"เอราวัณ" ขายทิ้ง 2 โรงแรมสมุย มูลค่า 925 ลบ. ลดเสี่ยงพึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติ

1 ธ.ค. 64

นายเพชร ไกรนุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป(ERW) แจ้งต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า สำหรับกรณีความคืบหน้าเกี่ยวกับการจำหน่ายไปซึ่งเงินลงทุนในบริษัทย่อย และการจำหน่ายทรัพย์สินของบริษัท คือโรงแรม เรเนซองส์ เกาะสมุย รีสอร์ท แอนด์ สปา และการจำหน่ายโรงแรมไอบิสสมุย มูลค่ารวม 925 ล้านบาท โดยเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2564 บริษัทได้เข้าทำธุรกรรมดังต่อไปนี้


1. ขายหุ้นในบริษัทเอราวัณสมุย ให้แก่บริษัท อินฟีนิตี้ ฮอสพิแทลลิตี้ โฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 69.50 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น99% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดในบริษัทเอราวัณสมุย มูลค่าที่ตราหุ้นไว้ 10 บาท ในราคาขายรวมทั้งสิ้น 531 ล้านบาท โดยบริษัทได้รับชำระราคาขายเป็นเงินสดเรียบร้อยแล้ว

2. ขายทรัพย์สินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับไอเอสเอ็ม ให้แก่บริษัท อินฟีนิตี้ นอร์ท สมุย จำกัด ในราคาขายรวมทั้งสิ้น 394 ล้านบาท โดยบริษัทได้รับชำระราคาขายเป็นเงินสด เรียบร้อยแล้ว


สำหรับหุ้นในบริษัทเอราวัณสมุยและการจำหน่ายทรัพย์สินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับไอเอสเอ็มนั้น ทำให้บริษัทเอราวัณสมุย สิ้นสภาพจากการเป็นบริษัทย่อยของบริษัท และบริษัทไม่มีความเป็นเจ้าของใด ๆ ในไอเอสเอ็ม


นางสาววรมน อิงคตานุวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป กล่าวว่า การขายโรงแรม เรเนซองส์ เกาะสมุย รีสอร์ท แอนด์ สปา และการจำหน่ายโรงแรมไอบิสสมุย เป็นตามการดำเนินงานตามแผนการขายสินทรัพย์ที่วางไว้ โดยเงินที่บริษัทได้มาจากการขายโรงแรมทั้ง 2 แห่งจะทำให้บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และเตรียมแผนการขยายงานต่อไป


โดยการตั้่งเป้าจะขยายโรงแรม กลุ่ม HOP INN เพื่อเพิ่มรายได้ในประเทศ และลดการพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติในอนาคต โดยบริษัทตั้งเป้าหมายในปี 2567 จะเพิ่มกำไรก่อนภาษี, ค่าเสื่อม และดอกเบี้ยจ่าย(EBITDA) ในกลุ่มโรงแรม HOP INN มากกว่า 40% จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 10% เนื่องจากตลาดในประเทศมีความอ่อนไหวกับสถานการณ์ต่างๆ ค่อนข้างน้อย และฟื้นตัวได้ดีและเร็ว เมื่อเทียบกับตลาดในต่างประเทศ

advertisement

Powered by อมรินทร์ทีวีออนไลน์

ข่าวยอดนิยม