Logo site Amarintv 34HD
อมรินทร์ทีวีแจกใหญ่ส่งท้ายปี ดูทั้งวันแจกทุกวันLogo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
มือกราดยิงบอนไดพักฟิลิปปินส์นับเดือน ทั่วโลกถาม มีศูนย์ฝึก IS จริงไหม?
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

มือกราดยิงบอนไดพักฟิลิปปินส์นับเดือน ทั่วโลกถาม มีศูนย์ฝึก IS จริงไหม?

18 ธ.ค. 68
16:34 น.
แชร์

ฟิลิปปินส์โต้! ไร้หลักฐานฝึกอาวุธ 

ทางการฟิลิปปินส์ออกมาปฏิเสธข้อสันนิษฐานเรื่องการฝึกอาวุธของสองพ่อลูกผู้ก่อเหตุกราดยิงที่หาดบอนได ในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยยืนยันว่า สองผู้ก่อเหตุเดินทางมาฟิลิปปินส์เพื่อการท่องเที่ยวเท่านั้น ซึ่งเอกสารต่าง ๆ ไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานมัดตัวว่าทั้งคู่เข้ารับการฝึกโจมตีจากกลุ่มก่อการร้าย IS ได้ 

นายเอดูอาร์โด อาโญ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของฟิลิปปินส์ แถลงยืนยันว่า นายซาจิด อักรัม วัย 50 ปี และนายนาวิด อักรัม วัย 24 ปี ได้เดินทางเข้าประเทศในช่วงวันที่ 1-28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเดินทางจากมะนิลาไปยังเมืองดาเวา บนเกาะมินดาเนา ซึ่งนายซาจิดใช้หนังสือเดินทางอินเดีย ส่วนลูกชายใช้หนังสือเดินทางออสเตรเลีย

ด้านนายเอดูอาร์โด อาโญ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของฟิลิปปินส์ ย้ำว่า "ไม่มีหลักฐาน" ว่าทั้งคู่เข้ารับการฝึกทางการทหาร สอดคล้องกับรายงานจากสื่อท้องถิ่น MindaNews ที่ระบุข้อมูลจากพนักงานโรงแรมในเมืองดาเวาว่า ตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งเดือน ทั้งคู่แทบไม่เคยออกจากห้องพักเลย และหากออกไปข้างนอกก็จะใช้เวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เอื้อต่อการฝึกฝนทหารอย่างเป็นระบบ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระบุว่า นายซาจิด และนายนาวิด อักรัม ได้เดินทางไปยังพื้นที่ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประวัติศาสตร์ความรุนแรงจากกลุ่มอิสลามหัวรุนแรงมายาวนาน ทั้งคู่พำนักอยู่ในฟิลิปปินส์นานเกือบหนึ่งเดือน และเพียงสองสัปดาห์หลังจากเดินทางกลับ ทั้งคู่ได้บุกกราดยิงในงานเฉลิมฉลองของใหญ่ของชาวยิวที่หาดบอนได ซึ่งถือเป็นเหตุกราดยิงครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษของออสเตรเลีย โดยในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ยังพบธงกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ที่ทำขึ้นเองภายในรถของพวกเขาด้วย

เกาะมินดาเนา: โรงเรียนฝึกก่อการร้ายแห่งเอเชีย?

แม้ตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์จะระบุว่า ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดว่าทั้งคู่ไปที่ไหนและทำอะไรบ้าง แต่สำนักข่าว ABC ของออสเตรเลียรายงานว่า เจ้าหน้าที่ต่อต้านการก่อการร้ายเชื่อว่าทั้งคู่ "ผ่านการฝึกฝนรูปแบบทางการทหาร" ในช่วงที่อยู่ในฟิลิปปินส์

รอมเมล บันลาออย ประธานสถาบันวิจัยสันติภาพ ความรุนแรง และการก่อการร้ายแห่งฟิลิปปินส์ ให้ความเห็นว่า "ตั้งแต่ยุคอัลกออิดะฮ์ ฟิลิปปินส์ถูกมองว่าเป็น 'อะคาเดมี่' ของการก่อการร้ายในเอเชีย เนื่องจากสภาพภูมิประเทศและกลุ่มติดอาวุธที่มีอยู่เดิมเอื้ออำนวยต่อการฝึกฝนเป็นอย่างมาก"

กลุ่มติดอาวุธเหล่านี้เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ทางตอนใต้มานานหลายทศวรรษ โดยเฉพาะบนเกาะมินดาเนา ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม ต่างจากพื้นที่อื่นของประเทศที่เป็นคาทอลิก ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มต่างๆ เช่น อาบูไซยาฟ และกลุ่มเมาเต ที่สวามิภักดิ์ต่อกลุ่ม IS

