Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เครื่องยนต์วางหน้า vs เครื่องยนต์วางหลัง ตำแหน่งที่กำหนดสมรรถนะรถยนต์

เครื่องยนต์วางหน้า vs เครื่องยนต์วางหลัง ตำแหน่งที่กำหนดสมรรถนะรถยนต์

3 ส.ค. 68
16:00 น.
แชร์

ในโลกของการออกแบบรถยนต์ ตำแหน่งการวางเครื่องยนต์เป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลอย่างมหาศาลต่อคุณลักษณะการขับขี่, สมดุลของรถ, พื้นที่ภายในห้องโดยสาร, และแม้กระทั่งความปลอดภัย โดยหลักๆ แล้ว การวางเครื่องยนต์สามารถแบ่งออกได้เป็นสองรูปแบบใหญ่ๆ คือ เครื่องยนต์วางหน้า (Front-Engine) และ เครื่องยนต์วางหลัง (Rear-Engine) ซึ่งแต่ละแบบก็มีปรัชญาการออกแบบที่แตกต่างกัน มีข้อดีข้อเสียเฉพาะตัวที่ทำให้เหมาะกับรถยนต์ประเภทและวัตถุประสงค์การใช้งานที่ต่างกัน บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจความแตกต่างเหล่านี้อย่างละเอียด

1. เครื่องยนต์วางหน้า (Front-Engine Layout)

นี่คือรูปแบบการจัดวางเครื่องยนต์ที่พบเห็นได้มากที่สุดในรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง, SUV, รถกระบะ ไปจนถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่ เครื่องยนต์จะถูกติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของรถยนต์ โดยอาจแบ่งย่อยได้อีกเป็น:

  • Front-Engine, Front-Wheel Drive (FF) เครื่องยนต์อยู่ด้านหน้า ขับเคลื่อนล้อหน้า เป็นที่นิยมที่สุดในรถยนต์นั่งทั่วไป เนื่องจากประหยัดพื้นที่, ต้นทุนการผลิตต่ำ, และมีเสถียรภาพในการขับขี่ที่ดีในสภาพถนนเปียก
  • Front-Engine, Rear-Wheel Drive (FR) เครื่องยนต์อยู่ด้านหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง มักพบในรถยนต์สมรรถนะสูง, รถสปอร์ต, รถกระบะ, และรถ SUV ขนาดใหญ่ ให้สมดุลน้ำหนักที่ดีกว่าและเป็นที่นิยมสำหรับการขับขี่แบบสปอร์ต
  • Front-Engine, All-Wheel Drive (FA or F4) เครื่องยนต์อยู่ด้านหน้า ขับเคลื่อนสี่ล้อ พบได้ทั้งในรถยนต์สมรรถนะสูงและรถ SUV ที่ต้องการการยึดเกาะถนนสูงสุด

ข้อดีของเครื่องยนต์วางหน้า

  • พื้นที่ห้องโดยสารและสัมภาระ FF (Front-Engine, Front-Wheel Drive) เนื่องจากเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนทั้งหมดรวมอยู่ที่ด้านหน้า ทำให้พื้นที่ด้านหลังของรถ รวมถึงห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระ สามารถออกแบบให้กว้างขวางได้เต็มที่โดยไม่มีเพลากลางเกะกะ (ในกรณีที่เป็นขับเคลื่อนล้อหน้า) จึงเหมาะสำหรับรถยนต์ที่เน้นการใช้งานในชีวิตประจำวันและครอบครัวFR (Front-Engine, Rear-Wheel Drive) แม้จะมีเพลากลางพาดผ่านใต้ท้องรถ แต่การวางเครื่องยนต์ด้านหน้าก็ยังคงทำให้ห้องโดยสารค่อนข้างกว้างขวาง และมีการกระจายน้ำหนักที่ดีขึ้น
  • การระบายความร้อน ตำแหน่งด้านหน้าของรถทำให้สามารถติดตั้งหม้อน้ำและพัดลมระบายความร้อนได้ง่าย รับลมปะทะโดยตรงในขณะขับขี่ ทำให้การระบายความร้อนเครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูง
  • การเข้าถึงและซ่อมบำรุง ช่างสามารถเข้าถึงเครื่องยนต์และชิ้นส่วนต่างๆ ได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์วางกลางหรือวางหลัง ทำให้การตรวจเช็ค ซ่อมบำรุง หรือเปลี่ยนอะไหล่ทำได้สะดวกและใช้เวลาน้อยลง
  • ความปลอดภัยในการชนด้านหน้า ในกรณีที่เกิดการชนด้านหน้า เครื่องยนต์ที่อยู่ด้านหน้าจะทำหน้าที่เป็นส่วนที่ดูดซับแรงกระแทก ช่วยลดแรงที่ส่งไปยังห้องโดยสารและผู้โดยสารได้
  • เสถียรภาพในการขับขี่ (FF) ในรถขับเคลื่อนล้อหน้า น้ำหนักของเครื่องยนต์ที่กดทับลงบนล้อขับเคลื่อนช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนพื้นผิวที่ลื่นหรือเปียก

