ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน 2568 การประชุมสุดยอดความร่วมมือเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ APEC 2025 จะจัดขึ้นที่เมืองคยองจู จังหวัดคยองซังเหนือ ประเทศเกาหลีใต้ เป็นเวทีเจรจาของผู้นำในเอเชีย-แปซิฟิกจาก 21 เขตเศรษฐกิจ
APEC คืออะไร ใคร่วมวงบ้าง
APEC  (Asia-Pacific Economic Cooperation) คือเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ก่อตั้งเมื่อปี 1989 โดยมุ่งเน้นการเจรจาทางเศรษฐบกิจ อาทิ การค้าเสรี อย่าง เขตการค้าเสรีในเอเชีย-แปซิฟิก (FTAAP), การลงทุน, การพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน, การอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ, ความร่วมมือด้านดิจิทัล และอื่น ๆ ปรับตามบริบทยุคสมัย
สมาชิก APEC ประกอบด้วย ออสเตรเลีย, บรูไน, แคนาดา, ชิลี, จีน, ฮ่องกง, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, เม็กซิโก, นิวซีแลนด์, ปาปัวนิวกินี, เปรู, ฟิลิปปินส์, รัสเซีย, สิงคโปร์, ไต้หวัน, ไทย, สหรัฐอเมริกา, เวียดนาม
จากทั้งหมด 21 เขตเศรษฐกิจ มูลค่าเศรษฐกิจของ APEC รวมกันคิดเป็นมากกว่า 50% ของ GDP โลก และเป็นที่อยู่อาศัยของประชากรประมาณ 2,700 ล้านคน หรือคิดเป็น 40% ของประชากรโลก ประเทศจีน รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา เป็นสมาชิกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดสามประเทศของกลุ่ม
ปีนี้คุยอะไรแล้วก่อนเริ่มประชุมใหญ่
แม้การประชุมสุดยอดผู้นำอย่างเป็นทางการจะเริ่มขึ้นในวันนี้แต่ก่อนหน้ามี “การประชุมปูทาง” สำหรับรัฐมนตรีและภาคธุรกิจก่อนหน้า ซึ่งไทยได้เข้าร่วมหารือในหลายหัวข้อ ซึ่งนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการประทรวงการต่างประเทศ และนายอนุทิน ชาญวีรกูลได้เข้าร่วมดังนี้
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเอเปค หรือ APEC Ministerial Meeting  (APEC Ministerial Meeting: AMM) ครั้งที่ 36  ที่ประชุมพูดคุยกันดังนี้
- บทบาทของนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนและครอบคลุม สำหรับประชาชนในภูมิภาค
- นายสีหศักดิ์ย้ำบทบาทของเอเปคท่ามกลางความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์และการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล โดยเฉพาะภัยคุกคามจากการหลอกลวงออนไลน์
- ไทยได้ผลักดันให้เกิดการจัดตั้งเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการหลอกลวงออนไลน์ในกรอบเอเปค ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากข้อเสนอของไทยที่จะให้มีการจัดการประชุมระหว่างประเทศในเรื่องนี้ในที่ประชุมสุดยอดอาเซียน
- รัฐมนตรีฯ ยังได้เน้นย้ำให้เกิดความร่วมมือด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมถึงกรอบธรรมาภิบาลด้าน AI 
2. นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำภาคเอกชนของเอเปค ประจำปี 2568 (APEC CEO Summit) 
- นายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกฐาพิเศษภายใต้หัวข้อ “Bridge. Beyond.” เน้นความสำคัญของความร่วมมือในภูมิภาคท่ามกลางความถดถอยของระบอบพหุภาคีในปัจจุบัน 
- นายกฯ กล่าวว่า การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และสังคมดิจิทัล ทำให้มีนโยบาย Quick Big Wins เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนผ่านอย่างครอบคลุมและยั่งยืน ซึ่งมี 3 ด้านสำคัญ ได้แก่
- ประการที่ 1 คือ การลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผ่านโครงการ “คนละครึ่งพลัส” เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและลดภาระของครัวเรือน และเป็นการส่งเสริมให้เกิดความครอบคลุมด้านดิจิทัล หรือ digital inclusion
- ประการที่ 2 คือ การเสริมสร้างโอกาสทางธุรกิจ และการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยเฉพาะสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs รวมถึงการเปลี่ยนผ่านด้านดิจิทัลที่ปลอดภัยสำหรับประชาชน โดยจำเป็นต้องมีความร่วมมือระดับภูมิภาคและระดับโลกเพื่อรับมือกับปัญหาการหลอกลวงออนไลน์