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า "เมืองดาเวา" ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้ต้องสงสัยระบุไว้ในแผนการเดินทาง มักถูกใช้เป็นจุดนัดพบ วางแผน และสนับสนุนด้านโลจิสติกส์สำหรับนักรบต่างชาติ เนื่องจากเข้าถึงง่ายและเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เปิดรับชาวต่างชาติ ต่างจากพื้นที่ป่าเขาที่ใช้เป็นค่ายฝึกอาวุธที่เข้าถึงได้ยาก

โต้ภาพลักษณ์ "แหล่งบ่มเพาะ IS" เป็นเรื่องล้าหลัง

ที่ปรึกษาความมั่นคงฟิลิปปินส์ออกมาตอบโต้ ระบุว่า รายงานที่ระบุว่าเกาะมินดาเนาเป็นจุดยุทธศาสตร์ของกลุ่ม IS นั้นเป็นข้อมูลที่ "ล้าสมัยและทำให้เกิดความเข้าใจผิด" โดยย้ำว่านับตั้งแต่เหตุล้อมเมืองมาราวีในปี 2017 กองกำลังรัฐบาลได้กวาดล้างและทำลายเครือข่ายกลุ่มติดอาวุธจนแตกพ่าย ไร้ผู้นำ และขาดศักยภาพในการปฏิบัติการไปมากแล้ว แม้จะยอมรับว่ายังมีกลุ่มกบฏขนาดเล็กที่ก่อเหตุประปรายอยู่บ้างก็ตาม

ทางด้านรัฐบาลฟิลิปปินส์ภายใต้การนำของประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ได้ออกมาปฏิเสธการเรียกขานฟิลิปปินส์ว่าเป็น "จุดยุทธศาสตร์การฝึกกลุ่ม IS"

อย่างไรก็ตาม สถิติจาก Global Terrorism Index ปี 2025 ระบุว่าสถานการณ์ก่อการร้ายในฟิลิปปินส์เริ่มดีขึ้น โดยอันดับความรุนแรงลดลงจากอันดับที่ 9 ในปี 2019 มาอยู่ที่อันดับ 20 ในปัจจุบัน ผลจากการใช้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายที่เข้มงวดขึ้นในปี 2020 แต่กระนั้น ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า "ภัยคุกคามยังไม่หายไป" เพราะตราบใดที่ยังมีกลุ่มติดอาวุธหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร พื้นที่เหล่านี้ยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญของเหล่านักรบต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก

ออสเตรเลียขยับ! แก้กฎหมาย "วาทะสร้างความเกลียดชัง"

ทางด้านนายกรัฐมนตรี แอนโทนี อัลบาเนซี ของออสเตรเลีย ประกาศเตรียมผลักดันกฎหมายใหม่เพื่อจัดการกับวาทะกรรมสร้างความเกลียดชัง หรือ "เฮทสปีช" (Hate Speech) อย่างเด็ดขาด โดยระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการโจมตีชุมชนชาวยิวและวิถีชีวิตของชาวออสเตรเลีย

"ชาวออสเตรเลียกำลังตกใจและโกรธแค้น ผมเองก็โกรธเช่นกัน" อัลบาเนซีกล่าว พร้อมเผยมาตรการเบื้องต้น โดยเฉพาะการคุมเข้มวีซ่า เพิ่มอำนาจในการยกเลิกหรือปฏิเสธวีซ่าบุคคลที่เผยแพร่ความเกลียดชังและความแตกแยก 

นอกจากนี้ยังกำหนดบทลงโทษนักเผยแพร่ลัทธิ โดยจัดการกลุ่มบุคคลรวมถึงผู้นำทางศาสนาที่ยุยงให้เกิดความรุนแรง และเพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัย ยังเตรียมออกกฎหมายควบคุมอาวุธปืนให้เข้มงวดขึ้น โดยรัฐนิวเซาท์เวลส์เตรียมเรียกประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อปฏิรูปกฎหมายปืนเป็นการเร่งด่วน

ขณะนี้ นายนาวิด อักรัม ผู้เป็นลูกชาย ถูกตั้งข้อหาหนักรวม 59 กระทง รวมถึงข้อหาฆาตกรรมและก่อการร้าย หลังจากที่เขาฟื้นจากอาการโคม่า ส่วนนายซาจิด ผู้เป็นพ่อ ถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรมในที่เกิดเหตุ


แชร์
มือกราดยิงบอนไดพักฟิลิปปินส์นับเดือน ทั่วโลกถาม มีศูนย์ฝึก IS จริงไหม?