กรณี ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพักพัก หมู่ที่ 2 บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 ที่ผ่านมา กระทั่งพบศพน้องอยู่กลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านราว 5 กม. ส่วนนายแอ๋ม ชายต้องสงสัยที่ขอติดรถกระบะไปลงที่ด่านตรวจโควิด ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของน้องชมพู่
ไล่ไทม์ไลน์ของนายแอ๋ม วันที่ 12 พ.ค. ขี่รถจยย.ไปหาเพื่อนชื่อนายมีนที่หมู่บ้านมะนาวก่อนขึ้นรถไปทำไร่ด้วยกัน
หลังเสร็จจากทำไร่ นายแอ๋มชวนนายยาวไปทำสวนต่อ โดยทิ้งรถจยย.ไว้ให้นายมีนใช้ โดยนอนค้างที่บ้านนายยาว 1 คืน วันรุ่งขึ้นนายยาวพานายแอ๋มไปเอารถจยย.ที่บ้านนายมีน แต่ไม่พบรถเพราะนายมีนเอาไปใช้จนน้ำมันหมด
นายแอ๋มจึงตัดสินใจเดินเท้ากลับบ้าน ก่อนจะไปเจอน.ส.โบว์และขอติดรถไปลงที่ด่านตรวจโควิด
วันที่ 20 พ.ค.63 นายไพโรจน์ สิงนวน พ่อของนายมีน บอกว่า นายแอ๋มมาที่บ้านตน โดยมาจอดรถที่หน้าบ้านประมาณ เวลา 09.00 น. ของเช้าวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่เด็กหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค. ซึ่งตำรวจมาตรวจและขอข้อมูลไปหมดแล้ว ยืนยันว่าลูกชายและเพื่อนลูกชายทั้งหมดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเด็ก
เส้นทางที่นายแอ๋ม ขี่รถจยย.ไปหานายมีน ระยะทาง 78 กม. ก่อนจะขี่ไปหานายยาวที่บ้าน ระยะทาง 2.7 กม.
คำให้การของนายมีนกับนายแอ๋ม ให้การตรงกันโดยบอกว่าวันที่ 12 พ.ค. นายแอ๋ม สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีเขียว ใส่กางเกงลายพราง ร้องเท้าผ้าใบ
ส่วนท่าทีที่พบเห็นทั้งสองบอกคล้ายกันคือ มีอาการปกติไม่ได้เหนื่อยหรือหอบแต่อย่างใด พูดจากปกติและไม่มีพิรุธ โดยไม่ได้เอ่ยปากคุยเรื่องน้องชมพู่
โดรนที่เจ้าหน้าที่ใช้ค้นหาทางอากาศพบว่าหมู่บ้านกกกอก มีทั้งสิ้น 95 หลังคาเรือน ประชากร 200 คน เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี 20 คน ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำไร่มันและสวนยาง
โดยจุดที่พบศพน้องชมพู่คือภูเหล็กไฟ ชาวบ้านยืนยันว่า ส่วนใหญ่มักจะเดินเท้า 5 กม.ขึ้นไปหาเห็ด หน่อไม้ และผักหวานอยู่เป็นประจำ
ขณะเดียวกันถ้าใช้โดรนบินสำรวจจากภูเขาลงมาที่หมู่บ้านส่วนจะพบสวนยางพารากับไร่มันสำปะหลัง