การเงิน

ก.ล.ต.เปิดแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี ไม่ปิดกั้น มุ่งพัฒนา ส่งเสริมตลาดทุนและธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

25 มี.ค. 65
ก.ล.ต.เปิดแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี ไม่ปิดกั้น มุ่งพัฒนา ส่งเสริมตลาดทุนและธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

สำนักงาน ก.ล.ต. แถลงเปิดแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี ช่วงปี 2565-2567 ระบุ จะใช้ตลาดทุนเป็นกลไกสำคัญปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็ง พร้อมมุ่งสู่ตลาดทุนดิจิทัล ไม่ปิดกั้น มุ่งพัฒนา พร้อมปรับปรุงการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล-ยกระดับคุ้มครองผู้ลงทุน ส่งเสริมตลาดทุนและผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

 
 
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ตามแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ปี 2565 – 2567มีความเชื่อมโยงและสอดรับกับทิศทางของประเทศตั้งแต่ระดับแผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนระดับรองต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ตลอดจนทิศทางแผนพัฒนาตลาดทุนไทยฉบับใหม่ โดยในกระบวนการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ฯ ได้มีการติดตาม วิเคราะห์ผลกระทบจากสถานการณ์ปัจจุบันและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
 
 
พร้อมทั้งรับฟังความเห็นของผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อให้มีข้อมูลที่ครบถ้วนและรอบด้าน ซึ่งทั้งหมดนี้ได้นำไปสู่การกำหนดเป้าหมายและแผนยุทธศาสตร์ฯ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ อย่างแท้จริง โดยจะทำให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน และนำมาซึ่งความร่วมมือในการขับเคลื่อน และผลักดันให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อไป
 
 
สำหรับตามแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. จะเน้นในการบรรลุวัตถุประสงค์ 3 ด้าน ได้แก่ การเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน การสร้างการมีส่วนร่วม และการสร้างความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่น โดยมีเป้าหมายหลัก 5 ด้าน ดังนี้
 
 
1. ใช้ตลาดทุนเป็นกลไกสำคัญในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็ง ผ่านการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการระดมทุนของกลุ่มธุรกิจที่เป็นเป้าหมายของประเทศ อาทิ กลุ่ม BCG, 12 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย New S-curve, SMEs, Startups โดยมีแนวทางการกำกับดูแลที่เอื้อต่อการสนับสนุนให้กลุ่มธุรกิจเป้าหมายสามารถระดมทุนผ่านตลาดทุน ได้แก่
 
 
ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับทราบถึงปัญหา อุปสรรค และปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มธรกิจเป้าหมาย, กำหนดแนวทางและปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อลดอุปสรรคในการเข้าถึงตลาดทุน, จัดกิจกรรมเพื่อสร้างความตระหนักรู้แก่ผู้เกี่ยวข้อง
 
 
2. การเป็นตลาดทุนดิจิทัล เพื่อส่งเสริมศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศ โดยการพัฒนาระบบนิเวศและใช้ประโยชน์จากนวัตกรรม โดยจะดำเนินการตั้งแต่ปรับปรุงฉากทัศน์ การกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อยกระดับคุ้มครองผู้ลงทุนและส่งเสริมผู้ประกอบธุรกิจ Digital Assets, การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาส่งเสริมการพัฒนากำกับดูแลตลาดทุน (Tech-led supervision) เพื่อการเปิดเผย เชื่อมโยงข้อมูล นำดิจิทัลเข้ามาบังคับใช้กฎหมาย และยกระดับการเฝ้าระวัง การติดตามความเสี่ยงของผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุน รวมถึงยกระดับการกำกับดูแลความมั่นคง ความปลอดภัยทาง Cyber & Data ในตลาดทุน
 
 
3. การยกระดับศักยภาพตลาดทุนเพื่อความยั่งยืน ทั้ง SDGs, ESG ให้ทัดเทียมระดับสากล
 
 
 
4. สร้างตลาดทุนให้มีระบบนิเวศที่เหมาะสม ยืดหยุ่นตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเอื้ออำนวยต่อการพัฒนาและกำกับดูแลให้สอดรับกับฉากทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมเชื่อมโยงและเป็นที่ยอมรับในสากล ซึ่งจะดำเนินการศึกษา กำหนดทิศทาง การพัฒนา และกำกับธุรกิจหลักทรัพย์ รวมถึงตรวจสอบความเสี่ยงให้เท่าทันต่อฉากทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไป, การเชื่อมโยงกับต่างประเทศ ทั้งการส่งเสริมสินค้าอ้างอิงหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Cross-border Products) เป็นต้น
 
