เมื่อต้นปีที่ผ่านมา รัฐบาลใหม่ของอินโดนีเซียริเริ่มโครงการอาหารกลางวันฟรีสำหรับนักเรียนในโรงเรียน เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะให้กับอนาคตของชาติ ต่อสู้กับภาวะทุพโภชนาการและภาวะแคระแกร็น เมกะโปรเจกต์ที่ว่านี้ จึงต้องใช้งบประมาณมหาศาล รวมแล้วกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อจัดหาอาหารให้กับเด็กและสตรีมีครรภ์เกือบ 83 ล้านคนทั่วประเทศ
แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงงบประมาณที่เหมาะสมและคุณภาพอาหารที่มอบให้แก่เด็ก ๆ แต่โครงการดังกล่าวได้รับอนุมัติและดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ โครงการเปิดตัวด้วยรถบรรทุกอาหารประมาณ 3,000 ชุดเดินทางมาถึงโรงเรียนประถมศึกษาเอสดี จิลังกัป 08 ในเมืองเดปก ชานเมืองของกรุงจาการ์ตา อาหารกลางวันในมื้อนั้น เด็ก ๆ ประมาณ 740 คน ได้รับประทานข้าว ผัดผัก เทมเป้ ไก่ผัด และส้ม เช่นเดียวกับโรงเรียนอื่น ๆ อีกหลายแห่ง
จนกระทั่งในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เด็ก ๆ กว่า 365 รายในเมืองสราเกน จังหวัดชวากลาง ประเทศอินโดนีเซีย ถูกเร่งหามส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง เนื่องจากมีอาการท้องเสียและอาหารเป็นพิษ หลังจากรับประทานอาหารกลางวัลที่จัดให้โดยรัฐบาล อาหารกลางวันที่น่าจะปนเปื้อน ได้แก่ ข้าวขมิ้น ไข่เจียวริบบิ้น เต้าหู้ทอด สลัดแตงกวาและผักกาดหอม แอปเปิ้ลหั่นบาง และนมหนึ่งกล่อง ปรุงในครัวกลางและแจกจ่ายไปยังโรงเรียนหลายแห่ง
ครั้งนี้นับเป็นการรายงานเหตุ ‘อาหารเป็นพิษหมู่’ ครั้งรุนแรงที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก เมื่อเดือนพฤษภาคม นักศึกษาในชวาตะวันตกป่วยกว่า 200 รายจากอาหารกลางวันฟรีเช่นกัน ภายหลังตรวจสอบพบว่า อาหารปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียซัลโมเนลลาและอีโคไล รวมถึงรายงานเหตุลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นบ่อยครั้ง นับรวมแล้ว เด็ก ๆ ราว 1,000 คน ได้รับผลกระทบทางร่างกายเพราะโครงการอาหารกลางวันดังกล่าว
โครงการอาหารฟรีเพื่อสุขภาพนี้เป็นไปตามคำมั่นสัญญาของประธานาธิบดีปราโบโว สุเบียนโต ผู้ได้รับเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้วให้เป็นผู้นำอินโดนีเซีย ซึ่งมีประชากรมากกว่า 282 ล้านคน และเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขากล่าวว่าโครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อต่อสู้กับภาวะชะงักงันของการเติบโตทางเศรษฐกิจ
โครงการดังกล่าวมุ่งหวังที่จะดูแลเด็ก ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อโภชนาของเด็ก ๆ อายุต่ำกว่า 5 ปีในอินโดนีเซียถึง 21.5% ขณะเดียวกัน วัตถุดิบที่นำมาทำอาหารกลางวันฟรีก็จะมาจากเกษตรกรและปศุสัตว์ภายในประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ของเกษตรกรและมูลค่าผลผลิตของพวกเขา
