
เงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่ามาเป็นเวลาประมาณ 3 ปีแล้ว ถึงขั้นมีจุดหนึ่งในปีนี้ที่ทำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบ 40 ปี แม้ว่านี่จะเป็นโอกาสที่นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศจะแลกเงินเยนได้มากขึ้น แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะเที่ยวญี่ปุ่นได้ในราคาถูกลงเสมอไป เพราะค่าอาหาร เครื่องดื่ม ค่าบริการต่างๆ ในญี่ปุ่นก็ได้ปรับสูงขึ้นค่อนข้างเร็ว
ค่าโรงแรมที่พักก็เป็นค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งที่เพิ่มขึ้นและส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวโดยตรง นอกจากนั้น ล่าสุดมีข่าวว่าเขตมหานครโตเกียว (Tokyo Metropolitan) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่โตเกียว ไซตามะ ชิบะ และคานากาวะ มีแผนจะเก็บภาษีที่พักในอัตรา 3% ของค่าที่พัก ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายในส่วนค่าที่พักเพิ่มขึ้น ยิ่งที่พักราคาสูงเท่าไหร่ยิ่งต้องจ่ายภาษีสูงตามไปด้วย
นิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) สื่อดังของญี่ปุ่นรายงานว่า องค์การปกครองมหานครโตเกียว (Tokyo Metropolitan Government) กำลังเล็งที่จะเก็บ ‘ภาษีที่พัก’ อัตรา 3% ของค่าเข้าพัก ครอบคลุมที่พักแรมรายวันทุกประเภท โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มรายได้รัฐจากภาษีค่าที่พักที่ราคาสูง โดยเฉพาะโรงแรมที่เป็นกิจการของต่างชาติ
‘ภาษีที่พัก’ ของมหานครโตเกียวมีมาตั้งแต่ปี 2002 ซึ่งเขตมหานครโตเกียวเป็นที่แรกในประเทศญี่ปุ่นที่เก็บภาษีนี้ โดยอัตราภาษีกำหนดเป็นอัตราคงที่ ณ ปัจจุบันกำหนดอัตราภาษีไว้สองขั้น คือ สำหรับค่าที่พัก 10,000 - 14,999 เยนต่อคืน (ประมาณ 2,063 - 3,095 บาทต่อคืน) เก็บ 100 เยนต่อคืน (ประมาณ 20.60 บาทต่อคืน) และสำหรับค่าที่พัก 15,000 เยนขึ้นไต่อคืน เก็บ 200 เยนต่อคืน (ประมาณ 41.30 บาทต่อคืน)
การเปลี่ยนแปลงจากระบบ ‘อัตราคงที่’ ในปัจจุบันไปเป็นอัตรา 3% ที่แปรผันไปกับค่าห้องพัก จะทำให้รัฐบาลเขตมหานครโตเกียวสามารถเก็บภาษีได้สูงขึ้น โดยเฉพาะภาษีจากค่าห้องพักโรงแรมที่มีราคาสูง เช่น โรงแรมหรูที่เป็นของต่างชาติ
คาดว่าข้อบัญญัติที่แก้ไขนี้จะถูกเสนอเข้าสู่สภามหานครโตเกียวในเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากเสร็จสิ้นการเปิดรับฟังความเห็นจากสาธารณะ หากกระทรวงกิจการภายในประเทศและการสื่อสารเห็นชอบ การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลบังคับใช้ในปีงบประมาณ 2027 (เริ่ม 1 เมษายน 2027)
ทั้งนี้ หากกรอบการเก็บภาษีใหม่นี้ถูกนำมาใช้ คาดว่ารายได้ขององค์การปกครองมหานครโตเกียวจากการเก็บภาษีที่พักจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว จากปัจจุบันประเมินอยู่ที่ 6,900 ล้านเยน (ประมาณ 1,400 ล้านบาท)
ในข้อเสนอใหม่นี้จะไม่มีการกำหนดเพดานภาษีสูงสุด เนื่องจากจำนวนโรงแรมต่างชาติและรีสอร์ตหรูในเขตมหานครโตเกียวเพิ่มมากขึ้น ผู้กำหนดนโยบายจึงมองว่า ผู้เข้าพักโรงแรมหรูซึ่งเป็นผู้มีกำลังจ่ายควรรับภาระภาษีตามสัดส่วนความสามารถในการจ่ายของตนเอง
นอกจากนั้น ข้อเสนอบทบัญญัติใหม่นี้จะนำที่พักในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งเดิมได้รับการยกเว้นภาษีเข้ามาอยู่ในข่ายการจัดเก็บภาษีด้วย เช่น ที่พักส่วนบุคคลที่เปิดให้เช่ารายวัน (private rental) โฮสเทล และบ้านพักตากอากาศสุดหรู โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ระบบภาษีมีความเป็นธรรม
ในขณะเดียวกัน การยกเว้นภาษีสำหรับที่พักราคาถูกก็จะปรับเกณฑ์ใหม่ด้วย โดยจะปรับ ‘เพดานการยกเว้นภาษี’ ให้สูงขึ้น จากเดิมกำหนดให้ยกเว้นภาษีสำหรับค่าที่พักที่ไม่เกิน 10,000 เยนต่อคืน ขยายเพดานเป็นยกเว้นภาษีสำหรับค่าที่พักที่ไม่เกิน 15,000 เยนต่อคืน ซึ่งการขยายเพดานนี้มีความหมายในอีกทางหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวว่า พักที่ถูกจัดว่าเป็น ‘ที่พักราคาถูก’ มีราคาสูงขึ้น
ทั้งนี้ SPOTLIGHT ลองคำนวณภาษีตามอัตราแบบใหม่ เทียบกับอัตราแบบเดิมที่จ่ายสูงสุดคืนละ 200 เยน ให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของภาระภาษีที่นักท่องเที่ยวต้องจ่าย
หมายเหตุ: อัตราแลกเปลี่ยน 1 เยน = 0.21 บาท ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2025