ล้างหน้าอย่างไรดีต่อผิว

16 พ.ย. 64

การล้างหน้า เป็นขั้นตอนแรก และเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ๆ ในการดูแลผิวครับ รวมถึงเป็นขั้นตอนที่หลาย ๆ ท่านยังมีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง หรือมองข้ามไป ผมอยากขอให้ทุก ๆ ท่านลองสละเวลาอันมีค่าประมาณ 3 นาที อ่านคอนเทนต์นี้แล้วลองนำไปปรับใช้ และปฏิบัติตามดูครับ ท่านจะพบว่าสุขภาพผิวหน้าของท่านจะดีขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อเลยทีเดียวครับ

ก่อนจะไปเรื่องผลิตภัณฑ์ล้างหน้าและวิธีการล้างหน้า ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนเลยครับว่าตกเย็นกลับถึงบ้าน ใบหน้าเรามีสิ่งสกปรกอะไรบ้าง โดยเราสามารถแบ่งสิ่งสกปรกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้ครับ

1
1. กลุ่มที่ล้างออกง่าย ได้แก่ เหงื่อ น้ำลาย เศษผิวเก่า ฝุ่นหยาบ สกินแคร์ที่ทาไว้ตั้งแต่เช้า รวมถึงกันแดดชนิดที่ไม่กันน้ำ เป็นต้น โดยสิ่งสกปรกเหล่านี้มักมีขนาดใหญ่และละลายไปกับน้ำได้ง่ายครับ

2. กลุ่มที่ล้างออกยาก ได้แก่ ไขมันที่ต่อมไขมันผลิตออกมา กันแดดชนิดกันน้ำ รองพื้น ฝุ่นละเอียด (เช่น PM10 PM2.5) เป็นต้น โดยสิ่งสกปรกเหล่านี้ มักมีขนาดเล็กมาก หรือไม่ก็ละลายไปกับน้ำได้ยาก หรือทั้งขนาดเล็กและละลายน้ำได้ยาก ซึ่งสิ่งสกปรกกลุ่มนี้แหละครับ ที่จะก่อให้เกิดปัญหาผิวตามมา เช่น สิวอุดตัน สิวอักเสบ รูขุมขนแลดูกว้างขึ้น หากเราไม่สามารถล้างออกไปได้อย่างถูกวิธี

2

เมื่อทราบแล้วว่าใบหน้าของเรามีสิ่งสกปรกอะไรอยู่บ้าง ขั้นตอนถัดมา คือ การเลือกผลิตภัณฑ์และวิธีการล้างหน้าให้เหมาะสมกับชนิดและปริมาณของสิ่งสกปรกบนใบหน้าของเราครับ ผมขอจำลองสถานการณ์ 3 รูปแบบ ดังนี้ครับ

สถานการณ์ที่ 1 ทาสกินแคร์ตอนเช้า + กันแดดไม่กันน้ำ

กรณีนี้มีสิ่งสกปรกบนใบหน้าน้อย และเป็นกลุ่มที่ล้างออกง่าย ผมแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า (Face wash) อย่างเดียวก็เพียงพอ และควรใช้ปริมาณน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ครับ เพราะการใช้ปริมาณที่มากเกินไป นอกจากสิ่งสกปรกจะหายไปแล้ว ไขมันในผิวที่ช่วยปกคลุมให้ผิวชุ่มชื้นก็จะถูกชำระล้างออกไปด้วย ทำให้ผิวแห้งได้ง่ายครับ หากเป็นผลิตภัณฑ์ล้างหน้าชนิดตีฟองได้ แนะนำให้เจือจางด้วยน้ำและตีให้ขึ้นฟองก่อน แล้วใช้แค่ฟองในการล้างหน้าก็เพียงพอครับ

สถานการณ์ 2 สกินแคร์เช้า + กันแดดแบบไม่กันน้ำ + แป้งฝุ่น + ปัดแก้ม + เขียนคิ้ว + ลิปสติกนิดหน่อย ไม่ลงรองพื้น ไม่เขียนขอบตา ไม่ทามาสคาร่า

3
กรณีนี้ใบหน้าเรามีสิ่งสกปรกเยอะขึ้นมาหน่อยครับ แต่ยังเป็นกลุ่มที่ล้างออกง่ายอยู่ ผมแนะนำให้ล้างเมคอัพด้วยผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอาง (Make up cleanser) ก่อน โดยใช้กลไกการเช็ดครับ ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางที่ใช้กลไกนี้ ได้แก่ Cleansing water, Micellar water และอีกหลาย ๆ ชื่อ ที่เวลาใช้จะต้องหยดลงบนสำลีแล้วเช็ดครับ ซึ่งแนะนำให้เลือกสำลีที่นุ่มที่สุดเท่าที่จะหาได้ ชุบ Cleanser เยอะ ๆ เปลี่ยนสำลีบ่อย ๆ เพื่อลดการเสียดสีซึ่งจะทำให้ผิวถูกทำลาย ภายหลังใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอาง (Make up cleanser) แล้ว ควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า (Face wash) ตามด้วยนะครับ โดยใช้ปริมาณน้อยที่สุด และตีให้ขึ้นฟองก่อนใช้ครับ

