เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 9 ก.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ศาลอุทรณ์ภาค 4 ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น นางสาวพชรมน พชรภัสส์ หรือ แม่น้องชมพู่ ชาวบ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร พร้อมด้วยนายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนายความที่ปรึกษาของแม่น้องชมพู่ และเพื่อนสนิทของแม่น้องชมพู่ เดินทางเข้ายื่นเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณียูทูบเบอร์ช่องหนึ่งและเป็นอดีตยูทูบเบอร์คนสนิทของนายไชย์พลวิภา หรือ ลุงพล พร้อมหลักฐานคลิปวิดีโอการพูดไลฟ์สดสาธารณะ
ซึ่งในหนังสือที่ยื่นให้ตรวจสอบนั้นใจความสำคัญของหนังสือระบุว่า ยูทูบเบอร์รายดังกล่าวอ้างว่าได้มีผู้ใหญ่ให้ข้อมูลแบบฟันธงว่าคดีของน้องชมพู่ในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งจะมีการอ่านคำพิพากษาในวันที่ 13 สิงหาคม 2568 ได้มีธงคำตอบว่ายกฟ้องอย่างแน่นอน
โดยได้มีการอ้างแหล่งข่าวข้อมูลอีกว่ายูทูบเบอร์รายดังกล่าวได้รับทราบข้อมูลจากผู้ใหญ่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี จนทำให้พี่น้องประชาชนและผู้เสียหายในคดีเกิดความสงสัย และเชื่อว่าคดีดังกล่าวได้ถูกแทรกแซงหรือมีการกระทำใดใดอันมิชอบด้วยกฏหมาย ก้าวก่ายในกระบวนการยุติธรรมหรือดูหมิ่นศาล หรือละเมิดอำนาจศาล จนทำให้น้องชมพู่และมารดาได้รับความเสียหาย และไม่ได้รับความเป็นธรรม
โดยตั้งหัวข้อไลฟ์สดว่า ข่าวดีสุดๆผู้ใหญ่คนหนึ่งได้ออกมาบอกว่า คนส่งพระชั้นอุทธรณ์มีโอกาส
พร้อมอ้างว่าได้มีการพูดคุยกับอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมน้องชมพู่ อ้างว่าคดีน้องชมพู่นั้นศาลอุทรณ์มีธงคำตอบว่ายกฟ้อง
จากการตรวจสอบ ผู้สื่อข่าวพบว่ายูทูบเบอร์รายดังกล่าว ได้มีการไลฟ์สดเล่าเป็นนิทาน พูดถึงตัวละครมีอีดำและตุ๊กตา ระบุว่า อีดำฆ่าตุ๊กตา หมอโอเคยทำนายว่าน้องตุ๊กตาเสียชีวิต คนในครอบครัวอีดำรู้ดีที่สุด เป็นหมอฟันธงคนแรก พอมาไล่ไทม์ไลน์คำทำนายของหมอโอ ทุกอย่างเริ่มเป็นไปตามคำทำนายของหมอโอทุกอย่างชัดขึ้น ทั้งเรื่องเส้นผม หมอโอพูดชัดเรื่องการตายของน้องตุ๊กตา หมอโอก็พูดชัด วันนี้ผมได้นึกคิดคำทำนายคำนึงที่หมอโอได้ทำนายไว้ว่า อีดำเป็นคนที่รู้เห็นการตายของลูกอีดำเป็นคนจัดฉากทั้งหมด ในการตายของลูก เพื่อโยนความผิดไปให้ใครทุกคน
ด้านนายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนายความที่ปรึกษาของแม่น้องชมพู่ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าหลังจากที่ตนเองและแม่ของน้องชมพู่ เห็นยูทูบเบอร์ช่องหนึ่งและเป็นอดีตคนสนิทของลุงพล ออกมาไลฟ์สด เมื่อวันที่ 3ก.ค.2568 ที่ผ่านมา โดยมีการพูดจาพาดพิงเป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม โดยอ้างว่าคดีน้องชมพู่นั้นศาลอุทรณ์มีธงคำตอบว่ายกฟ้อง ทั้งๆที่ศาลอุทรณ์ได้มีการนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 13 ส.