บิล เกตส์ เชื่อปี2565 โควิด19 ยุติ ... ยา และ วัคซีน พัฒนาขึ้นอีก

8 ธ.ค. 64

บิล เกตส์ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ แสดงความเห็นถึงสถานกาณ์โควิด19 ว่า น่าจะยุติลงในปีหน้า แม้โลกต้องเจอโควิด19 สายพันธุ์โอมิครอน แต่เค้าเชื่อมั่นในการเตรียมรับมือ ทั้งยา และวัคซีน ที่จะถูกพัฒนาให้ดีมากขึ้น

 

8 ธ.ค.64 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บิล เกตส์ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2564 นี้ว่าจะไม่คลี่คลายอย่างที่เขาคาดหวังไว้   เนื่องจากจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในปีนี้มากกว่าในปี 2563 รวมถึงการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา และอุปสรรคต่าง ๆ ในการระดมฉีดวัคซีน ทำให้ความคืบหน้าไม่เป็นไปตามที่คาดไว้  โดยนายเกตส์ได้โพสต์บนเว็บบล็อกของเขาเมื่อวานนี้ (7 ธ.ค.)

 

"ผมประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไปในแง่ที่ว่า เป็นเรื่องยากที่จะโน้มน้าวให้คนหันมาฉีดวัคซีนและสวมหน้ากากอนามัยกันต่อไป"

 

แต่บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ ยังมีมุมมองที่เป็นบวกในปี 2565  โดยบอกว่า  “การระบาดที่ลุกลามรุนแรงจะสิ้นสุดลง ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในปีหน้า โดยการคาดการณ์ของนายเกตส์นั้นมีขึ้นในช่วงที่ทั่วโลกกำลังรับมือกับโอมิครอนซึ่งเป็นไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐอมเริกาใกล้แตะ 50 ล้านรายแล้ว

 

นายเกตส์ระบุว่า "เชื้อไวรัสโอมิครอนน่ากังวล แต่สิ่งที่เรารู้ตอนนี้ก็คือ โลกเตรียมพร้อมรับมือสายพันธุ์ที่มีแนวโน้มรุนแรงได้ดีขึ้นกว่าการระบาดในช่วงอื่น ๆ ที่ผ่านมา" เขายังคาดการณ์ว่า แม้การติดเชื้อโควิด-19 จะมีโอกาสเสียชีวิตได้มากกว่าโรคไข้หวัดใหญ่ถึง 10 เท่าก็ตาม แต่วัคซีนและยาต้านไวรัสอาจลดการเสียชีวิตลงได้ 50%

 

"ชุมชนต่าง ๆ จะยังพบการระบาดอยู่บ้าง แต่ยาตัวใหม่ที่จะออกมาจะสามารถใช้รักษาผู้ป่วยส่วนใหญ่ได้ และโรงพยาบาลก็จะสามารถรองรับผู้ป่วยได้"

 

นอกจากนี้ นายเกตส์ยังพูดถึงเรื่องการบิดเบือนข้อมูลซึ่งส่งผลให้ผู้คนไม่อยากฉีดวัคซีน โดยเขาแสดงความกังวลเกี่ยวกับความสามารถของรัฐบาลในการทำภารกิจใหญ่ให้ลุล่วง พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการออกกฎระเบียบเพื่อควบคุมการใช้งานโซเชียลมีเดียด้วย

 

บิล เกตส์  ถูกจัดให้เป็น บุคคลที่ร่ำรวยอันดับ ที่ 4 ของโลก ด้วยความมั่งคั่ง 135,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ตามการจัดอันดับโดย บลูกเบิร์ก บิลเลี่ยนแนร์ อินเด็กซ์  

advertisement

Powered by อมรินทร์ทีวีออนไลน์

ข่าวยอดนิยม