แต่นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับเข้าสู่ตำแหน่งในเดือนมกราคม เขาก็ดำเนินการเพื่อยกเลิกสิทธิของกลุ่ม LGBTQ+ ในหลากหลายด้าน ทั้งยุติการอนุญาตให้เปลี่ยนข้อมูลเพศในหนังสือเดินทาง, ถอดทหารข้ามเพศออกจากกองทัพ, พยายามยุติการใช้โปรแกรมประกันสุขภาพของรัฐบาลกลางในการจ่ายค่ารักษาทางการแพทย์เพื่อยืนยันอัตลักษณ์ทางเพศสำหรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 19 ปี และห้ามนักกีฬาข้ามเพศเข้าร่วมแข่งขันในประเภทกีฬาหญิงและเด็กผู้หญิง อย่างไรก็ตาม การเพิกถอนสิทธิบางประเด็นอยู่ในชั้นศาลเพื่อรอการตัดสินอยู่
ผลสำรวจของศูนย์วิจัย AP-NORC เมื่อเดือนที่แล้วพบว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ใหญ่ชาวอเมริกันเห็นชอบกับวิธีที่ทรัมป์จัดการกับประเด็นคนข้ามเพศ ขณะที่ประมาณ 4 ใน 10 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งเห็นชอบกับผลงานโดยรวมของเขาในฐานะประธานาธิบดี
ผู้จัดงาน PrideFest ที่เมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซินคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานเกือบ 50,000 คน ระหว่างวันที่ 5–7 มิถุนายนนี้ โดยประธานของบริษัท Milwaukee Pride, Inc. เปิดเผยว่า การที่ผู้คนออกมาก็คือการประท้วงของพวกเขา ซึ่งธีมของงานในปีนี้คือ “เฉลิมฉลองพลังแห่งความภาคภูมิใจ” (Celebrating the Power of Pride)
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ในปีนี้ บริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งเริ่มถอนหรือลดการสนับสนุนงาน Pride
โดย Anheuser-Busch ผู้ผลิตเบียร์ในเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี ยุติการสนับสนุนงาน PrideFest ในนครบ้านเกิดของตน หลังให้การสนับสนุนต่อเนื่องมานานกว่า 30 ปี ทำให้ผู้จัดงานขาดงบประมาณไปถึง 150,000 ดอลลาร์จากปีที่แล้ว
ส่วนนิวยอร์กซิตี้ Pride ระบุว่า ผู้สนับสนุนระดับองค์กรประมาณ 20% ถอนตัวหรือปรับลดการสนับสนุนลง เช่น PepsiCo และ Nissan โดยทาง Nissan ระบุว่ากำลังทบทวนค่าใช้จ่ายด้านการตลาดทั้งหมด
ขณะที่ในเมืองอื่น ๆ เช่น แคนซัสซิตี รัฐมิสซูรี ระบุว่า งบประมาณในการสนับสนุนงาน Pride หายไปประมาณครึ่งนึง