ลุยเทส New Forester 2022 ช่วงล่างนิ่ง ไม่เน้นซิ่ง เทคโนโลยีล้ำ

17 พ.ย. 65

The New Forester เปิดตัวให้เห็นหน้าคร่าตากันไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 14 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าแบบเห็นชัดสุดก็คือหน้าตาของมัน ที่ถูกปรับแต่งใหม่หมด ทั้งไฟหน้า กระจังหน้า กันชน รวมถึงไฟตัดหมอก ทำให้มันดูมีความโฉบเฉี่ยว และดูทันสมัยขึ้นมาอีกนิด (คลิปทดสอบ The New Forester)

29

แต่สำหรับขุมพลังเครื่องยนต์ของ New Forester ยังคงใช้เป็นเครื่องยนต์บล็อกเดิมกับตัวก่อนหน้า คือเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ ขนาด 1995 ซีซี ให้กำลังที่ 156 แรงม้า แรงบิด 196 นิวตันเมตร ทำงานควบคู่กับเกียร์ Lineartronic CVT 7 สปีด

ความเร็วจากจุดหยุดนิ่งถึง 100 กม./ชม. ใช้เวลา 10.3 วินาที โรงงานเคลมอัตราบริโภคน้ำมันประมาณ 13.7 กม./ลิตร New Forester จะทำการประกอบในประเทศไทย ที่โรงงาน ตันจง ซูบารุ ออโตโมทีฟ เผยโฉมครั้งแรกในประเทศไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา

27

28

New Forester มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย

• Forester 2.0i-L EyeSight
• Forester 2.0i-S EyeSight

โดยที่รุ่น 2.0i-L EyeSight จะเป็นตัวที่ปรับลดอุปกรณ์บางจุด เพื่อให้ราคาต่ำลงมาให้ตอบโจทย์สำหรับคนที่มองถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก ไม่เน้นเรื่องฟังก์ชันการตกแต่ง โดยที่ทั้ง 2 รุ่นย่อยจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีช่วยขับขี่เวอร์ชันล่าสุด EyeSight 4.0 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่ติดตั้งอยู่ใน Subaru Outback และ Subaru WRX นั่นเอง

11

อีกหนึ่งจุดขายที่ทาง Subaru นำเสนอใน New Forester คือระบบ Real X-MODE ที่ทำงานควบคู่กับการขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร และระบบ EyeSight 4.0 ทำให้การขับขีี่บนทุกพื้นที่ไม่ว่าจะทางเรียบ ทางราบ บุกป่า ฝ่าดง ทาง Subaru การันตีเลยทีเดียวว่าเจ้า New Forester สามารถผ่านอุปสรรคเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย

ความแตกต่างของกล้องสเตอริโอที่มีการปรับปรุงใหม่ ระหว่าง EyeSight 3.0 และ EyeSight 4.0 คือ

• EyeSight 4.0 มองได้ไกล 130 เมตร (EyeSight 3.0 110 เมตร)
• EyeSight 4.0 มองแนวนอน 63 องศา (EyeSight 3.0 35 องศา)
• EyeSight 4.0 มองแนวตั้ง 19 องศา (EyeSight 3.0 9 องศา)

มิติตัวรถอยู่ที่ 4640 x 1815 x 1730 มม. ระยะฐานล้อ 2670 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้นถนน 220 มม. ขนาดล้อจะเป็นขนาด 18 นิ้ว ยาง 225/55 R18 ในรุ่น 2.0i-S EyeSight และจะเป็นล้อขนาด 17 นิ้ว ยาง 225/60 R17

13

ระบบความปลอดภัยขณะเคลื่อนที่ของ New Forester

• ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร Symmetrical All-Wheel Drive
• ระบบรองรับแรงสั่นสะเทือนอิสระ 4 ล้อ
• ระบบควบคุมการทรงตัว (VDC)
• X-MODE (Forester 2.0i-L EyeSight)
• Special X-MODE (Forester 2.0i-S EyeSight)
• ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก
• ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ
• ระบบช่วยกระจายแรงบิดขณะเข้าโค้ง
• ระบบเสริมแรงเบรก และป้องกันคันเร่งค้าง
• เบรกมือไฟฟ้า

22

ระบบความปลอดภัยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ New Forester

• EyeSight 4.0
• ไฟหน้าเลี้ยวตามพวงมาลัย (เฉพาะ Forester 2.0i-S EyeSight)
• ไฟหน้าสูงต่ำอัตโนมัติ (เฉพาะ Forester 2.0i-S EyeSight)
• กระจกไฟฟ้ากันหนีบ
• ระบบตรวจจับผู้โดยสารตอนหลัง
• ระบบล็อกประตูป้องกันเด็ก
• พื้นเหยียบกันลื่นด้านข้าง
• ฝาท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี จดจำตำแหน่ง (เฉพาะ Forester 2.0i-S EyeSight)
• ไฟเตือนเบรกฉุกเฉิน
• ระบบตรวจจับวัตถุด้านหลัง (เฉพาะ Forester 2.0i-S EyeSight)