ข้อเสียของเครื่องยนต์วางหน้า

  • สมดุลน้ำหนัก:FF (Front-Engine, Front-Wheel Drive) น้ำหนักส่วนใหญ่ของรถจะกระจุกตัวอยู่ที่ด้านหน้า ทำให้สมดุลน้ำหนักหน้า-หลังไม่สมมาตร (มักจะอยู่ที่ประมาณ 60:40 หรือ 70:30) ซึ่งอาจทำให้การควบคุมรถในทางโค้งด้วยความเร็วสูงมีอาการ "หน้าดื้อโค้ง" (understeer) ได้ง่ายกว่าFR (Front-Engine, Rear-Wheel Drive): แม้จะดีกว่า FF แต่ก็ยังไม่สมดุลเท่ารถวางกลาง
  • การถ่ายกำลัง (FR) ในรถขับเคลื่อนล้อหลังที่เครื่องยนต์วางหน้า จำเป็นต้องมีเพลากลางส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปที่ล้อหลัง ซึ่งทำให้เกิดการสูญเสียกำลังบ้างในระหว่างการส่งผ่าน และเพิ่มความซับซ้อนของโครงสร้าง
  • การยึดเกาะล้อขับเคลื่อน (FR) ในรถขับเคลื่อนล้อหลัง เมื่อเร่งความเร็ว น้ำหนักของรถจะถ่ายเทไปด้านหลัง ทำให้ล้อหน้าซึ่งไม่ได้ขับเคลื่อนอาจมีอาการลอยเล็กน้อย และล้อหลังต้องรับภาระในการยึดเกาะทั้งหมด ทำให้การออกตัวอาจมีอาการล้อฟรีได้ง่ายกว่าในรถแรงม้าสูง
  • เสียงรบกวนและความร้อนในห้องโดยสาร เครื่องยนต์ที่อยู่ใกล้ห้องโดยสารด้านหน้า อาจส่งเสียงรบกวนและความร้อนเข้ามาภายในได้มากกว่า

2. เครื่องยนต์วางหลัง (Rear-Engine Layout)

รูปแบบการจัดวางเครื่องยนต์ที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของรถยนต์ โดยทั่วไปแล้ว เครื่องยนต์วางหลังมักจะใช้กับรถสปอร์ตบางรุ่น (เช่น Porsche 911) รถยนต์ขนาดเล็กพิเศษในอดีต (เช่น VW Beetle) หรือรถบัสบางประเภท เนื่องจากมีข้อได้เปรียบเฉพาะตัวในการขับเคลื่อนล้อหลัง

