การเงิน

ธนาคารออมสิน ลดดอกเบี้ย MRR 0.15% มีผลทันที โชว์ดอกเบี้ยต่ำสุดในระบบ

9 ม.ค. 67
ธนาคารออมสิน ลดดอกเบี้ย MRR 0.15%  มีผลทันที โชว์ดอกเบี้ยต่ำสุดในระบบ

กระแสผลกำไรกลุ่มธนาคารปี 2023 โตแรงยังไม่ทันจางหาย ล่าสุดแบงก์รัฐอย่างธนาคารออมสิน ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ MRR 0.15% มีผลทันที จับตาธนาคารอื่นๆจะประกาศลดดอกเบี้ยตามหรือไม่ ? 

ธนาคารออมสินระบุว่า ตามที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบหมายสั่งการสถาบันการเงินของรัฐ ดำเนินการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการลดภาระทางการเงินของประชาชน โดยที่นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกนโยบายให้ธนาคารออมสินตรึงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานไว้ก่อนจนถึงสิ้นปี 2566 นั้น

ล่าสุด ธนาคารออมสินประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อย (MRR) หลังจากตรึงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานไว้ในระดับต่ำจนถึงสิ้นปีที่ผ่านมา โดยประกาศดอกเบี้ย MRR จากเดิม 6.995% ลดลงเหลือ 6.845% มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อช่วยเหลือบรรเทาภาระทางการเงินของประชาชนในช่วงระยะนี้ไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง นับเป็นอัตราดอกเบี้ย MRR ที่ต่ำสุดในระบบธนาคาร ณ เวลานี้

อนึ่ง อัตราดอกเบี้ย MRR หรือ Minimum Retail Rate เป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิงที่ใช้สำหรับลูกค้าสินเชื่อรายย่อย ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของธนาคาร การประกาศลดอัตราดอกเบี้ย MRR ในครั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าช่วยเหลือประชาชนในภาวะที่ต้องแบกรับต้นทุนทางการเงินมากขึ้นในการดำรงชีพ ถือเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐ และสอดคล้องตามภารกิจธนาคารเพื่อสังคม

ออมสินลดดอกเบี้ย

ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง เตรียมจะเรียกสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ (แบงก์รัฐ) มาหารือ โดยยอมรับว่ากระทรวงการคลังมองเห็นถึงปัญหาอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงซึ่งเป็นภาระของประชาชน และที่ผ่านมาแบงก์รัฐก็ได้มีการตรึงอัตราดอกเบี้ยมามากพอสมควร และกระทรวงการคลังเองก็ได้มีการสั่งการไปยังแบงก์รัฐทั้งหมดให้มีการตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้นานและมากที่สุด เพราะรู้ว่าประชาชน เกษตรกร ผู้กู้รายย่อยเดือดร้อน

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าแบงก์รัฐยังมีภารกิจทางสังคมและภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล เช่น การพักหนี้ การแก้ไขปัญหาหนี้สิน อย่าง ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ก็มีภาระที่จะต้องเข้าไปช่วยเหลือตามกลไกของรัฐ ทำให้แบงก์รัฐไม่สามารถทำธุรกิจเป็นปกติ 100% ได้ และมาตรการแก้หนี้ส่วนหนึ่งก็อาจไหลเข้ามาอยู่กับแบงก์รัฐที่จะต้องเข้าไปรับไว้ ให้ความช่วยเหลืออัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม ซึ่งหนี้เหล่านี้ก็ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง ขณะที่แบงก์รัฐก็มีภาระหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดตั้ง

"ส่วนที่ว่าแบงก์รัฐบางแห่งจะมีกำไรเยอะ ก็คือสถานการณ์เดียวกัน แต่ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาแบงก์รัฐพยายามตรึงอัตราดอกเบี้ยมาโดยตลอด และถามว่าแบงก์รัฐจะอยู่ยังไงในตลาดแบบนี้ โดยในช่วงต้นปี ธนาคารออมสินก็ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยไปเพียง 0.25 สตางค์ ขณะที่ ธ.ก.ส. ปรับขึ้นดอกเบี้ย MLR เท่านั้น แต่ดอกเบี้ยส่วนอื่นก็พยายามตรึงอยู่และตรึงให้ถึงที่สุด ส่วนกำไรที่สูงนั้น ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องโยนเม็ดเงินกำไรส่วนหนึ่งกับมาที่รัฐเป็นเงินหลวง เพื่อใช้ทำภารกิจตามนโยบายรัฐบาลต่อไป" นายจุลพันธ์ กล่าว

advertisement

SPOTLIGHT