 
5. ผู้ลงทุนมีศักยภาพในการสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดี ผ่านการส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงตลาดทุนในการสะสมความมั่งคั่งได้อย่างเหมาะสม ตอบโจทย์ความต้องการที่ดีได้ โดยร่วมกับภาคธุรกิจขยายฐานผู้ลงทุน ส่งเสริมการลงทุน, ปรับปรุง พ.ร.บ.PVD ให้สอดรับกับร่าง พ.ร.บ.กบช. อีกทั้งยังส่งเสริมทักษะความเข้าใจด้าน financial & digital literacy เพื่อติดอาวุธความรู้ผู้ลงทุนให้เป็น Smart investor
 
 
พร้อมกันนั้น ยังได้วางเป้าหมายภายในสำนักงาน ก.ล.ต.ให้เป็นองค์กรนวัตกรรม (Innovative Organization) ไว้ 2 ด้าน ประกอบด้วย Everything is possible culture: คน ก.ล.ต. คิอต่อยอด พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างแนวคิด วิธีและรูปแบบใหม่ๆ ในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และ Excellent services: ก.ล.ต. เป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม นำดิจิทัลมาใช้ เพื่อให้บริการสะดวก ลดภาระ ตอบโจทย์ผู้มีส่วนได้เสีย และเชื่อถือได้
 
 
นายพิชิต อัคราทิตย์ ประธานกรรมการ ก.ล.ต. กล่าวว่า แม้การเปลี่ยนแปลงจะยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องและซับซ้อนมากขึ้น อีกทั้งมีแนวโน้มที่จะรุนแรงและรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม แต่ด้วยบทบาท หน้าที่ สรรพกำลังและทรัพยากรของตลาดทุนไทยที่ยังคงเข้มแข็ง จึงทำให้ตลาดทุนไทยยังคงมีศักยภาพและบทบาทสำคัญที่สามารถช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจและพัฒนาสังคมไทยให้ก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุม และยั่งยืน ได้แก่
 
 
บทบาทในการสร้างการมีส่วนร่วม บทบาทการพัฒนากลไกและสภาพแวดล้อมที่จะสร้างประโยชน์ไปถึงกลุ่มธุรกิจในเศรษฐกิจยุคใหม่และ บทบาทการส่งเสริมศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศผ่านการสนับสนุนเทคโนโลยีและดิจิทัล ขณะเดียวกัน ก.ล.ต. ได้ดำเนินหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เพื่อยกระดับความน่าเชื่อถือของตลาดทุนไทยอย่างต่อ
 
 
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เพื่อช่วยให้ประเทศไทยเติบโตอย่างเข้มแข็ง ยั่งยืน ครอบคลุมทุกภาคส่วน กระทรวงการคลังได้วางทิศทางนโยบายในการพัฒนาตลาดทุนไทยไว้ทั้งหมด 5 ด้าน พร้อมมอบหมายให้ ก.ล.ต. เป็นเจ้าภาพร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำนโยบายดังกล่าวมาจัดทำเป็นแผนเพื่อพัฒนาตลาดทุนไทยสำหรับปี 2565 – 2570
 
 
โดยกระทรวงการคลังได้มอบหมายให้พิจารณาผนวกแผนฟินเทค (Fintech) ในแผนพัฒนาตลาดทุนดังกล่าวด้วย สำหรับนโยบายการพัฒนาตลาดทุนทั้ง 5 ด้าน ประกอบด้วย 1) การส่งเสริมการเข้าถึงการระดมทุนและการลงทุนผ่านกลไกตลาดทุน (accessibility) โดยเฉพาะกลุ่มภาคธุรกิจอุตสาหกรรมเป้าหมาย 2) การเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย (competitiveness)
 
 
3) การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับตลาดทุน (digital for capital market) 4) การพัฒนาตลาดทุนที่ยั่งยืน (sustainable capital market) 5) การสนับสนุนสุขภาพทางการเงินที่ดีของประชาชนในระยะยาว และการมีความรู้ความเข้าใจทางการเงิน (financial well-being)
 
 
 
 
 
 

advertisement

SPOTLIGHT