ท่านอน ส่งผลต่อร่างกายอย่างไร เลือกให้ถูก สุขภาพจะได้ไม่พัง พร้อมเคล็ดลับลดอาการปวดหลังด้วยท่านอน คนอ้วนนอนท่าไหนเหมาะที่สุด ท่าไหนควรเลี่ยง ต้องรู้!
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ตื่นเช้ามาแล้วรู้สึกไม่สดชื่น ปวดเมื่อยตามตัว หรือต้องบิดขี้เกียจแทบตายกว่าจะขยับตัวได้ ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะ “ท่านอน” ของคุณอาจเป็นต้นตอของปัญหาเหล่านั้นก็ได้
ในชีวิตหนึ่งคนเราใช้เวลานอนหลับเฉลี่ยประมาณ 1 ใน 3 ของชีวิต หรือราว 25-30 ปี นั่นหมายความว่า ถ้าคุณนอนในท่าที่ “ไม่เหมาะกับร่างกาย” ตลอดเวลา อาการเจ็บปวดเรื้อรัง หรือโรคต่างๆ ก็อาจค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นโดยที่คุณไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
เจาะลึกแต่ละท่านอนมีผลต่อสุขภาพร่างกายอย่างไร บางท่าช่วยให้หายใจโล่ง บางท่าดีต่อกระเพาะอาหาร บางท่าเสี่ยงต่ออาการปวดหลัง หรือแม้แต่การเสื่อมของผิวหน้า พร้อมเผยท่านอนที่ถูกต้องช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง ควรเป็นอย่างไร
ท่านอน คือท่าทางของร่างกายขณะนอนหลับหรือพักผ่อน การนอนหลับไม่ใช่แค่การพักผ่อน แต่คือช่วงเวลาที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง สร้างเซลล์ใหม่ ฟื้นฟูระบบประสาท และส่งผลต่อการทำงานของสมอง ฮอร์โมน ระบบหายใจ ระบบย่อยอาหาร ระบบไหลเวียนเลือด และระบบกล้ามเนื้อ
• กระดูกสันหลังอาจโค้งผิดแนว
• ระบบไหลเวียนเลือดถูกกดทับ
• หายใจติดขัด นอนกรน หรือหยุดหายใจ
• กล้ามเนื้อบางส่วนตึงหรือล้าเกินไป
• เสี่ยงเกิดอาการปวดหลัง ปวดคอเรื้อรัง
หรือแม้แต่ หน้าห้อย หน้าย่นก่อนวัย เพราะท่านอนผิด ดังนั้น การเลือกท่านอนที่ “เข้ากับร่างกายตัวเอง” จึงสำคัญมากกว่าการนอนนุ่ม ๆ บนที่นอนราคาแพงเสียอีก
เราสามารถแบ่งท่านอนหลัก ๆ ได้เป็น 4 ประเภทใหญ่ ได้แก่
1. นอนหงาย
เป็นท่าที่หลายคนชอบ เพราะรู้สึกสบาย ไม่อึดอัด โดยเฉพาะคนที่มีอาการปวดหลัง
ข้อดี :
• ช่วยให้กระดูกสันหลังอยู่ในแนวธรรมชาติ
• ลดแรงกดทับที่หัวไหล่ สะโพก เข่า
• ลดความเสี่ยงจากอาการปวดคอ ปวดไหล่ หากใช้หมอนพอดี
• หน้าไม่สัมผัสหมอน ช่วยลดการเกิดริ้วรอย
ข้อเสีย :
• เสี่ยง “นอนกรน” และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
• ไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคอ้วน หรือโรคกรดไหลย้อน
• หากหมอนไม่พอดี อาจปวดต้นคอ หรือปวดหลังได้
เหมาะกับใคร :
• คนที่มีอาการปวดหลัง (โดยเฉพาะถ้าเสริมหมอนรองใต้เข่า)
• คนที่มีแนวกระดูกสันหลังไม่เบี้ยว
• คนที่ไม่มีปัญหาเรื่องการหายใจ
2. นอนตะแคงซ้าย
ถือเป็นท่านอนที่แพทย์มักแนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องกรดไหลย้อน และหญิงตั้งครรภ์
