Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
จ่อถอนวีซ่านศ.จีน คุ้มไหม? เมื่อนศ. จีนสร้างมูลค่าให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

จ่อถอนวีซ่านศ.จีน คุ้มไหม? เมื่อนศ. จีนสร้างมูลค่าให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ

31 พ.ค. 68
12:55 น.
แชร์

ย้อนกลับไปเมื่อวันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2568 รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ จะเริ่มดำเนิน “มาตรการจริงจัง” เพิกถอนวีซ่านักเรียนจีนในสหรัฐฯ การเดินหมากครั้งนี้ะส่งผลเสียต่อสหรัฐฯ อย่างไร

รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การบริหรของโดนัลด์ ทรัมป์ ยกระดับมาตรการขับไล่ผู้อยู่อาศัยต่างชาติ ซึ่งไม่ใช่แค่ผู้อยู่อาศัยผิดกฎหมาย แต่การดำเนินการของเขาในช่วงที่ผานมา ยังพยายามเพิกถอนสิทธิการอยู่อาศัยอย่างถูกกฎหมายของชาวต่างชาติด้วย หนึ่งในนั้นคือกลุ่มนักเรียน-นักศึกษา

ประกาศของรูบิโอ และ กระแสต้านคนจีน

รูบิโอโพสต์บน X ระบุว่า “สหรัฐฯ จะเริ่มเพิกถอนวีซ่านักเรียนจีน รวมถึงผู้ที่มีความเชื่อมโยงกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน หรือผู้ที่เรียนในสาขาวิชาที่มีความสำคัญ”

เขาไม่ได้ด้เจาะจง ว่าสาขาใดมีความสำคัญ แต่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการรัฐสภาสหรัฐฯ ได้ส่งจดหมายถึงผู้นำของมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon, Purdue, Stanford, Illinois Urbana-Champaign, Maryland และ Southern California เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียนจีนในหลักสูตรขั้นสูงด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และแพทยศาสตร์

ก่อนหน้านี้ กลุ่ม China Hawks หรือกลุ่มนักวิชาการ นักการเมืองใสหรัฐฯ ที่มีท่าทีแข็งกร้าวต่อจีน ได้เรียกร้องให้มีการกำกับดูแล และสอดส่องนักเรียนจีนในสหรัฐฯ มากขึ้น ตามข้อกล่าวหาว่า บางคนอาจเป็นสายลับของรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีน

จอห์น มูลีนาร์ ประธานคณะกรรมาธิการรัฐสภาระบุว่า จีนส่งนักเรียนมาเรียนโปรแกรมวิจัยชั้นนำของสหรัฐฯ เพื่อเข้าถึงเทคโนโลยีของปรเทศที่มีความละเอียดอ่อน

“พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้จัดตั้งช่องทางฝึกวิจัยอย่างเป็นระบบ เพื่อฝังตัวนักวิจัยไว้ในสถาบันชั้นนำของสหรัฐฯ ทำให้พวกเขาสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง และเทคโนโลยีทางการทหาร” มูลีนาร์กล่าวในจดหมาย พร้อมเสริมว่านักเรียนจีนจำนวนมากย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในสหรัฐฯ หรือประเทศตะวันตกหลังเรียนจบ

“ประเด็นดังกล่าวสร้างความกังวลอย่างมาก น่ากังวลว่า พลเมืองจีนที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาขั้นสูงจะถ่ายทอดความรู้กลับไปยังจีนในที่สุด” เขากล่าว

อย่างไรก็ตาม สหัฐฯ ยังไม่ได้ชี้แสงความเชื่อมโดยตรงระหว่างนักเรียนจีนในสหรัฐฯ และพรรคคอมมิวนิสต์จีนว่ามีความเกี่ยวโยงโดยตรงกันอย่างไร

เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ชื่อว่า “นโยบายวีซ่าใหม่เพื่ออเมริกาต้องมาก่อน ไม่ใช่จีน” โดยรูบิโอกล่าวว่า “เราจะปรับเกณฑ์การพิจารณาวีซ่าให้เข้มงวดขึ้นสำหรับผู้สมัครจากสาธารณรัฐประชาชนจีนและฮ่องกงในอนาคต”

การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากรูบิโอเผยแพร่บันทึกว่า สหรัฐฯ ได้สั่งการให้สถานทูตต่างประเทศงดการนัดหมายสัมภาษณ์วีซ่าสำหรับนักเรียนต่างชาติทั้งหมดเป็นการชั่วคราว ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศมีแผนขยายการตรวจสอบบัญชีโซเชียลมีเดียของผู้สมัครวีซ่า

จีนตอบโต้?

