เมื่อเราใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ หรือช้อปออนไลน์ร้านในต่างประเทศต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 1% ของยอดใช้หากซื้อสินค้า หรือกดเงินสดในตปท. ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป
แหล่งข่าวระดับสูงจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง กล่าวกับ SPOTLIGHT ว่า การคิดค่าธรรมเนียม DCC 1% นั้น ในเรื่องนี้ทางชมรมบัตรเครดิตได้มีการหารือกันมานานแล้ว เนื่องจากในต่างประเทศแล้ว เช่น สิงคโปร์ เป็นต้น และที่ผ่านมาผู้ให้บริการรับภาระตรงนี้มานานแล้ว
เหตุผลอีกประการ คือ ผู้ประกอบการแบกรับภาระต้นทุน เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ให้บริการทั้งแบงก์ และนอนแบงก์จะเป็นผู้ที่เสียค่าธรรมเนียมส่วนนี้ให้กับ VISA/Master Card
วันนี้ มาเปิดรวมร้านช้อปออนไลน์ต่างประเทศ จ่ายบัตรเครดิต VISA / Master Card โดนชาร์จ 1%
อาทิเช่น
AIRASIA BERHAD, NETFLIX, APPLE, TikTok, AGODA, Booking, Klook, IHERB, ALIPAY, TAOBAO, PAYPAL, FACEBOOK, GOOGLE, AIRBNB, EXPEDIA, EBAY, SPOTIFY, ALIBABA, TRIP.COM, STEAMGAMES, VIU, AMAZON เป็นต้น
แหล่งข่าวระดับสูงจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง กล่าวกับ SPOTLIGHT ยังกล่าวอีกว่า “โดยปกติการซื้อสินค้าในต่างประเทศ รูดซื้อสินค้าออนไลน์ หรือกดเงินสดในต่างประเทศ ร้านค้าหรือ VISA/ Master Card ต้องมีการเสียค่าธรรมเนียมอัตราแลกเปลี่ยนอยู่แล้ว โดยเฉพาะซื้อสินค้าสกุลดอลลาร์ จะเสียค่าธรรมเนียมอัตราแลกเปลี่ยน อยู่ที่ 2.5% อยู่แล้ว ขณะที่ซื้อสินค้าสกุลเงินบาท เราไม่เสียค่าธรรมเนียม 1% เพราะเราเป็นคนออกส่วนนี้ให้ไปทาง VISA/Master Card ซึ่งที่ผ่านมาก็ขาดทุนในส่วนนี้มาตลอด แต่ยอมรับว่าตัวเลขไม่เยอะมาก แต่เราจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน เพื่อให้อยู่บนมาตรฐานสากล ”
ยกตัวอย่างเช่น
คนไทยไปซื้อของที่ฮ่องกง ไปรูดซื้อสินค้าฮ่องกง บางร้านจะมีให้เลือกว่า ใช้สกุลเงินดอลลาร์ จะเสียค่าธรรมเนียมอัตราแลกเปลี่ยน 2.5% แต่ถ้าเป็นสกุลบาทก็จะเสียค่าอัตราแลกเปลี่ยนเช่นเดียวกัน ตามแต่ละร้านค้าจะคิด ซึ่งถ้าไม่ถามร้านค้าและคิดคำนวณ % ก็จะไม่รู้ และจะบวกเพิ่มอีก 1% ที่ต้องจ่าย
ส่วนการช้อปออนไลน์ก็เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น จองที่พักใน Booking.com จะมีให้เลือกว่า จองที่พักในรูปแบบดอลลาร์ หรือรูปเงินบาท หากเปลี่ยนเป็นรูปเงินบาท จะมีการคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนให้เรา ซึ่งต้องมาคำนวณดูว่า ค่าเงินบาทในอัตราที่เท่าไหร่ คิดเป็นค่าฟีอัตราแลกเปลี่ยนเท่าไหร่ + ค่าฟี DCC อีก 1% เช่นเดียวกัน ถ้าเป็นสกุลดอลลาร์จะโดนคิดค่าฟีการแปลงอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 2.5% แต่จะไม่เสียค่าฟี DCC
ส่วนถ้าหากไม่อยากเสียค่า DCC Fee แนะนำให้ใช้บัตรเดบิต ซึ่งยังไม่มีการเก็บค่าฟี DCC 1% ซึ่งขณะนี้มีบัตรเดบิตที่ใช้จ่ายด้วยสกุลเงินบาทไม่เสียค่าธรรมเนียม เช่น ttb All fee ของทีทีบี หรือบัตร Travel Card ของธนาคารกรุงไทย