์
นอกจากนี้ที่ร้านนี้ยังมีเสื้อแบบแขนสั้นแจกให้กับลูกค้า แต่ไม่พบว่ามีสีส้ม ลักษณะการสกรีนไม่ต่างจากแขนยาว เพียงเสื้อเป็นแขนสั้น สีพื้นทั้งตัว
น.ส.บุญญาพร ข่วงทิพย์ พนักงานร้าน ระบุว่า ร้านนี้เปิดทำการมากว่า 40 ปี ก็มีเสื่อปุ๋ยแบบนี้แจกให้กับลูกค้า อย่างร้านตนก็จะแจกเสื้อให้กับคนที่มาซื้อปุ๋ย กำหนด 1 ใบเสร็จ จะแจกเสื้อ 1 ตัว ซึ่งร้านกำหนดเอง หากลูกค้าที่ซื้อสินค้าอื่น ๆ ของร้านก็จะมีได้แจกเสื้อปุ๋ยแบบนี้ให้
ส่วนเสื้อทางร้านจะได้รับมาจากบริษัทขายปุ๋ยอีกทอดหนึ่ง ส่วนลูกค้าที่ได้รับเสื้อไปก็มักจะนำไปใส่เพื่อใช้ทำไร่ ทำสวน เพราะเสื้อจะระบายอากาศได้ดี ส่วนใหญ่หากมาขอ หรืออยากได้ ร้ายจะไม่ขาย เพราะเป็นของสัมมนาคุณให้กับลูกค้าที่ซื้อปุ๋ยเท่านั้น ส่วนเรื่องสี ไม่ได้มีกำหนดแจกให้ลูกค้า รวมทั้งโรงงานก็ไม่ได้กำหนดสีมา ส่วนใหญ่คละสีแต่ละครั้งไม่ได้มาครบทุกสี ส่วนใหญ่เป็นสีสว่าง
นอกจากนี้ทีมข่าวได้นำภาพผู้ต้องสงสัยให้ดู น.ส.บุญญาพร ยืนยันว่าจำหน้าผู้ต้องสังสัยทั้งหมดไม่ได้ว่า เคยได้รับเสื้อจากทางร้านหรือไม่
Advertisement