ข้อดี :
• ช่วยให้กรดไหลย้อนลดลง เพราะกระเพาะอยู่ต่ำกว่าแนวหลอดอาหาร
• ช่วยให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้นในบางภาวะ
• เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะต่าง ๆ
• ดีต่อหญิงตั้งครรภ์ ช่วยลดแรงกดทับทารก
ข้อเสีย :
• อาจเกิดแรงกดทับไหล่หรือสะโพกซ้าย
• อาจทำให้ผิวหน้าด้านที่นอนเหี่ยวย่น
• หากงอขามากเกินไป อาจทำให้กระดูกสันหลังโค้งผิดธรรมชาติ
เหมาะกับใคร :
• คนที่เป็นโรคกระเพาะ โรคกรดไหลย้อน
• หญิงตั้งครรภ์
• คนที่มีหัวใจโตเล็กน้อย
3. นอนตะแคงขวา
เป็นท่าที่หลายคนเลือกโดยไม่รู้ตัว เพราะสบายและนอนหลับได้ง่าย
ข้อดี :
• ทำให้รู้สึกสงบ ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น
• ลดแรงกดของหัวใจ (บางกรณี)
• เหมาะกับคนที่ไม่เป็นกรดไหลย้อน
ข้อเสีย :
• เพิ่มความเสี่ยงกรดไหลย้อน เพราะกระเพาะอยู่สูงกว่าแนวหลอดอาหาร
• อาจเพิ่มแรงกดที่หัวใจในผู้ป่วยโรคหัวใจบางชนิด
เหมาะกับใคร :
• คนที่ไม่มีโรคประจำตัว
• คนที่นอนตะแคงขวาแล้วรู้สึกสบายกว่า
4. นอนคว่ำ
ท่านี้อาจทำให้รู้สึกหลับลึกในบางคน แต่ถือว่าเป็น “ท่านอนที่ควรหลีกเลี่ยง” โดยทั่วไป
ข้อดี :
• ลดการกรนในบางคน
• บางกรณีช่วยเปิดทางเดินหายใจในผู้ป่วยภาวะหายใจล้มเหลว ใน ICU
ข้อเสีย :
• ทำให้คอต้องบิดตลอดเวลา เสี่ยงปวดคอ
• กดทับหน้าอก ทำให้หายใจลำบาก
• ผิวหน้าถูกกดกับหมอน เสี่ยงหน้าพัง
• รบกวนการไหลเวียนของเลือด
• เสี่ยงกระดูกสันหลังบิดเบี้ยว
เหมาะกับใคร :
• ผู้ป่วยบางรายใน ICU ภายใต้การควบคุมของแพทย์
• ไม่แนะนำในชีวิตประจำวัน
5. นอนขดตัวแบบทารก
เป็นท่านอนยอดนิยมในหมู่คนที่นอนหลับยาก เพราะให้ความรู้สึกปลอดภัย
ข้อดี :
• ลดอาการกรน
• ดีสำหรับหญิงตั้งครรภ์ (โดยเฉพาะตะแคงซ้าย)
• ให้ความรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย
• ลดแรงดึงของกล้ามเนื้อหลังล่างบางส่วน
ข้อเสีย :
• หากขดตัวมากเกินไป จะโค้งหลังผิดธรรมชาติ
• กดทับหน้าและเข่า
• อาจรบกวนการหายใจ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
เหมาะกับใคร :
• คนที่นอนหลับยาก
• หญิงตั้งครรภ์
• คนที่ชอบรู้สึกอบอุ่น
มีแน่นอน! และเป็นสิ่งที่นักกายภาพบำบัด หรือแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูมักแนะนำเป็นอันดับต้นๆ ในคนไข้ที่มีอาการปวดหลังเรื้อรัง หรือปวดหลังหลังตื่นนอน
• นอนหงาย + วางหมอนรองใต้เข่า
ช่วยลดแรงดึงจากเอ็นหลัง กระดูกสันหลังตรงในแนวธรรมชาติ และผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
• นอนตะแคง + หมอนข้างระหว่างขา
ช่วยจัดแนวกระดูกเชิงกรานให้สมดุล ลดการบิดหมุนของหลังช่วงล่าง
เพราะท่านี้ทำให้หลังแอ่น คอต้องบิด ส่งผลเสียโดยตรงกับคนที่มีอาการปวดหลังหรือหมอนรองกระดูกเสื่อม
