Happy Fresh ปิดตัวแล้วในไทย ทนพิษเศรษฐกิจไม่ไหว ขาดสภาพคล่องยับ

Happy Fresh แพลตฟอร์มซูเปอร์มาร์เก็ตซื้อรับหิ้วของสด-ของใช้ โบกมือลาประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา โดยในเพจเฟซบุ๊ก HappyFresh ซึ่งเป็นเพจอย่างเป็นทางการของ Happy Fresh ในประเทศไทย ได้โพสต์รูปพร้อมระบุข้อความว่า

 

นับเป็นเวลา 7 ปีที่ HappyFresh ได้เปิดดำเนินการในประเทศไทย เราขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านสำหรับความไว้วางใจและการสนับสนุนเสมอมา ทำให้เราได้เป็นส่วนหนึงในการจ้างงานพนักงานกว่า 850 ตำแหน่งในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างการเติบโตให้ร้านค้ารายย่อยในแต่ละพื้นที่ และเป็นส่วนหนึ่งของความสุขในครอบครัวจากบริการจัดส่งสินค้าถึงบ้านของเรา

เนื่องด้วยวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ เราจำเป็นต้องแจ้งว่า HappyFresh ประเทศไทยได้ยุติการให้บริการในประเทศไทย โดยมีผลทันที

เราขอขอบคุณจากใจที่ได้รับโอกาสดูแลคุณและครอบครัวเสมอมา
หากต้องการสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ที่หน้าเว็บไซต์ FAQs

ด้วยความนับถือ
ทีมงาน HappyFresh
----------
บริษัท แฮปปี้เฟรช จำกัด ขอแจ้งให้ทราบว่า จะยุติการให้บริการทันที
ทางเราต้องขออภัยในความไม่สะดวกเป็นอย่างสูง
และ ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่สนับสนุนเรามาตลอด 7 ปี

ขอให้วันนี้เป็นวันที่สดใสของคุณเสมอ
ติดตามข้อมูลข่าวสาร หรือ อ่านรายละเอียด คำถาม-คำตอบที่พบบ่อย

ได้ที่หน้าเว็บไซต์ FAQs

Happy Fresh เป็นบริษัทสตาร์ทอัพด้าน FoodTech สัญชาติอินโดนีเซีย ที่ให้บริการสั่งซื้อสินค้าสดและของใช้ภายในบ้าน โดยพาร์ทเนอร์กับร้านค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และมีไรเดอร์คอยรับส่งสินค้าจากร้านค้าไปถึงมือลูกค้า มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 ให้บริการใน 3 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และประเทศไทย
 

ก่อนหน้านี้ DealStreetAsia รายงานอ้างแหล่งข่าววงในว่า Happy Fresh ประสบปัญหาด้านสภาพคล่อง ทำให้บริษัทติดหนี้ซูเปอร์มาร์เก็ต, ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ และคู่ค้ารายอื่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้บริษัทจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงานบางส่วน ลดขนาดทีมลง และปรับโครงสร้างบริษัทครั้งใหญ่

นอกจากนี้ Happy Fresh ยังต้องเผชิญทั้งการแข่งขันที่ดุเดือดจากผู้เล่นรายอื่นๆ ที่มีระบบ Ecosystem ที่ใหญ่กว่า อย่างเช่น Grab, Robinhood, Foodpanda ในประเทศไทย หรือ GoMart, Tokopedia Now และ AlloFresh ในอินโดนีเซีย ด้านซูเปอร์มาร์เก็ตเจ้าใหญ่เอง ก็ซุ่มพัฒนาระบบเดลิเวอรีของตัวเองจนแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ช่วงล็อกดาวน์
 

ล่าสุด Happy Fresh สามารถระดมทุนก้อนใหม่ เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินกิจการต่อในอินโดนีเซียได้แล้ว อย่างไรก็ตาม บริษัทตัดสินใจยุติการให้บริการในประเทศมาเลเซีย และประเทศไทย หลังให้บริการมาเป็นระยะเวลากว่า 7 ปี
 

ที่มา : HappyFresh, DealStreetAsia, Malay Mail