23

ความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน New Forester

• Subaru Global Platform
• เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังสไลด์ลงด้านล่าง
• โครงสร้างนิรภัยรูปวงแหวน พร้อมโครงสร้างด้านในแบบเต็ม
• กันชนหน้าพร้อมโครงสร้างซับแรงกระแทก
• ถุงลมนิรภัย 8 ตำแหน่ง
• หลังคาป้องกันกรณีพลิกคว่ำ และระบบปลดล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อเกิดการชน
• เข็มขัดนิรภัย 3 จุดสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

26

สิ่งอำนวยความสะดวก New Forester

• โหมดขับขี่ SI-Drive
• หน้าจอกลางระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
• ระบบล็อก-ปลดล็อกโดยไม่ใช้กุญแจ
• เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
• พวงมาลัยปรับทิศทางได้
• ราวหลังคา
• พนักพิงศีรษะปรับขึ้นลง และก้มเงยได้
• ไฟหน้า LED
• ระบบปรับอากาศแยกซ้ายขวา ปรับทิศทางอัตโนมัติ
• ไฟตัดหมอกหน้า LED (เฉพาะ Forester 2.0i-S EyeSight)
• ไฟตัดหมอกหลัง LED

15

New Forester ลองขับ

หลังเล่าถึงรายละเอียดเกี่ยวกับตัวรถไปแล้ว คราวนี้มาถึงเรื่องเล่าหลังทดลองขับในสนามกันบ้างครับ หลังจากได้มีโอกาสสัมผัสเจ้า Forester ใหม่ ต้องเล่าแบบนี้ว่าสิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ ช่วงล่าง ที่น่าจะมีการปรับจูนมาใหม่ (รุ่นหลักที่ใช้ทดสอบ Forester 2.0i-L EyeSight) ให้ความรู้สึกมั่นใจเวลาสาดโค้งด้วยความเร็ว อาการหน้าจิกโค้งแสดงออกให้เห็นเด่นชัดมากๆ เรียกว่า จิกให้อยู่ ก็คงประมาณนั้น

17

แต่จุดสังเกตุอีกจุด คือกำลังเครื่องยนต์ที่มีแรงม้ามาให้กระหน่ำราว 156 ตัว มันดูจะไม่เร้าใจสักเท่าไหร่ถ้าว่ากันตามตรง การออกตัวกับการบรรทุกชายฉกรรจ์ 5 คนดูตัวรถออกอาการอืดอาดให้ได้เห็น แต่เมื่อความเร็วถึงจุดนึงแล้วก็ไม่ใช่ปัญหา

19

การทดสอบระบบ EyeSight 4.0 ที่ผมชอบมากๆ คือการจับติดรถคันหน้า แม้จะมีเลนถนนหรือไม่ก็ตาม เรียกว่าระบบขีปนาวุธก็ได้ ทีมวิศวกรเขาว่ามาแบบนั้น ก็คือคันหน้าไปไหนฉันไปด้วย เอาสิ แต่จะว่าไปมันก็ทำงานได้ดีไม่เลวเลยทีเดียว

21

ในส่วนของการทดสอบระบบ X-MODE ที่ทาง Subaru หมายมั่นปั้นจุดขาย ถือว่าทำงานได้ไม่เลว ที่สำคัญในตัว New Forester ยังได้อัปเกรด X-MODE ใหม่ ที่จะมาพร้อมกับ Standby Mode คือเมื่อใช้ความเร็วที่มากกว่า 40 กม./ชม. และจะกลับมาทำงานอีกครั้งเมื่อความเร็วลดต่ำกว่า 35 กม./ชม. เส้นทางที่เราได้ทดสอบอาจไม่ถึงขึ้นโหดดุเดือดมาก จากประเมินด้วยสายตาคิดว่ารถขับสี่ทั่วไปก็ผ่านได้ไม่ยาก แต่ทาง Subaru ให้เราทดลองขับในโหมดธรรมดาและเมื่อเทียบกับการเปิดใช้ X-MODE แล้ว เออก็จริงนะมันต่างกันไม่น้อยเลยครับ มันรู้สึกว่าตัวรถขับเคลื่อนผ่านโคลนเฉอะแฉะไปอย่างง่ายดายทีเดียว

16

การทดลองขับในสนามครั้งนี้มีข้อจำกัดอยู่บ้างในเรื่องระยะเวลา หรือระยะทางที่ไม่ได้สัมผัสแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ก็ต้องบอกว่ามันก็เพียงพอให้รับรู้ได้ถึงการปรับเปลี่ยนที่ดีขึ้นของ Forester เจเนอเรชันที่ 5 ครับ คราวนี้คงต้องมาดูกันในส่วนของราคาที่จะประกาศในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ว่าจะโดนใจกลุ่มลูกค้าชาวไทยแค่ไหน ซึ่งถ้าใครจองในช่วงนี้ล็อตแรกที่จะทำการส่งมอบได้จะอยู่ประมาณมีนาคมปี 2566 เป็นต้นไปครับ

advertisement

Powered by CarsBoy

ยานยนต์ คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม