บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ได้รายงานงบการเงินไตรมาส 1/2566 ซึ่งผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นแบบมีเงื่อนไขและข้อสังเกต จากความซับซ้อนของการจัด โครงสร้างของผู้ขายโรงแรม รวมถึงสิทธิเครื่องหมายทางการค้าและใบอนุญาตต่างๆ ในประเทศเยอรมนี
แม้ว่าตลาดหล้กทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) เคยให้ชี้แจงแล้ว แต่ผู้สอบบัญชียังให้ความเห็นว่า ยังไม่สามารถตรวจสอบทานได้ SET จึงให้ NUSA ชี้แจงข้อมูลผ่านระบบตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 25 ก.ค.นี้
โดยมีรายการสำคัญ ดังนี้
- รายการเข้าซื้อโรงแรมที่เยอรมนี ที่ผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไข ว่า ไม่สามารถสอบทานรายการนี้ ให้มั่นใจเกี่ยวกับผู้ขายที่แท้จริง และไม่สามารถสรุปได้ว่า จำเป็นต้องปรับปรุงเงินมัดจำค่าซื้อโรงแรม และค่าสิทธิเครื่องหมายการค้าดังกล่าวหรือไม่ หากต้องปรับปรุงจะมีผลกระทบต่องบการเงินอย่างไร
โดยเมื่อเดือนมกราคม 2564 NUSA จะเข้าซื้อโรงแรมที่เยอรมนี ซึ่งอยู่ระหว่างขอใบอนุญาต ต่อมาในงบการเงินไตรมาส 3/2565 ได้เปลี่ยนเป็นซื้อหุ้นแทน (เป็นเจ้าของบริษัทที่มีทรัพย์สินเป็นโรงแรมดังกล่าว) โดยจ่ายเงินมัดจำให้ผู้ขายแล้ว 624 ล้านบาท คิดเป็น 84% ของราคาซื้อไม่เกิน 740 ล้านบาท ขึ้นกับผล Due Filigence
ต่อมาเดือนพฤษภาคม 2566 ได้เปลี่ยนเป็นการลงทุนเป็นการซ์้อหุ้น (ไม่ระบุชื่อ) โดยยกเลิกสัญญาเดิมและตกลงให้ผู้ขายเดิมคืนเงินมัดจำ ภายใน 2 ปี โดยไม่มีดอกเบี้ย ซึ่งปรากฎข้อมูลว่า มีการเลื่อนเปิดโรงแรมจากไตรมาส 3/2566 เป็นปี 2567
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ชี้แจงประเด็น คือ
- การเปลี่ยนแปลงรูปแบบและเงื่อนไขการลงทุนในโรงแรมที่เยอรมนี
- ความคืบหน้าและกรอบเวลาในการทำ Due diligence แล้วเสร็จ เหตุใดจึงไม่เรียกคืนเงินมัดจำทันที
- แนวทางการดำเนินงาน เพื่อให้ผู้สอบบัญชีสามารถตรวจสอบรายการดังกล่าวได้อย่างมั่นใจ และสามารถแสดงความเห็นต่องบการเงินแบบไม่มีเงื่อนไขได้
2. รายการที่เกี่ยวกับบริษัท มอร์ มันนี่ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
เดือนกรกฎาคม 2565 NUSA ได้เข้าไปลงทุนในบริษัท มอร์ มันนี่ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มอร์ มันนี่) 30% (ผู้ถือหุ้นอีก 50 % คือ บริษัทย่อยของบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE และได้วางเงินมัดจำให้แก่มาร์ มันนี่ เพื่อเป็นหลักประกันว่า บริษัทจะปฎิบัติตามบันทึกข้อตกลงการร่วมทุน
ต่อมา บริษัทได้ยกเลิกการร่วมทุน และขายหุ้นมาร์ มันนี่ โดยได้โอนกรรมสิทธิในหุ้นดังกล่าวให้กับผู้ถือหุ้นแล้ว แต่ยังไม่มีการรับชำระค่าขาย นอกจากนี้ มอร์ มันนี่ ได้ขอขยายเวลาคืนเงินเพิ่มทุนและเงินมัดจำ จำนวน 57.5 ล้านบาท ออกไปอีก 90 วัน (ครบวันที่ 29 ก.ค.2566 และวันที่ 11 ส.ค.2566 ตามลำดับ)
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ชี้แจง ดังนี้
- เหตุผลที่ขยายเวลาคืนเงินเพิ่มทุนและเงินมัดจำ
- มาตรการดำเนินการเพื่อให้ได้รับคืนเงินดังกล่าวเมื่อครบกำหนดเวลาที่ขยาย
- ผลกระทบต่อสภาพคล่องของกลุ่มบริษัท
3. ความสามารถของกลุ่มบริษัทในการดำเนินงาน
ผู้สอบบัญชีได้ให้ข้อสังเกต เรื่องความสามารถของกลุ่มบริษัทในดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มบริษัทขาดทุนจากการดำเนินงานต่อเนื่องหลายปี และ ณ สิ้นไตรมาส 1/2566 กลุ่มบริษัทมีหนี้สินสำคัญ คือ เจ้าหนี้ค่างานก่อสร้างของบริษัท ณุศา เลเจนด์ สยาม จำกัด (ณุศา เลเจนด์) รวม 1,723 ล้านบาท โดย China International Economic and Trade Arbitration Commission มีคำชี้ขาดข้อพิพาทให้บริษัทชำระหนี้ของณุศา เลเจนด์ ซึ่งบริษัทได้ยื่นขอเพิกถอนคำชี้ขาดพิพาทดังกล่าว โดยบริษัทเชื่อมั่นว่า ยังไม่ถือว่าเป็นเหตุผิดนัดในมูลหนี้อื่นของบริษัท
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ชี้แจง ดังนี้
- ความคืบหน้าของข้อพิพาท
- ผลกระทบต่อเหตุผิดนัดในมูลหนี้อื่นของบริษัท เช่น หนี้หุ้นกู้ เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน เป็นต้น
ทั้งนี้ จากทั้ง 3 ประเด็นข้างต้น อาจมีผลกระทบต่อฐานะการเงินและสภาพคล่องของบริษัทตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอความเห็นของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบต่อผลกระทบดังกล่าว รวมถึง ประโยชน์สูงสุดต่อกลุ่มบริษัทและผู้ถือหุ้นอย่างไร อย่างไรก็ตาม SET ขอให้นักลงทุนควรติดตามคำชี้แจงของบริษัท
ผลประกอบการ NUSA 5 ปีติดต่อกัน
ปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 653.19 ล้านบาท รายได้รวม 1,585.79 ล้านบาท
ปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 928.08 ล้านบาท รายได้รวม 709.92 ล้านบาท
ปี 2564 ขาดทุนสุทธิ 889.13 ล้านบาท รายได้รวม 1,651.32 ล้านบาท
ปี 2565 ขาดทุนสุทธิ 417.22 ล้านบาท รายได้รวม 1,801.49 ล้านบาท
ไตรมาส 1/2566 ขาดทุนสุทธิ 114.81 ล้านบาท รายได้รวม 291.84 ล้านบาท
ราคาหุ้น NUSA ณ 14.30 น.(11 ก.ค.) ปรับลดลง 30% อยู่ที่ 0.49 บาทต่อหุ้น หลังตลาดหลักทรัพย์ฯ แจ้งเตือนนักลงทุน