• ใช้หมอนรองศีรษะที่พอดี ไม่สูงเกินไป
• ที่นอนไม่ควรนุ่มจนจม หรือแข็งจนกระดูกกดทับ
• เปลี่ยนท่านอนหากรู้สึกชาบริเวณใดบริเวณหนึ่งนานเกิน 30 นาที
• หากนอนตะแคง ให้ขาทั้งสองงอเล็กน้อย แล้วหนีบหมอนข้างระหว่างเข่า
1. นอนตะแคงซ้าย + กอดหมอนข้าง
• ช่วยลดแรงกดบนกระดูกสันหลัง
• ช่วยเรื่อง กรดไหลย้อน เพราะกระเพาะจะอยู่ต่ำกว่าแนวหลอดอาหาร
• ลดแรงกดทับต่อหัวใจ
• กอดหมอนข้างจะช่วยให้กระดูกเชิงกรานไม่บิด
แนะนำ : งอเข่าเล็กน้อย + หนีบหมอนข้างไว้ระหว่างเข่า
2. นอนหงาย + วางหมอนรองใต้เข่า
• ช่วยกระจายน้ำหนักทั่วร่างกาย ไม่ลงจุดใดจุดหนึ่งมากเกินไป
• ลดอาการ ปวดหลังช่วงล่าง จากการแอ่นหลังมากเกิน
• ช่วยให้การหายใจดีขึ้น (ถ้าศีรษะสูงเล็กน้อย)
แนะนำ : ใช้หมอนรองเข่าแบบโค้งรับพอดี และหมอนศีรษะที่ไม่สูงเกินไป
1. นอนคว่ำ
• ทำให้หายใจลำบาก เพราะน้ำหนักร่างกายกดทับทรวงอก
• ทำให้คอบิดและแอ่นหลังผิดธรรมชาติ
• เพิ่มแรงกดที่หน้าท้อง หัวใจ และทางเดินหายใจ
2. นอนหงายราบ โดยไม่มีการหนุนหลังหรือยกศีรษะ
• เพิ่มโอกาส นอนกรนรุนแรง และ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
• ทำให้ลิ้นตกไปอุดทางเดินหายใจ
เคล็ดลับเสริมสำหรับคนน้ำหนักเกิน
• ใช้ หมอนรองขา ช่วยลดแรงกดทับเส้นเลือดที่ขา
• ใช้ หมอนรองหลังหรือเบาะโค้ง ช่วยพยุงแนวกระดูกสันหลัง
• หากมีปัญหานอนกรน ควรใช้ หมอนยกศีรษะ หรือเตียงที่ปรับองศาได้
• หมั่นเปลี่ยนท่านอนทุก 2-3 ชั่วโมง หากมีอาการชา หรือปวดจุดใดจุดหนึ่ง
การนอนที่ดี ไม่ใช่แค่ “หลับให้พอ” แต่ต้อง “หลับให้ถูกท่า” การเลือกท่านอนที่เหมาะสม ช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพเรื้อรัง ทั้งในระบบโครงสร้างร่างกาย ระบบทางเดินอาหาร ระบบหายใจ รวมถึงช่วยให้คุณตื่นมาพร้อมความสดชื่น ไม่ปวดเมื่อย ไม่หงุดหงิด
อย่ามองข้ามแค่ “ท่านอน” เพราะมันคือจิ๊กซอว์สำคัญของสุขภาพที่ดีในระยะยาว หากคุณกำลังปวดหลัง หรือตื่นมาแล้วไม่สดชื่น ลองเริ่มต้นที่ง่ายที่สุดก่อนเลย เปลี่ยนท่านอนให้ถูกต้องตั้งแต่คืนนี้
อ้างอิงข้อมูล :
1. Association Between Sleep Position, Obesity, and Obstructive Sleep Apnea Severity (J Personalized Med, 2024)
2. Obstructive sleep apnea and obesity: A review (ScienceDirect)
3. Sleep positions and nocturnal body movements based on free-living accelerometer data (DovePress)
4. Obstructive sleep apnoea in obesity (Wiley Online Library)
5. Back Pain and Obesity: Links, Causes, and Treatments (Healthline)
6. Sleeping positions that reduce back pain (Mayo Clinic)
7. Reduce Back Pain While Sleeping (Amerisleep)
Advertisement