นายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่อง ของสิงคโปร์แถลงข่าวเมื่อเวลา 03.00 ของเช้าวันที่ 4 พฤษภาคมว่า ฉันทามติที่เข้มแข็งของประชาชนต่อพรรคกิจประชาชน (PAP) จะทำให้ประเทศอยู่ในจุดที่มีพร้อมมากขึ้นเพื่อรับมือกับสถานการณ์โลกที่ผันผวน
“นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนของความไว้วางใจ เสถียรภาพ และความมั่นใจในรัฐบาลของคุณ” เขากล่าวภายหลังจากพรรค PAP คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงรวม 65.57% ซึ่งเพียงพอในการจัดตั้งรัฐบาลต่ออีกสมัย
นายกรัฐมนตรีหว่องของสิงคโปร์ยังชี้ว่า การเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้อยู่ภายใต้การจับตามองอย่างใกล้ชิดของหลายฝ่าย ทั้งสื่อมวลชนต่างประเทศ นักลงทุน และรัฐบาลต่างชาติ
ผลลัพธ์แสดงให้เห็นถึงมติที่ชัดเจนและแข็งแกร่ง จากประชาชน โดยพรรคกิจประชาชน (PAP) มีคะแนนเสียงเพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ถึง 4 จุด หว่องยังระบุด้วยว่า เขาและทีมทุ่มเทอย่างเต็มที่ในช่วงหาเสียง และรู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่งต่อผลลัพธ์ที่ออกมา
เขากล่าวด้วยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของประเทศ โดยโลกวันนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจชะลอตัว แต่เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในระเบียบโลก
เขาระบุว่า ผลการเลือกตั้งที่ประชาชนมอบให้พรรคกิจประชาชน (PAP) จะเป็นแรงผลักดันให้สิงคโปร์เดินหน้าด้วยความมั่นใจ พร้อมกล่าวว่า “นี่คือครั้งแรกที่ผมลงเลือกตั้งในฐานะนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรค และผลลัพธ์นี้จะเป็นแรงจูงใจให้เราทำงานหนักยิ่งขึ้นเพื่อประชาชน”
พรรค PAP คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงรวม 65.57% โดยชนะ 82 จาก 92 เขตที่มีการแข่งขัน และรักษาที่นั่งทั้งหมดที่เคยครองไว้ได้ ส่วนพรรคฝ่ายค้าน พรรคแรงงาน (WP) ได้ 10 ที่นั่ง
นายกฯ หว่องเผยว่า ภารกิจเร่งด่วนที่สุดคือการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยจะประกาศรายชื่อเมื่อลงตัว พร้อมระบุว่า จะเลือกบุคคลที่เหมาะสมกับบทบาทตามความสามารถและผลงานที่แต่ละคนได้แสดงไว้
เขายังบอกด้วยว่า รู้สึกขอบคุณที่สมาชิกคนสำคัญทั้งหมดของเขาได้รับเลือกเข้าสภา และประชาชนสิงคโปร์ได้มอบโอกาสให้เขาจัดทีมที่ดีที่สุดเพื่อรับใช้ประชาชน และรับใช้ประเทศสิงคโปร์
อินเดอร์จิต ซิงห์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคกิจประชาชน (PAP) ระบุว่า การเลือกตั้งทั่วไป (GE) ครั้งนี้ถือว่า สำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากเกิดขึ้นในช่วงที่พรรค PAP กำลังเปลี่ยนผ่านผู้นำ โดยผลการเลือกตั้งแสดงให้เห็นว่า ประชาชนสนับสนุนนายกรัฐมนตรีคนใหม่และทีม PAP รุ่นที่ 4 ให้เป็นรัฐบาลพาประเทศไปสู่อนาคต
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ชี้ว่า แม้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยเริ่ม เปิดรับความหลากหลายในทางการเมืองมากขึ้น แต่พรรคฝ่ายค้านบางพรรค ยังคงประสบปัญหาในการเข้าถึงประชาชน
ทั้งนี้ หว่องทำหน้าที่นำทัพพรรคกิจประชาชนหรือ PAP ลงเลือกตั้งเป็นปีแรก หลังรับไม้ต่อจากอดีตนายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง ซึ่งดำรงตำแหน่งมาตลอด 20 ปี และพรรค PAP ชนะเลือกตั้งเป็นผู้นำรัฐบาลสิงคโปร์มาตั้งแต่ก่อตั้งประเทศโดยลี กวนยู บิดาของลี เซียนลุง ผลการเลือกตั้งในครั้งนี้จึงถูกจับตามองเป็นพิเศษ