- ประการสุดท้าย คือ การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคตผ่านความเป็นหุ้นส่วนกับภาคเอกชนระดับโลก ซึ่งปัจจุบัน มีบริษัทชั้นนำของโลกเข้ามาลงทุนในไทยจำนวนมาก โดยไทยมีนโยบายที่จะพัฒนาศักยภาพของประเทศผ่านความร่วมมือเหล่านี้ควบคู่กับการเปลี่ยนผ่านสีเขียว หรือ green transformation ที่ยั่งยืนด้วย
3. การพบหารือกับ US-APEC Business Coalition
- นายกรัฐมนตรีได้พบหารือ US - APEC Business Coalition หรือภาคธุรกิจชั้นนำของสหรัฐฯ กว่า 19 บริษัท อาทิ Microsoft Deloitte Mastercard และ Google
- นายกรัฐมนตรีย้ำนโยบายของรัฐบาลไทยในกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศระยะสั้น เพื่อให้เกิดแรงกระเพื่อมในระยะยาว ย้ำความพร้อมการร่วมมือ
- นายกฯ ย้ำนโยบายด้านการลงทุนของไทย ที่มุ่งเน้นการสร้าง ecosystem ที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ เช่น การปรับปรุงกฎระเบียบ การพัฒนาทักษะแรงงาน การใช้นวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ 
4. การพบหารือทวิภาคีของนายกรัฐมนตรี
4.1 การพบหารือกับประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี
- สองฝ่ายเห็นพ้องให้ส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงานสะอาด เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ 
- สองฝ่ายย้ำความสำคัญของความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการหลอกลวงออนไลน์ในภูมิภาค 
4.2 การพบหารือกับนายกรัฐมนตรีแคนาดา
- นายกฯ ย้ำถึงนโยบายของสองฝ่ายที่สอดคล้องกัน โดยเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์ และการพัฒนาเทคโนโลยีในสาขาพลังงานสะอาด อาหาร และดิจิทัล
- หารือเกี่ยวกับปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งฝ่ายแคนาดาได้ให้ความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายและการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก โดยเฉพาะด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ 
5. การพบหารือกับภาคเอกชนของนายกรัฐมนตรี
- นายกรัฐมนตรีพบหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับภาคเอกชนชั้นนำของสาธารณรัฐเกาหลี กล่าวคือ บริษัท SK Bioscience ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ โดยบริษัทมีบันทึกความเข้าใจด้านการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่จากเซลล์เพาะเลี้ยงกับองค์การเภสัชกรรมของไทย ซึ่งไทยสามารถใช้โอกาสดังกล่าวเสริมสร้างศักยภาพและความมั่นคงด้านสาธารณสุขของประเทศ เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้และขยายความร่วมมือในภูมิภาคในอนาคตต่อไป
6. การพบหารือทวิภาคีของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้มีโอกาสพบหารือทวิภาคีกับ 2 ประเทศ ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย และรัฐมนตรีว่าการต่างประเทศปาปัวนิวกินี
- โดยได้ย้ำที่จะกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือในสาขาต่าง ๆ ระหว่างกัน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้า การเกษตร สาธารณสุข การท่องเที่ยว รวมถึงได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นต่อพัฒนาการและสถานการณ์สําคัญทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกด้วย
วันประชุมจริงคุยอะไรต่อ
การประชุมสุดยอดผู้นำที่เริ่มวันนี้เกิดขึ้นภายใต้ธีม “Building a Sustainable Tomorrow” โดยมุ่งเน้นการเชื่อมโยงภูมิภาค การผลักดันนวัตกรรม และการสร้างความเติบโตร่วมกันอย่างทั่วถึง หัวข้อการประชุมที่สำคัญ อาทิ การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงดิจิทัล การใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ (AI) พลังงานที่ยั่งยืน อุปทานอาหาร การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร และการเพิ่มโอกาสให้กับผู้หญิงและผู้พิการ