โครงการนี้ถูกนำมาใช้เป็นนโยบายหลักในการหาเสียงเลือกตั้งของปราโบโว ซูเบียนโต และถูกมองว่าเป็นการซื้อคะแนนเสียงจากประชาชนโดยตรงมากกว่าจะเป็นนโยบายที่มีการศึกษาอย่างรอบด้านเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องอาหารเป็นพิษที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ แสดงให้เห็นถึงการขาดการวางแผนและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งชี้ให้เห็นว่า นโยบายนี้อาจถูกนำมาใช้โดยไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมอย่างเพียงพอ
ทางการอินโดนีเซียได้รับทราบปัญหาและได้ออกมายอมรับว่า ปัญหาหลักมาจากสุขอนามัยที่ไม่ดี การจัดเก็บและเตรียมอาหารที่ไม่เหมาะสม การปนเปื้อน และในบางกรณีเกิดจากการแพ้อาหาร พร้อมทั้งสั่งการให้มีการประเมินและปรับปรุงโครงการครั้งใหญ่ โดยหัวหน้าสำนักงานประธานาธิบดีได้กล่าวว่านี่คือ "สัญญาณเตือน" ที่ต้องมีการปรับปรุงกลไกและโครงสร้างของโครงการอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลที่มีข้อจำกัดด้านการเข้าถึงการรักษาพยาบาล
องค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) ด้านสุขภาพได้เรียกร้องให้รัฐบาลอินโดนีเซียระงับโครงการอาหารกลางวันฟรีโดยด่วน นายอุไบด์ มัตราจิ หัวหน้าเครือข่ายเพื่อการศึกษา (JPPI) ได้กล่าวต่อคณะกรรมการรัฐสภาว่า เหตุอาหารเป็นพิษจากโครงการนี้ส่งผลกระทบต่อเด็กกว่า 6,452 คนทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่พันกว่าคน ซึ่งเป็น "ความล้มเหลวเชิงระบบ" แนะให้รัฐบาลควรระงับโครงการเพื่อปรับปรุงการกำกับดูแลให้เข้มงวดมากขึ้น
คณะกรรมการที่ดูแลด้านสุขภาพได้รับฟังข้อกังวลเกี่ยวกับโครงการนี้จากองค์กรพัฒนาเอกชนอื่น ๆ ได้แก่ ศูนย์ความคิดริเริ่มเพื่อการพัฒนาเชิงยุทธศาสตร์ของอินโดนีเซีย (CISDI), ขบวนการเพื่อสุขภาพแม่และเด็ก และเครือข่ายเพื่อการศึกษา
นายอิกบาล ฮาฟิซอน นักวิเคราะห์อาวุโสจาก CISDI เสนอให้ระงับโครงการนี้เช่นกัน และได้กล่าวในการไต่สวนว่า เขากังวลที่รัฐบาลไม่มีกลไกในการประเมินครัวที่มีปัญหาอาหารเป็นพิษหรือเพื่อป้องกันการระบาดในอนาคต นอกจากนี้ องค์กรพัฒนาเอกชนยังเรียกร้องให้สำนักงานโภชนาการแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้ดูแลโครงการฯ ให้ความสำคัญกับคุณค่าทางโภชนาการของอาหารมากขึ้น โดยระบุว่า อาหารส่วนใหญ่ในเมนูยังคงเป็นอาหารแปรรูปสูง ซึ่งถือว่าไม่ดีต่อสุขภาพ
นายแพทย์ ตัน ช็อต เยน จาก NGO ช่วยเหลือแม่และเด็กกล่าวว่า การแจกจ่ายอาหารแปรรูปขั้นสูงได้เปลี่ยนเป้าหมายหลักในการจัดหาอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และอาจกระตุ้นให้เกิดโรคไม่ติดต่อได้
ในการแถลงข่าวล่าสุด ดาดัน ฮินดายานา หัวหน้าสำนักงานโภชนาการแห่งชาติ ไม่ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับการเรียกร้องให้ระงับโครงการฯ แต่กล่าวว่า ทางสำนักงานฯ รู้สึกเสียใจต่อกรณีอาหารเป็นพิษ เขายังกล่าวอีกว่า จากอาหาร 1 พันล้านจานที่เสิร์ฟ มีกรณีที่น่าสงสัยว่ามีอาหารเป็นพิษถึง 4,711 กรณี และรัฐบาลจะทำการสอบสวนต่อไป