ราคาทอง ยังไม่เกิด ฟองสบู่ คาดราคารับซื้อเกิน 4 หมื่นบาท ในเดือนนี้

ราคาทองคำ ขายปลีกในประเทศวันนี้ บวก 350 บาท สร้างสถิติใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาทองรูปพรรณขายออกปรับขึ้นไปอยู่ที่ 40,100 บาทแล้ว อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นมาในรอบนี้ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มเกิดความไม่มั่นใจ ว่าราคาทองคำขึ้นมาสูงจนจะเป็นภาวะฟองสบู่หรือไม่?

ราคาทอง ยังไม่เกิด ฟองสบู่ คาดราคารับซื้อเกิน 4 หมื่นบาท ในเดือนนี้

จากรายงาน สมาคมค้าทองคำ รายงานว่า ราคาทองเปิดตลาดเช้านี้ ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง โดยรับซื้อเข้าที่บาททองคำละ 39,500 บาท และขายออกที่บาททองคำละ 39,600 บาท ด้านทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าที่บาททองคำละ 38,794.44 บาท และขายออกที่บาททองคำละ 40,100 บาท ล่าสุดราคาปิดตลาดอยู่ที่ 

• ทองแท่ง รับซื้อ 39,450.00 (บาท) ขายออก 39,550.00 (บาท)
• ทองรูปพรรณ รับซื้อ 38,733.80 (บาท) ขายออก 40,050.00 (บาท)
• Gold Spot 2,273.50

น่าทึ่งยิ่งกว่าคือ เพียงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 3,950 บาท (30 มี.ค.) ซึ่งมากกว่า 2 เดือนก่อนหน้า (มกราคม เพิ่มขึ้น 550 บาท และกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 400 บาท) จากการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาทองรูปพรรณขายออกแตะระดับ 40,000 บาทเป็นครั้งแรก สร้างสถิติใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นอย่างก้าวกระโดด สร้างความกังวลให้แก่นักลงทุน หลายคนเริ่มกังวลว่า อาจเกิดภาวะฟองสบู่ทองคำ เกิดขึ้น เมื่อหลายคนเริ่มคิดว่าควรขายทำกำไรในบางส่วน ดีกว่าเก็บตุนไว้ทั้งหมด

มีโอกาสเกิด ภาวะฟองสบู่ทองคำ มากขนาดไหน

“SPOTLIGHT” ได้รับข้อมูลจากคุณ จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ ถึงโอกาสการเกิด ภาวะฟองสบู่ในทองคำ หลังราคาพุ่งแรงไม่หยุด โดยคุณ จิตติ ได้แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า โอกาสการเกิดภาวะฟองสบู่แตกของทองคำ เป็นเรื่องที่เกิดยากเพราะ คนที่ซื้อทองคำในเวลานี้ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจาก นักลงทุน แต่มาจาก เหล่าธนาคารกลางที่เข้าซื้อทองคำไม่หยุด ซื้อแล้วเก็บเข้าคลัง ไม่ได้เอาออกขายทำกำไรเหมือนรายย่อย ดังนั้น โอกาสการเกิดภาวะฟองสบู่แตก เป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นยาก

นายกสมาคมค้าทองคำกล่าวอีกว่าสำหรับท่านที่มีความกังวลหรือมีเงินสดไม่มากพอหรืออยากขายเพื่อทำกำไร สามารถแบ่งขายทำกำไรในบางส่วนได้แต่ อย่าพึ่งรีบขายไปจนหมดเพราะราคาทองจะยังคงมีโอกาสขึ้นต่อไปอีก เพราะประเด็นสงครามยังคงทวีความตึงเครียดต่อไปไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ

ภาพรวมความเคลื่อนไหวราคาทองคำจาก Hua Seng Heng ฮั่วเซ่งเฮง

แนวโน้มตลาดทองคำ แนวต้าน 2,300 ดอลลาร์ ราคาทองคำปรับตัวขึ้น (+29.8 ดอลลาร์) ดอลลาร์ คิดเป็น (+1.32%) ปิดตลาดที่ระดับ 2,279 ดอลลาร์
Gold spot

