
ถอดรหัสวิธีที่คนญี่ปุ่นรักษาความสงบในสังคมที่วุ่นวายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เจาะลึกวัฒนธรรม 和 (วะ) กุญแจสู่ความกลมเกลียวทางสังคม เพราะมารยาทไม่ใช่แค่กฎ แต่คือเกียรติยศของคนญี่ปุ่น
แก่นแท้วัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนมารยาทสาธารณะของญี่ปุ่น วัฒนธรรมญี่ปุ่นให้ความสำคัญสูงสุดกับ “การรักษาความกลมเกลียว” และความสงบเรียบร้อยในสังคม, ครอบครัว, บริษัท “การแสดงมารยาทที่ดี” เป็นการแสดงออกว่า คุณเคารพพื้นที่ส่วนรวม และไม่ทำให้ผู้อื่นต้องรู้สึกไม่สบายใจ หรือ รบกวนความสงบของกลุ่ม
“วะ” คืออะไร ?
ตัวอักษรนี้ 和 ออกเสียงว่า “วะ”
คำว่า “วะ” คือคำหลักที่ใช้เรียกแนวคิดเกี่ยวกับ ความกลมเกลียวทางสังคม (Harmony) ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น
มีหลายความหมาย แต่วิธีที่ดีที่สุดในการเข้าใจแนวคิดโดยรวมคือ การจินตนาการถึงบรรยากาศที่กลุ่มคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสบายใจและเป็นมิตร คำนี้ยังมีความหมายแฝงถึง การรักษาความสามัคคีและการอยู่ร่วมกัน
ตัวอักษรนี้ยังปรากฏในคำว่า “เฮวะ” (平和) ซึ่งแปลว่า “สันติภาพ” ความหมายดั้งเดิมสื่อถึงความรู้สึกของกลุ่มคนที่ทำงานร่วมกันอย่างสันติและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
วัฒนธรรมญี่ปุ่น “วะ” และ “ความกลมกลืน” อย่างแท้จริง ซึ่งก็คือความสมดุลของทุกสิ่งทั้งภายในและภายนอกตัวเรา
ความกลมกลืนพบได้ทั่วทุกหนแห่งในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นเส้นสายอันสะอาดตาและธรรมชาติอันเรียบง่ายของสถาปัตยกรรมญี่ปุ่น หรือการจัดวางอาหารญี่ปุ่นอย่างเป็นระเบียบบนจาน
แนวคิด “วะ” หรือ “ความกลมกลืน” ถือเป็นหัวใจสำคัญของวัฒนธรรมญี่ปุ่น ความกลมกลืนหล่อหลอมด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานและขนบธรรมเนียมประเพณีอันลึกซึ้ง หล่อหลอมทุกแง่มุมของกฎหมายและขนบธรรมเนียมญี่ปุ่น
เน้นย้ำถึง การพึ่งพาอาศัยกันมากกว่าความเป็นอิสระ ความร่วมมือมากกว่าการคัดค้าน และความอดทนมากกว่าการต่อต้าน ด้วยเหตุนี้ ญี่ปุ่นจึงมักถูกมองว่าเป็นวัฒนธรรมแห่งการหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง และสำหรับบางคน ชาวญี่ปุ่นอาจถูกมองว่าเป็นคนลังเล สงวนท่าที หรือระมัดระวังตัว
ไม่ใช่ว่าชาวญี่ปุ่นจะไม่มีความคิดเห็นที่แตกต่างหรือไม่เคยรู้สึกหงุดหงิด เพียงแต่การบรรลุ “วะ” นั้นสำคัญต่อค่านิยมทางสังคมของญี่ปุ่นมาก ผู้คนแยกแยะระหว่าง “ความรู้สึกที่แท้จริงของตน” กับ “ใบหน้าที่แสดงออกมาในที่สาธารณะ”
แม้ว่าวัฒนธรรมตะวันตกอาจมองว่านี่เป็นการเสแสร้ง แต่ชาวญี่ปุ่นเข้าใจดีว่าการอยู่เหนือความรู้สึกส่วนตัวเพื่อประโยชน์ของสังคมโดยรวม นั้นเป็น “คุณธรรมในตัวของมันเอง”
“คุณไม่ได้เป็นคนเสแสร้ง...แต่คุณเป็นพลเมืองที่ดี”
ย้อนไปถึงสมัย เจ้าชายโชโตกุ ไทชิ ในปี ค.ศ. 604 ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับแรกของญี่ปุ่นว่า
“ควรให้ความสำคัญกับ เรื่องวาและหลีกเลี่ยงการทะเลาะวิวาท เมื่อผู้บังคับบัญชามีความสามัคคีกันและผู้ใต้บังคับบัญชามีมิตรภาพ เมื่อนั้นเรื่องต่างๆ จะถูกหารือกันอย่างเงียบๆ และมุมมองที่ถูกต้องจะชนะ”
ชาวญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักในเรื่องความสุภาพ ความตรงต่อเวลา และการคำนึงถึงผู้อื่นในพื้นที่สาธารณะ พฤติกรรมเหล่านี้เป็นผลโดยตรงจากค่านิยมที่ปลูกฝังในตัวพวกเขาตั้งแต่วัยเด็ก ระดับความสุภาพถูกจัดระเบียบและถูกสอนอย่างตั้งใจ ตั้งแต่วันแรกที่เด็กเข้าโรงเรียน และครูจะบังคับใช้กฎอย่างเคร่งครัด โรงเรียนในญี่ปุ่นมักเน้นเป้าหมายที่ต้องการให้เด็ก มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และ สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ ผ่านกิจกรรมในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังชี้ว่า ภาพลักษณ์ มีความสำคัญอย่างมากในญี่ปุ่น และการแสดงออกในทางลบอาจส่งผลกระทบต่อสถานะทางสังคมได้
คนญี่ปุ่นถือว่าพื้นที่สาธารณะ (เช่น รถไฟ, สวนสาธารณะ) เป็นพื้นที่ส่วนรวมที่ใช้ร่วมกัน ดังนั้นทุกคนต้องรับผิดชอบในการทำให้พื้นที่นั้นสงบและสะดวกสบายสำหรับทุกคน การพูดคุยเสียงดังหรือการกระทำที่ดึงดูดความสนใจมากเกินไปจึงถือเป็นการรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น
ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น มักจะมีการเชื่อมโยงความประพฤติของบุคคลเข้ากับกลุ่มที่สังกัด (ครอบครัว, โรงเรียน, บริษัท) การทำผิดมารยาทในที่สาธารณะไม่ได้สร้างความอับอายแค่กับตนเองเท่านั้น แต่ยังเป็นการ นำความอับอาย มาสู่กลุ่มของตนด้วย
ข้อมูลอ้างอิง : JAPANGOV , culturallyours
Advertisement