Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
4 ความกังวลคนไทย ทำไมอยากติดหลังคาโซลาร์ แต่ยังไม่เริ่ม ?
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

4 ความกังวลคนไทย ทำไมอยากติดหลังคาโซลาร์ แต่ยังไม่เริ่ม ?

15 พ.ย. 68
13:27 น.
แชร์

จากการค้นคว้าของ SCB EIC พบว่าประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการผลิตไฟฟ้าจากหลังคาโซลาร์ (Solar Rooftop) แต่การติดตั้งนั้นยังต่ำกว่าศักยภาพมาก สะท้อนว่าผู้บริโภคยังเผชิญอุปสรรคในการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ โดยกระทรวงพลังงานประเมินว่าในปี 2566 ศักยภาพรวมสำหรับที่อยู่อาศัยอยู่ที่ราว 121,000 เมกะวัตต์ ขณะที่ปริมาณการติดตั้งสะสมในปี 2565 ยังอยู่เพียง 1,893 เมกะวัตต์ หรือประมาณ 1.6% ของศักยภาพทั้งหมด ซึ่งปริมาณการติดตั้งที่ยังต่ำกว่าศักยภาพค่อนข้างมาก สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภค ซึ่งเป็นผู้ตัดสินใจนำเทคโนโลยีมาใช้ กำลังเผชิญปัญหาหรืออุปสรรคในการติดตั้งหลังคาโซลาร์

ในช่วงต้นปี 2568 SCB EIC ได้ทำการสำรวจเกี่ยวกับการตัดสินใจติดตั้งหลังคาโซลาร์ของผู้บริโภคไทย ซึ่งมีผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 2,257 ราย ในจำนวนดังกล่าว 80% ตอบว่ามีความสนใจติดตั้งหลังคาโซลาร์ แต่ยังไม่ได้ดำเนินการ โดยส่วนที่เหลือ 9% เป็นกลุ่มที่ติดตั้งแล้ว อีก 3% อยู่ระหว่างการติดตั้ง และ 8% ตอบว่าไม่สนใจติดตั้ง

จากผลสำรวจดังกล่าว SCB EIC พบว่ามี 4 อุปสรรคสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจติดตั้งหลังคาโซลาร์ของผู้บริโภคไทย อุปสรรคประการแรกคือการตรวจสอบความน่าเชื่อถือและราคาที่เหมาะสมของผู้ให้บริการติดตั้ง ซึ่งประชาชนจำนวนมากยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ชัดเจนและเปรียบเทียบได้

อุปสรรคประการที่สอง คืออุปสรรคในการเลือกเทคโนโลยีที่มีความหลากหลายและต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจ เช่น ชนิดของแผงโซลาร์เซลล์ อินเวอร์เตอร์และระบบที่เหมาะสมกับที่อยู่อาศัย ขณะที่อุปสรรคประการที่สาม คือความยุ่งยากของกระบวนการขออนุญาตจากภาครัฐ ทั้งการติดต่อหลายหน่วยงาน การเตรียมเอกสาร และการนัดตรวจสอบสถานที่ติดตั้ง ซึ่งยังเป็นอุปสรรคต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค และอุปสรรคประการสุดท้าย คือข้อจำกัดด้านเงินทุน โดยกว่า 50% ของผู้ติดตั้งใช้เงินสดและต้องจัดหาเงินส่วนตัวเพื่อจ่ายเอง ซึ่งเป็นอุปสรรคที่สำคัญที่สุดในการหาแหล่งเงินทุน สะท้อนถึงความต้องการแหล่งเงินทุนที่เข้าถึงง่าย

ในการติดตั้ง Solar Rooftop ผู้บริโภคต้องการ “แพ็กเกจนโยบาย” จากภาครัฐ

ผลสำรวจของ SCB EIC ยังพบอีกว่าการให้เงินอุดหนุนเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการมากที่สุดจากภาครัฐ ตามมาด้วยสิทธิในการลดหย่อนภาษีจากค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง รวมถึงสิทธิประโยชน์หลังการติดตั้ง ขณะที่ความต้องการอื่น ๆ ที่ผู้บริโภคอยากให้รัฐสนับสนุนเพิ่มเติม ได้แก่ การปลดล็อกการขายไฟฟ้าได้อย่างเสรี การเสนอขายระบบหลังคาโซลาร์ทางเลือกในราคาที่ถูกกว่าตลาด เช่น ระบบหลังคาโซลาร์ที่ผลิตโดยคนไทย ภายใต้การสนับสนุนเงินทุนวิจัยจากภาครัฐ การรับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินในอัตราเดียวกับราคาขายปลีก และการผ่อนปรนขั้นตอนการขออนุญาตติดตั้ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคต้องการ “แพ็กเกจนโยบาย” ที่ครบถ้วน ทั้งในมิติของต้นทุน การเข้าถึงระบบ และสิทธิประโยชน์หลังการติดตั้ง