ข้อดีของเครื่องยนต์วางหลัง

  • การยึดเกาะล้อขับเคลื่อน เนื่องจากเครื่องยนต์ที่มีน้ำหนักมากถูกวางอยู่เหนือเพลาขับเคลื่อนล้อหลังโดยตรง ทำให้ล้อหลังมีแรงกดทับสูงมาก ส่งผลให้การยึดเกาะถนนในการออกตัวและการเร่งความเร็วทำได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถสปอร์ตที่ต้องการอัตราเร่งสูง
  • ไม่มีเพลากลาง (ถ้าเป็นขับเคลื่อนล้อหลัง) เนื่องจากเครื่องยนต์อยู่ใกล้กับล้อหลังที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อน ทำให้สามารถส่งกำลังไปยังล้อได้โดยตรงโดยไม่จำเป็นต้องมีเพลากลางที่ยาว ซึ่งช่วยลดการสูญเสียกำลังจากการส่งผ่านและลดความซับซ้อนของระบบขับเคลื่อน
  • พื้นที่ด้านหน้ากว้างขวาง พื้นที่ด้านหน้าของรถสามารถนำไปใช้สำหรับห้องเก็บสัมภาระ (Frunk – Front Trunk) หรือสำหรับการออกแบบให้มีลักษณะเฉพาะตัวมากขึ้น
  • สมดุลน้ำหนัก (บางรุ่น) แม้ว่าน้ำหนักจะไปกระจุกตัวที่ด้านหลัง แต่ในการออกแบบรถสปอร์ตบางรุ่น (เช่น Porsche 911) วิศวกรได้ใช้ประโยชน์จากน้ำหนักที่ด้านหลังเพื่อเพิ่มการยึดเกาะในทางโค้งเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ทำให้การควบคุมรถมีเอกลักษณ์และเป็นที่ชื่นชอบของนักขับ
  • เสียงและกลิ่นเครื่องยนต์ เสียงและกลิ่นจากเครื่องยนต์จะอยู่ห่างจากห้องโดยสารด้านหน้า ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับประสบการณ์ที่เงียบสงบและสบายขึ้น

ข้อเสียของเครื่องยนต์วางหลัง

  • สมดุลน้ำหนักและพฤติกรรมการขับขี่ การที่น้ำหนักส่วนใหญ่อยู่ที่ด้านหลัง ทำให้เกิดอาการ "ท้ายปัด" (oversteer) ได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะเมื่อยกคันเร่งกลางโค้งหรือเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ซึ่งอาจควบคุมได้ยากสำหรับผู้ขับขี่ที่ไม่มีประสบการณ์มากพอ ทำให้ต้องอาศัยทักษะการขับขี่ที่สูงกว่า
  • การระบายความร้อน การระบายความร้อนทำได้ยากกว่า เนื่องจากเครื่องยนต์ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่รับลมปะทะโดยตรง ต้องอาศัยพัดลมระบายความร้อนขนาดใหญ่และช่องรับลมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ซึ่งอาจเพิ่มความซับซ้อนและน้ำหนัก
  • พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง พื้นที่ด้านหลังจะถูกใช้ไปกับเครื่องยนต์ ทำให้พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีจำกัด หรืออาจไม่มีเลยในบางรุ่น
  • ความปลอดภัยในการชนด้านหลัง หากเกิดการชนจากด้านหลัง เครื่องยนต์อาจถูกดันเข้าสู่ห้องโดยสาร ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้โดยสารได้มากกว่า
  • การเข้าถึงและซ่อมบำรุง การเข้าถึงเครื่องยนต์เพื่อทำการซ่อมบำรุงทำได้ยากกว่า เนื่องจากต้องถอดชิ้นส่วนภายนอกจำนวนมาก หรืออาจต้องใช้เครื่องมือพิเศษในการเข้าถึง

การเลือกตำแหน่งการวางเครื่องยนต์เป็นหัวใจสำคัญในการกำหนดบุคลิกและประสิทธิภาพของรถยนต์ โดยสรุปแล้ว

  • เครื่องยนต์วางหน้า เป็นการจัดวางที่เน้น ความอเนกประสงค์, พื้นที่ใช้สอย, ความง่ายในการซ่อมบำรุง, และความปลอดภัยในการชนด้านหน้า เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานส่วนใหญ่
  • เครื่องยนต์วางหลัง เป็นการจัดวางที่เน้น สมรรถนะการยึดเกาะ, อัตราเร่งที่รุนแรง, และประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร มักพบในรถสปอร์ตเฉพาะกลุ่มที่ผู้ขับขี่ต้องการความท้าทายและสามารถควบคุมรถที่มีลักษณะเฉพาะตัวได้

ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์วางหน้าหรือวางหลัง ต่างก็มีข้อดีข้อเสียที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งสะท้อนถึงวิศวกรรมการออกแบบที่คำนึงถึงวัตถุประสงค์การใช้งานและประสบการณ์ที่ผู้ขับขี่จะได้รับอย่างแท้จริง การทำความเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกประเภทรถที่เหมาะสมกับสไตล์การขับขี่และความต้องการของคุณได้ดียิ่งขึ้น

แชร์
เครื่องยนต์วางหน้า vs เครื่องยนต์วางหลัง ตำแหน่งที่กำหนดสมรรถนะรถยนต์