• สูงสุด – 2,280 ดอลลาร์
• ต่ำสุด – 2,246 ดอลลาร์

ราคาทองคำแท่ง

• สูงสุด – 39,250 บาท
• ต่ำสุด – 39,000 บาท

ราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้นต่อเนื่องขึ้นสู่ All-Time High ใหม่อีกครั้ง เนื่องจากแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังอิสราเอลโจมตีสถานเอกอัครราชทูตอิหร่านในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย ทำให้อิหร่านประกาศจะตอบโต้อย่างสาสม นอกจากนี้ปัจจัยทางเทคนิคสนับสนุนราคาทองคำ และราคาทองคำได้ปิดจุดสูงสุดของวัน ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 2.02 ตัน

ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม

คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนมี.ค. ของ ADP ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 148,000 ตำแหน่ง จากเพิ่มขึ้น 140,000 ตำแหน่ง และดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมี.ค. โดย ISM ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 52.8 จาก 52.6 ในเดือนก.พ.

ราคาทองตลาดโลก

• แนวรับ 2,270 และ 2,250 ดอลลาร์
• แนวต้าน 2,300 ดอลลาร์

คาดว่าราคาทองคำ spot มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น หลังจากทำ All-Time High ใหม่อย่างต่อเนื่อง หากจะเข้าซื้อ สามารถเข้าซื้อทองคำบริเวณราคา 2,270 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,260 ดอลลาร์ และ Take Profit เมื่อราคาทองคำปรับขึ้นไปบริเวณแนวต้าน 2,300 ดอลลาร์ ซึ่งการเข้าซื้อช่วงนี้ให้เน้นเข้าออกเร็ว

ราคาทองคำแท่ง 96.5%

• แนวรับ 39,300 และ 39,100 บาท
• แนวต้าน 39,800 บาท

4 ปัจจัยหนุนราคาทองคำพุ่งทะยาน! เป้าหมายใหม่ปี 2567 อยู่ที่ 2,350 ดอลลาร์ จาก YLG 

ราคาทองคำ ในตลาดโลกสร้างสถิติสูงสุดใหม่แตะ 2,288 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ และมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) วิเคราะห์ว่า สาเหตุหลัก 4 ประการที่หนุนราคาทองคำมีดังนี้

1. ดอกเบี้ยขาลง : วงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดสิ้นสุดลงแล้ว คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ กดดันดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ร่วงลง หนุนราคาทองคำ
2. เทคนิคแกร่ง : ราคาทองคำทะลุแนวต้านสำคัญหลายประการ เคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย และสร้างจุดสูงสุดใหม่ ย่อตัวลงก็มีการยกระดับต่ำสุดขึ้น แสดงถึงสัญญาณขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
3. แรงซื้อจากจีน : ความต้องการทองคำในจีนพุ่งสูง กองทุน ETFs จีนซื้อสะสม 3 เดือนติดต่อกัน เงินทุนไหลเข้า 778 ล้านหยวน หนุนราคาทองคำในจีนปรับตัวสูงขึ้น
4. ธนาคารกลางสะสมต่อเนื่อง : ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำเพิ่ม 39 ตันในเดือนม.ค. นำโดยตุรกีและจีน คาดการณ์ว่าปี 2567 ยังเป็นปีที่แข็งแกร่งของความต้องการทองคำจากธนาคารกลาง

YLG ปรับเป้าหมายราคาทองคำใหม่ปี 2567 อยู่ที่ 2,350 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ นักลงทุนที่ต้องการเริ่มต้นลงทุนในทองคำ สามารถใช้แอปพลิเคชั่น Get Gold ซื้อ-ขายทองคำ Gold Spot แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง ลงทุนขั้นต่ำเพียง 100 บาท สะดวก เข้าถึงง่าย ผ่านสมาร์ตโฟน

ที่มา คุณ จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ YLG และ Hua Seng Heng