Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
สุขภาพดีเริ่มที่โต๊ะเพื่อนร่วมงาน ลุกเดินไปคุย ห่างไกลออฟฟิศซินโดรม

สุขภาพดีเริ่มที่โต๊ะเพื่อนร่วมงาน ลุกเดินไปคุย ห่างไกลออฟฟิศซินโดรม

4 มิ.ย. 68
15:39 น.
แชร์

เพื่อนร่วมงานเดินยืดเส้นยืดสายสม่ำเสมอ รู้ไว้เลยเป็นสายรักสุขภาพแน่นอน เพราะการลุกเดินไปคุยงาน ช่วยเรื่องหัวใจ สมอง ห่างไกลออฟฟิศซินโดรม

ในยุคที่เทคโนโลยีการสื่อสารพัฒนาอย่างรวดเร็ว การส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น Slack, Line, หรือ Microsoft Teams กลายเป็นเรื่องปกติในที่ทำงาน หลายคนแทบไม่จำเป็นต้องลุกจากเก้าอี้ก็สามารถทำงานหรือสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานได้ตลอดวัน

แต่รู้หรือไม่ พฤติกรรมเหล่านี้นำมาซึ่งปัญหาสุขภาพที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว เช่น อาการปวดหลังจากการนั่งนาน ภาวะสายตาล้า ความเครียดจากการสื่อสารที่ผิดพลาด เป็นต้น

ทางออกของปัญหาเล็กน้อยดังที่กล่าวมา สามารถแก้ไขได้เพียงแค่ "ลุกเดินไปคุยโต๊ะอื่น" อาจดูเหมือนเป็นการเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ แต่กลับมีประโยชน์ทางสุขภาพอย่างมากมาย โดยเฉพาะในกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่ต้องทำงานนั่งโต๊ะเป็นเวลานาน นี่ไม่ใช่แค่การสื่อสารแบบเผชิญหน้าเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการขยับร่างกาย พักสายตา ผ่อนคลายความเครียด และส่งเสริมสุขภาพจิตไปพร้อมกัน

การลุกเดินไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานที่โต๊ะอื่น ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

1. พฤติกรรมนั่งนาน ปัญหาเงียบของคนออฟฟิศ

การนั่งเป็นเวลานานๆ โดยไม่ลุกเดินหรือขยับร่างกาย มีผลกระทบต่อสุขภาพในหลายด้าน จนได้รับการจัดเป็นหนึ่งใน "พฤติกรรมเสี่ยง" ที่อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงในระยะยาว เช่น

• โรคหัวใจและหลอดเลือด

• โรคเบาหวานชนิดที่ 2

• ภาวะอ้วน

• ปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อ

• ปัญหาการไหลเวียนโลหิต

• ภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน

• ความเสี่ยงในการเกิดโรคซึมเศร้าและความวิตกกังวล

งานวิจัยจาก American Journal of Epidemiology (2017) ระบุว่า คนที่นั่งเกินวันละ 8 ชั่วโมงโดยไม่ได้เคลื่อนไหวเลย มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรสูงขึ้นถึง 52% เมื่อเทียบกับผู้ที่นั่งน้อยกว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน และมีการเคลื่อนไหวสม่ำเสมอ

2. การเดินสั้นๆ ทุก 30–60 นาที ส่งผลดีอย่างไร

ในขณะที่การออกกำลังกายเป็นเรื่องจำเป็น หลายคนอาจไม่มีเวลาหรือกำลังใจพอที่จะไปฟิตเนสทุกวัน แต่การเดินสั้นๆ ทุก 30–60 นาที เช่น การเดินไปคุยกับเพื่อนร่วมงาน ก็สามารถลดผลเสียจากการนั่งนานได้อย่างมีนัยสำคัญ

ประโยชน์ที่ได้รับจากการเดินระหว่างวัน

• กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด โดยเฉพาะไปยังส่วนล่างของร่างกาย

• ลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะหลัง ไหล่ และต้นคอ

• ลดระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิต

• กระตุ้นการทำงานของสมอง ทำให้มีสมาธิและคิดงานได้ดีขึ้น

• ช่วยเผาผลาญพลังงาน แม้จะเป็นการเดินเบาๆ

3. ลดความเครียด และส่งเสริมสุขภาพจิต

เมื่อคุณเดินไปคุยกับเพื่อนร่วมงาน แทนที่จะสื่อสารผ่านแชต คุณจะได้รับ "ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม" (Social Interaction) ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยบรรเทาความรู้สึกโดดเดี่ยว ความตึงเครียด และความเบื่อหน่ายได้อย่างมาก โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีความกดดันสูง

การได้สบตา พูดคุย แลกเปลี่ยนรอยยิ้ม หรือแม้แต่การหยอกล้อเบาๆ ช่วยกระตุ้นสารเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) หรือสารแห่งความสุขในสมอง ซึ่งจะช่วยผ่อนคลายความเครียด ลดความวิตกกังวล และช่วยให้คุณรู้สึกมีพลังในการทำงานต่อ

4. พักสายตาอย่างได้ผล ลดความเสี่ยงจากโรคสายตาคอมพิวเตอร์

หลายคนทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดวันจนเกิดอาการที่เรียกว่า Computer Vision Syndrome (CVS) ซึ่งมีอาการที่พบบ่อย ได้แก่ ตาแห้ง ปวดตา แสบตา มองภาพเบลอ และปวดหัว

การลุกเดินไปพูดคุยกับคนอื่นจะช่วยให้ดวงตาได้หยุดใช้งาน ลดการจ้องหน้าจอติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพดวงตา โดยเฉพาะถ้าคุณลุกเดินทุก 30 นาที พร้อมพักสายตาตามหลัก 20-20-20 คือ มองไกล 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที ทุก 20 นาที

5. กระตุ้นสมอง เพิ่มสมาธิและประสิทธิภาพการทำงาน

เมื่อร่างกายเคลื่อนไหว สมองก็ได้รับออกซิเจนมากขึ้น ซึ่งจะกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท ส่งผลให้คุณมีสมาธิ ความคิดสร้างสรรค์ และการตัดสินใจที่ดีขึ้น

การเดินยังช่วยกระตุ้น "Default Mode Network" ในสมอง ซึ่งมีส่วนช่วยในการคิดวิเคราะห์และจินตนาการเชิงลึก งานวิจัยจาก Stanford University ยังพบว่า คนที่เดินเป็นประจำมีแนวโน้มจะมีไอเดียใหม่ๆ มากกว่าคนที่นั่งเฉยๆ อย่างมีนัยสำคัญ

6. พัฒนาทักษะการสื่อสาร สร้างทีมเวิร์กที่ดี

การสื่อสารแบบเผชิญหน้า (Face-to-Face Communication) ช่วยลดความเข้าใจผิดจากการพิมพ์ข้อความ ซึ่งบางครั้งอาจตีความผิดได้ง่าย การเดินไปพูดคุยโดยตรงยังเปิดโอกาสให้สื่อสารด้วยน้ำเสียง สีหน้า และท่าทางที่เป็นธรรมชาติ ทำให้เกิดความเข้าใจกันมากขึ้น

นอกจากนี้ การมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานบ่อยครั้งในเชิงบวก ยังช่วยสร้างความรู้สึกของความเป็นทีม ลดความรู้สึกแบ่งแยก และเพิ่มความผูกพันกับองค์กร

7. ส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพในที่ทำงาน

องค์กรที่ส่งเสริมให้พนักงานลุกเดินบ้างในระหว่างวัน เช่น การมีพื้นที่เปิด เดินคุยได้ หรือสนับสนุนกิจกรรมระหว่างทีม ล้วนแล้วแต่ส่งผลดีทั้งต่อสุขภาพพนักงาน และประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม

8. เคล็ดลับเปลี่ยนพฤติกรรมให้กลายเป็นนิสัยสุขภาพดี

• ตั้งเวลาเตือนทุก 30–60 นาที ให้ลุกเดิน

• ใช้บันไดแทนลิฟต์ถ้าขึ้นแค่ 1–2 ชั้น

• เมื่อมีคำถามเรื่องงาน ให้เดินไปถามที่โต๊ะ แทนการพิมพ์

จากงานวิจัยของ ฮาร์วาร์ด ค้นพบว่าการนั่งเฉยๆ เป็นเวลานานๆ ใน 1 วัน นั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้เท่าๆ กับการสูบบุหรี่ เพราะฉะนั้นการเคลื่อนไหวเล็กๆ ระหว่างวันจึงสำคัญไม่แพ้การออกกำลังกายจริงจัง

"เดินไปคุยโต๊ะอื่น" แท้จริงแล้วคือกุญแจสำคัญที่ช่วยคลายผลกระทบจากการทำงานแบบนั่งโต๊ะ ลดความเครียด บรรเทาอาการล้าของดวงตา เสริมสร้างสมองให้ตื่นตัว และส่งเสริมสุขภาพจิตอย่างได้ผล

การเดินแต่พอดีส่งผลดีต่อสุขภาพ แต่ถ้าเดินทั้งวัน แต่งานกลับไม่เดิน หากเป็นเช่นนั้น "หัวหน้า" อาจเดินมาหาที่โต๊ะก็ได้ ...

Advertisement

แชร์
สุขภาพดีเริ่มที่โต๊ะเพื่อนร่วมงาน ลุกเดินไปคุย ห่างไกลออฟฟิศซินโดรม