โอกาสและความท้าทายของผู้ประกอบการ Solar Rooftop

ผลสำรวจของ SCB EIC สะท้อนว่าสำหรับผู้ให้บริการติดตั้งหลังคาโซลาร์ ควรปรับตัวในด้านการสร้างความน่าเชื่อถือ การเสนอแหล่งเงินทุนที่เข้าถึงได้ และการอำนวยความสะดวกในการติดตั้งเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค โดย SCB EIC เสนอแนวทาง ดังนี้

  1. การสร้างความน่าเชื่อถือผ่านการนำเสนอให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของผู้ให้บริการติดตั้ง โดยสามารถให้คำแนะนำที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เสนอรายละเอียดผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนและราคาที่โปร่งใส ตลอดจนมีการรับประกันและบริการหลังการขาย
  2. การพัฒนาแหล่งเงินทุนที่เข้าถึงง่ายผ่านการร่วมมือระหว่างผู้ให้บริการติดตั้งและสถาบันการเงิน เช่น สินเชื่อเช่าซื้อดอกเบี้ยต่ำสำหรับติดตั้งหลังคาโซลาร์เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคที่ต้องการติดตั้ง แต่มีข้อจำกัดด้านเงินทุนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น
  3. ผู้ให้บริการติดตั้งควรมีบริการดำเนินการขออนุญาตติดตั้งแทนผู้บริโภค (ในกรณีที่ยังไม่มี) เนื่องจากผู้บริโภคจำนวนมากยังเผชิญปัญหาในการขออนุญาตติดตั้งเอง หรืออาจมีการส่งเสริมการขายที่ลดราคาอุปกรณ์และค่าติดตั้งที่จะช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้นจากระยะเวลาคืนทุนที่เร็วขึ้น

แรงหนุนจากภาครัฐในการส่งเสริมการติดตั้ง Solar Rooftop

สำหรับมาตรการส่งเสริมของภาครัฐที่สำคัญ SCB EIC ได้นำเสนอทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยในระยะสั้นนั้น ภาครัฐสามารถสนับสนุนผู้บริโภค โดยการสร้างกลไกในการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของอุปกรณ์และผู้ติดตั้ง การเพิ่มมาตรการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายผู้บริโภค ตลอดจนอำนวยความสะดวกผ่านระบบ One-Stop Services โดยมาตรการส่งเสริมการติดตั้งหลังคาโซลาร์ระยะสั้นที่ภาครัฐสามารถดำเนินการได้ นอกเหนือจากการให้สิทธิลดหย่อนภาษี ได้แก่

  1. เพิ่มกลไกการตรวจสอบและรับรองคุณภาพของอุปกรณ์และผู้ให้บริการติดตั้งหลังคาโซลาร์ภาคสมัครใจ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกผู้ให้บริการที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานทั้งด้านคุณภาพและราคาได้
  2. แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายโดยให้เงินอุดหนุนการติดตั้งและสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ สำหรับครัวเรือนรายได้ต่ำ โดยร่วมมือกับสถาบันการเงิน เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการติดตั้งหลังคาโซลาร์
  3. ขจัดอุปสรรคในการขออนุญาตโดยใช้ระบบ One-Stop Services เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการขออนุญาตติดตั้ง

ในส่วนของมาตรการส่งเสริมระยะยาว SCB EIC เสนอแนะให้ภาครัฐควรมีโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนการใช้หลังคาโซลาร์ของประเทศที่บูรณาการกับแผนพลังงานของชาติ อาทิ

  1. ปลดล็อกการขายไฟฟ้าเสรีโดยการให้สิทธิกับบุคคลที่สาม (ที่ไม่ใช้การไฟฟ้าฯ) สามารถเข้ามาใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์จากระบบส่งไฟฟ้าหรือโครงข่ายไฟฟ้าได้ โดยการไฟฟ้าฯ เป็นผู้บริหารจัดการและได้รับค่าบริการ
  2. การไฟฟ้าฯ เปิดรับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินจากหลังคาโซลาร์ในราคาขายปลีกโดยคำนวณปริมาณไฟฟ้าที่ผู้บริโภคขายได้จากส่วนต่างระหว่าง “หน่วยไฟฟ้าที่ซื้อจากการไฟฟ้า” กับ “หน่วยไฟฟ้าที่ผลิตได้เองจากหลังคาโซลาร์” (Net-Metering) เป็นต้น

สุดท้ายแล้ว SCB EIC มองว่าโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการผลิตไฟฟ้าจากภาคประชาชน จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยสามารถปลดล็อกศักยภาพพลังงานแสงอาทิตย์ที่กระจายอยู่ทั่วทุกหลังคาบ้าน และเดินหน้าสู่ระบบพลังงานสะอาดอย่างแท้จริง

อ้างอิง: SCB EIC

แชร์
4 ความกังวลคนไทย ทำไมอยากติดหลังคาโซลาร์ แต่ยังไม่เริ่ม ?