สถานการณ์ที่ 3 มีการใช้ผลิตภัณฑ์ เช่น กันแดดกันน้ำ หรือ รองพื้น อย่างน้อย 1 ชนิดขึ้นไป

4

กรณีนี้ใบหน้าของเรามีสิ่งสกปรกกลุ่มที่ล้างออกยากอยู่ครับ ผมแนะนำให้ล้างเมคอัพด้วยผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอาง (Make up cleanser) โดยใช้กลไกการละลาย (Dissolving) ก่อนครับ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ใช้กลไกนี้ได้แก่ Cleansing gel, Cleansing milk, Cleansing cream หรือ Cleansing oil ครับ ถ้าถามว่าควรใช้อะไรล้างเมคอัพออกดี ผมแนะนำให้ใช้ Cleansing cream ครับ เพราะปริมาณน้ำมันเยอะ ช่วยละลายสิ่งสกปรกที่เป็นไขมันออกไปได้ดี และขณะที่ถูวนบนใบหน้า จะมีชั้นของเนื้อครีมที่ข้นหนืดกั้นระหว่างนิ้วมือกับใบหน้า ทำให้นิ้วมือไม่สัมผัสหน้าโดยตรง ลดการเสียดสีจากมือไปได้อีก นอกจากนี้ช่วยให้สะดวกเวลาใช้ เนื่องจากเนื้อครีมที่ข้นหนืดจะไม่ไหลมาที่กรามอีกด้วยครับ ภายหลังใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอาง (Make up cleanser) แล้ว อย่าลืมใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า (Face wash) ตามด้วยนะครับ

5

จะเห็นได้ว่าการเลือกผลิตภัณฑ์และวิธีการล้างหน้า ไม่ได้มีวิธีไหนที่ดีที่สุด หรือแย่ที่สุดครับ ซึ่งควรเลือกตามความเหมาะสมของชนิดและปริมาณสิ่งสกปรกบนใบหน้าของเราครับ เช่น หากวันนี้ใช้แค่สกินแคร์ในตอนเช้า + กันแดดแบบไม่กันน้ำ ตามสถานการณ์ที่ 1 แล้วเลือกใช้ Cleansing cream ถ้าพูดในแง่ของการทำความสะอาด แน่นอนว่า Cleansing cream สามารถล้างสิ่งสกปรกออกไปได้อย่างหมดจดก็จริงครับ แต่การใช้ Cleansing cream ที่มากเกินจำเป็น ไขมันดี ๆ ในผิวเราก็จะโดนล้างออกมาด้วย กลายเป็นว่าผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้ผิวแห้งได้ครับ สำหรับสถานการณ์นี้ แนะนำว่าใช้เพียงแค่ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า (Face wash) ก็เพียงพอครับ แต่หากวันนี้ใช้เมคอัพตามสถานการณ์ที่ 2 แต่เลือกใช้แค่ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า (Face wash) เพียงอย่างเดียว สิ่งสกปรกบนใบหน้าอาจถูกล้างออกไปไม่หมด ส่งผลให้เกิดปัญหาสิวอุดตัน สิวอักเสบตามมาได้ครับ

----

byline

อมต ชัยเกรียงไกร

นักวิจัยสกินแคร์คนไทย ประสบการณ์ทำงานในบริษัทเครื่องสำอาง Top 3 ของญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาด้านสูตรสกินแคร์ให้กับแบรนด์สกินแคร์ทั้งในและต่างประเทศ และเป็นผู้ก่อตั้ง แบรนด์ AMT Skincare
อ่านประวัติผู้เขียนต่อ คลิก

 

pin1จบทุกปัญหาผิว ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ฟรี!

addline1

 

 

AMT Skincare Official Line

แอดไลน์ @amtskincare หรือ คลิก

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

- สกินแคร์ที่รู้สึกซึมดี แปลว่า สารสำคัญซึมดี จริงหรือ?

- เคล็ดลับเพิ่มประสิทธิภาพสกินแคร์ ง่ายๆ แค่ใช้ฝ่ามือ!

- จังหวะที่ดีในการทาสกินแคร์ ต้องตอนนี้เท่านั้น!

- สาเหตุที่แท้จริงของรูขุมขนกว้าง และเคล็ดลับที่ทำให้รูขุมขนแลดูเล็กลง

- หลังตื่นนอน ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าเพียงพอไหม??

advertisement

Powered by AMT Skincare

สุขภาพและความงาม คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม

ไลฟ์สไตล์ ล่าสุด