สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ (KCNA) ยอมรับว่าเกิดความล้มเหลวขึ้น ระหว่างพิธีเปิดตัวเรือรบพิฆาตลำใหม่ โดยระบุว่ากลไกการปล่อยเรือขัดข้อง ทำให้ส่วนท้ายของเรือพิฆาตขนาด 5,000 ตัน เลื่อนลงไปในน้ำก่อนเวลาอันควร ส่งผลให้ชิ้นส่วนของตัวเรือได้รับความเสียหาย และหัวเรือติดอยู่บนถนน ด้านผู้นำคิม จองอึน ที่ร่วมพิธีอยู่ในขณะนั้น ได้กล่าวว่า ความล้มเหลวในการเปิดตัวเรือรบเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย นับว่าเป็นความประมาทเลินเล่อ และความไม่รับผิดชอบของสถาบันของรัฐหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงแผนกอุตสาหกรรมกระสุน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีคิมแจ๊ก และสำนักงานออกแบบเรือกลาง
โทรทัศนท์ทางการเกาหลีเหนือไม่ได้แพร่ภาพความเสียหายของเรือรบลำดังกล่าว แต่ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นเรือลำใหญ่ที่ด้านข้างนอนพลิกตะแคง ท้ายเรือจมอยู่ใต้น้ำ และหัวเรือยังคงอยู่บนบก ซึ่งนักวิเคราะห์ด้านกองทัพเรือ มองว่าความเสียหายดังกล่าวอาจเป็นหายนะได้ โดย ซาล เมอร์โกเลียโน ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยแคมป์เบลล์ในนอร์ธแคโรไลนาและผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินเรือ กล่าวว่า หากเรือไม่เคลื่อนที่ไปด้วยกัน แรงกดดันต่าง ๆ จะทำให้ตัวเรือฉีกขาดได้
คาร์ล ชูสเตอร์ นักวิเคราะห์กองทัพเรือในฮาวาย กล่าวเมื่อได้เห็นภาพเรือที่เสียหาย เขาคิดว่าแรงดันต่าง ๆ จะทำให้ตัวเรือโก่ง เกิดรอยแตกร้าว และกระดูกงูของเรือหักได้ในที่สุด ขึ้นอยู่กับว่าแรงดันอยู่ตำแหน่งไหนมากที่สุด
เรือรบลำดังกล่าวยังไม่ทันได้เผยชื่อกับชาวโลก ก็ดันล่มคาท่าเรือเสียแล้ว เรือรบพิฆาตลำนี้นับเป็นเรือรบลำที่สองของเกาหลีเหนือ หลังจากเปิดตัวเรือรบพิฆาตลำแรกที่มีชื่อว่า “ชเว ฮยอน” สร้างขึ้นใหม่ในรอบหลายทศวรรษ จนได้รับการขนานนามว่าเป็นเรือรบ “เจเนอเรชันใหม่”แถมยังเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่โดยสื่อของรัฐบาล เพื่อสร้างความพร้อมทางทะเลท่ามกลางภัยคุกคามจากเกาหลีใต้และสหรัฐฯ
นักวิเคราะห์ด้านการป้องกันประเทศจากตะวันตกระบุว่า เรือชเว ฮยอน แตกต่างจากเรือรบสมัยโซเวียตภาพถ่ายดาวเทียมและฟุตเทจแสดงให้เห็นว่าเรือคล้ายคลึงกันกับเรือของกองทัพเรือรัสเซียในปัจจุบันมากกว่า ด้านอี ซองจุน โฆษกคณะเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ กล่าวว่า เรือที่ได้รับความเสียหาย คาดว่ามีอุปกรณ์เช่นเดียวกับเรือชเว ฮยอน
ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความสามารถของประเทศในการขยายขนาดกองทัพเรือ ผู้นำคิม จองอึน กล่าวว่าความเสียหายจะได้รับการแก้ไขไม่เพียงแค่ด้วยการซ่อมแซมทางเทคนิคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความรับผิดชอบทางการเมืองด้วย เขาออกคำสั่งให้กู้เรือให้เสร็จ ก่อนที่จะมีการประชุมพรรครัฐบาลครั้งใหญ่ในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ เพราะนับเป็นเกียรติยศของชาติ ทั้งนี้ รายงานระบุว่า การซ่อมแซมเรืออาจต้องใช้เวลาถึง 10 วัน แต่นักวิเคราะห์คาดว่าน่าจะต้องใช้เวลามากกว่านั้นหลายเท่า
ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์การศึกษากลยุทธ์และการระหว่างประเทศเขียนไว้ ในบล็อกBeyond Parallel ร่วมกับภาพถ่ายดาวเทียมของเรือที่กำลังล่มคาท่า ระบุว่า เรือลำนี้จะไม่เข้าประจำการในกองทัพเรือเกาหลี (KPN) ในเร็วๆ นี้ และอาจจะกลายเป็นเรือที่ใช้งานไม่ได้ในที่สุด
พลเรือเอกเกษียณอายุราชการเกาหลีใต้ คิม ด็อก-กี ให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่า เกาหลีเหนือดูเหมือนจะขาดโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น เช่น อู่แห้ง สำหรับปล่อยเรือพิฆาตขนาด 5,000 ตัน และยังขาดการฟื้นฟูและซ่อมแซมอีกด้วย โดยอู่แห้งคือสถานที่เติมน้ำเพื่อให้เรือลอยน้ำได้ หรือระบายน้ำออกเพื่อสร้างหรือซ่อมแซมเรือได้
เขากล่าวว่า อู่แห้งเป็นอู่ที่มีราคาแพง และเกาหลีเหนืออาจจะไม่มีอู่ดังกล่าว… การซ่อมแซมเรือในอู่แห้งหลังจากระบายน้ำออกนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่พวกเขาก็ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก หรืออุปกรณ์พิเศษที่ใช้ในการซ่อมเรือได้ และเขามองว่าอาจต้องใช้เวลาฟื้นฟูไม่ต่ำกว่า 5 เดือน ทั้งนี้ กองทัพเรือของเกาหลีเหนือมักถูกมองว่าเป็นกองทัพที่มีการพัฒนาน้อยที่สุด การพัฒนาเรือพิฆาตที่เร่งรีบเช่นนี้ ทำให้เกิดคำถามว่าเทคโนโลยีของเกาหลีเหนือจะสร้างประโยชน์เพิ่มความแข็งแกร่งให้กองทัพจริง หรือเป็นเพียงสัญลักษณ์ทางการเมือง และการสร้างภาพลักษณ์เท่านั้น
ล่าสุด ทางการเกาหลีเหนือมีการจัดตั้งกลุ่มสอบสวนอุบัติเหตุขึ้นแล้ว และเจ้าหน้าที่ระดับสูงอาจถูกตำหนิในระหว่างการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคที่จะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้