ต่อมา เมื่อวันพฤหัสบดี เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ประณามการกระทำของรัฐบาลทรัมป์ว่า “ขาดความสมเหตุสมผลและเลือกปฏิบัติ”

“สหรัฐฯ เพิกถอนวีซ่านักเรียนจีนอย่างไร้เหตุผล โดยการอ้างอุดมการณ์และผลประโยชน์ของชาติ [...] จีนคัดค้านอย่างเด็ดขาดและได้ยื่นประท้วงต่อสหรัฐฯ แล้ว”

เหมากล่าวว่าการกระทำของสหรัฐฯ “ละเมิดสิทธิของนักเรียนจีนอย่างร้ายแรง” และทำลายการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง และการดำเนินการในลักษณะนี้มีแต่จะทำลายภาพลักษณ์ของสหรัฐฯ เอง

“แนวทางที่มีลักษณะการเมืองและเลือกปฏิบัตินี้ของสหรัฐฯ ได้เผยให้เห็นถึงคำโกหกเกี่ยวกับเสรีภาพและความเปิดกว้างที่สหรัฐฯ มักโฆษณาเสมอมา” เหมากล่าว

นักเรียนจีนในสหรัฐ

ตามรายงาน Open Doors จากสถาบันการศึกษานานาชาติ (IIE) และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ในปีการศึกษา 2566–2567 มีนักเรียนนักศึกษาจีนที่เรียนในมหาวิทยาลัยของสหรัฐฯ ถึง277,398 คน คิดเป็น 24.5% ของจำนวนนักเรียนนักศึกษาต่างชาติทั้งหมด 1.13 ล้านคน

เฉพาะนักเรียนจากอินเดียเท่านั้นที่มีจำนวนมากกว่านักเรียนจีน โดยปี 2566–2567 ถือเป็นปีแรกที่อินเดียแซงจีนขึ้นเป็นอันดับหนึ่งตั้งแต่ปี 2552

มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon มีนักเรียนจีนมากที่สุดในปีการศึกษา 2566 มีนักศึกษาจีนถึง 46.8% ของนักเรียนต่างชาติทั้งหมด ส่วนที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (NYU) มีนักศึกษาจีนมากกว่าครึ่งของนักเรียนต่างชาติทั้งหมด คือ 51.6% หรือ 14,072 คนจากจำนวนนักเรียนต่างชาติ 27,247 คนในปีการศึกษา 2566-2567

ด้านมหาวิทยาลัย Duke รายงานว่ามีนักเรียนต่างชาติประมาณ 5,000 คนในปี 2567 โดยมากนักศึกษาต่างชาติมาจากจีนและอินเดีย

มหาวิทยาลัย Northwestern มีนักศึกษาต่างชาติครึ่งหนึ่งเป็นชาวจีน และหลังจากคำประกาศของรูบิโอในวันพฤหัสบดี กลุ่มบัณฑิตแรงงานของมหาวืทยาลัย ได้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกถึงมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เรียกร้องให้ปฏิเสธคำร้องขอข้อมูลนักเรียนจีนจากคณะกรรมาธิการรัฐสภาเมื่อเดือนมีนาคม

นักเรียนจีนสร้างรายได้ให้สหรัฐฯ

แนวทางหันหลังให้นักเรียนนัศึกษาจีนของสหรัฐฯ สร้างผลเสียหลายประการ ไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ของประเทศ แต่ยังมีความเสียหายทางเศรฐกิจ

ในปีการศึกษา 2566-2567 นักเรียนต่างชาติในมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยของสหรัฐฯ สร้างมูลค่าให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ รวม 43.8 พันล้านดอลลาร์ และช่วยสนับสนุนการจ้างงานกว่า 378,000 ตำแหน่ง ตามข้อมูลขององค์กร NAFSA: สมาคมนักการศึกษานานาชาติ ซึ่งชี้ว่าตัวเลขนี้ เป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงสุดเท่าที่เคยมีการคำนวณมา

จากจำนวนนักเรียนต่างชาติ 1.1 ล้านคน นักเรียนแต่ละคนจึงสร้างรายได้เฉลี่ยประมาณ 39,800 ดอลลาร์ต่อปีให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งหากคำนวณเฉพาะนักเรียนจีน 277,398 คนในปี 2566–67 พวกเขาจะมีส่วนสร้างรายได้มากกว่า 11 พันล้านดอลลาร์ให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีนั้น

นอกจากนี้ เมื่อจบการศึกษาแล้ว นักศึกษาต่างชาติในสหรัฐฯ ยังมีบทบาทสำคัญนระบบเศรษฐกิจและนวัตกรรมต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2543 มีนักศึกษาปริญญาเอกชาวจีนมากกว่า 50,000 คนในสาขาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ที่ยังคงอยู่ในสหรัฐฯ ทำวิจัยและก่อตั้งสตาร์ทอัพที่มีมูลค่ารวม 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 ในนั้นมี 21 บริษัทที่เป็น “ยูนิคอร์น” หรือบริษัทที่มีมูลค่าเกิน 1 พันล้านดอลลาร์

และอ้างอิงจากผลการวิเคราะห์ในปี 2565 โดยมูลนิธินโยบายอเมริกันแห่งชาติ (NFAP) พบว่า 55% ของสตาร์ทอัพในสหรัฐฯ ที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ถูกก่อตั้งโดยผู้อพยพ


ที่มา: Reuters

แชร์
จ่อถอนวีซ่านศ.จีน คุ้มไหม? เมื่อนศ. จีนสร้างมูลค่าให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