ค.2568 พอแม่น้องชมพู่ได้เห็นยูทูบเบอร์ช่องนี้พูด จึงเกิดความกังวลว่าจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ คดีน้องชมพู่จะถูกยกฟ้องจริงหรือไม่การที่คนคนหนึ่งออกมาพูดแบบนี้ก่อนที่จะมีคำพิพากษา มันทำให้เกิดความสงสัยทั้งต่อแม่น้องชมพู่ ประชาชน แฟนคลับ หรือแม้แต่ตนเองที่เป็นนักกฎหมาย ในวันนี้จึงเดินทางมายื่นหนังสือ พร้อมทั้งส่งมอบคลิปการไลฟ์สดของยูทูบเบอร์รายดังกล่าวเพื่อให้ทางศาลได้พิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้น ว่าเป็นการแทรกแซง หมิ่นศาลอุทรณ์ภาค 4 อย่างร้ายแรงและละเมิดอำนาจศาลหรือไม่
และต้องการความชัดเจนจากศาล ว่ามาตรการการเก็บความลับของคำพิพากษาในศาลอุทรณ์มันรั่วไปจริงหรือไม่ และจากการพูดคุยกับทางหัวหน้าส่วนงาน ยืนยันว่าไม่น่าจะรั่วออกไป เนื่องจากเป็นความลับ และประเด็นที่สองต้องการให้ศาลอุทรณ์ภาค 4 พิจารณาจากข้อเท็จจริงในคลิปว่าการกระทำของยูทูบเบอร์คนนี้ เข้าข่ายการกระทำที่ดูหมิ่นหรือละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ ถ้าเข้าข่ายก็ต้องการให้ทางศาลอุทรณ์ภาค 4 แจ้งความดำเนินคดีเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เพราะหากไม่มีการดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านี้ ก็จะมียูทูบเบอร์อีกมากมาย ที่จะมาพูดแทรกแซงหรือทำให้ศาลเสียหายอยู่ตลอดเวลา
ด้านแม่น้องชมพู่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ส่วนตัวที่ผ่านมามีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด แต่พอมียูบทูปเบอร์ช่องดังกล่าวมาพูดไลฟ์สดในทำนองนี้ ก็ทำให้เกิดความสับสน ทั้งตนเองและในสังคม และเกิดคำถามมากมายเกิดขึ้น จนเริ่มไม่มั่นใจ จึงได้ปรึกษาทนายและเดินทางมายื่นตรวจสอบในวันนี้ และมาขอคำตอบจากศาลเพื่อให้เกิดความมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม กระบวนการศาล และมีความชัดเจนว่าคดีของน้องชมพู่จะเกิดความเป็นธรรมหรือความน่าจะเป็น จะเป็นไปตามที่ยูทูบเบอร์พูดหรือไม่ หรือมีการรั่วไหลของข้อมูลในกระบวนการของศาล
ซึ่งมีการกล่าวอ้างถึงผู้ใหญ่ในศาลมา พูดเรื่องการตั้งธงคดีของลูกสาว ซึ่งในชั้นอุทรณ์ยังไม่ได้มีคำพิพากษาออกมาว่าจะมีการยกฟ้อง และยังกล่าวอ้างไปถึงอดีตผู้พิพากษาศาลฏีกา ตนเองจึงอยากให้ทางศาลยืนยันกับตนเองให้มีความมั่นใจ และให้สังคมที่ได้ฟังคลิปไลฟ์สดตัวนี้ได้เข้าใจตรงกันว่าเกิดอะไรขึ้น ความน่าจะเป็นที่ยูทูบเบอร์รายนี้พูดจะมีโอกาสเป็นได้มากน้อยขนาดไหน และส่วนตัวก็เคารพศาล แต่คดีน้องชมพู่นั้นมียูทูบเบอร์มาพูดเรื่องของน้องเยอะมาก หากพูดแล้วไม่มีความผิดอะไรก็น่าเป็นห่วงและกังวลว่าจะมีการพูดกันในลักษณะแทรกแซงดูหมิ่นและละเมิดอำนาจศาลแบบนี้อีก
Advertisement