ในช่วงที่ราคาน้ำมันแพงแบบนี้ ลองมาสำรวจกันหน่อยว่า ปริมาณรถในประเทศไทยมีมากแค่ไหนเพราะนั่นหมายถึงปริมาณการใช้พลังงานที่มากตามไปด้วย รวมไปถึงสภาพการจราจรที่ติดขัดในเมืองใหญ่ ที่น่าสนใจคือ ยิ่งราคาน้ำมันแพงมากขึ้นเท่าไหร่ ก็เร่งให้ผู้บริโภคสนใจยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นตามไปด้วย ลองมาสำรวจกันว่าปัจจุบันคนไทยใช้รถยนต์แบบไหนกันบ้าง เพราะตลาดรถยนต์ในประเทศไทยกำลังค่อยๆ เปลี่ยนไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นเช่นกัน
ประเทศไทยมีรถยนต์มากกว่า 42 ล้านคัน
โดยข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบกพบว่า ประเทศไทยมีรถยนต์ทุกประเภท 42,691,494 คัน อยู่ในกรุงเทพฯ 11,370143 คัน ต่างจังหวัด 31,321,351 คัน เรียกได้ว่ากรุงเทพจังหวัดเดียวปริมาณรถก็มากแล้ว ในขณะที่ข้อมูลจากกระทรวงคมนาคม พบว่า ประเทศไทยมีความยาวของถนนทั้งสิ้น 702,576.55 กิโลเมตร
แนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลให้ความสนใจในยานยนต์ไฟฟ้ามีมากขึ้น ขณะที่รัฐบาลออกมาตรการส่งเสริมให้คนไทยใช่รถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น แต่กระแสการเปลี่ยนแปลงจากเชื้อเพลิงฟอสซิลน่าจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากพบว่า รถยนต์ในประเทศไทย อัพเดทถึงวันที่ 30 เมษายน 2564 ยังเป็นรถยนต์สันดาปจำนวนมาก
รถยนต์ในประเทศไทยส่วนใหญ่ ใช้เชื้อเพลิงเบนซิน
โดยลำดับประเภทเชื้อเพลิงรถยนต์ในประเทศไทย เป็นเชื้อเพลิงเบนซินมากที่สุด 29,070,757 คัน ซึ่งแน่นอนว่า คนใช้เชื้อเพลิงเบนซินในช่วงที่ผ่านมา บ่นว่า ราคาน้ำมันในกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์แพงมาก เนื่องจากมาตรการดูแลราคาน้ำมันส่วนใหญ่จากภาครัฐจะดูแลราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งรถส่วนใหญ่ที่ใช้ดีเซล พบว่า จะเป็นรถที่ใช้ในภาคการเกษตร โดยตัวเลขรวมของรถยนต์ที่ใช้ดีเซลมีจำนวน 12,147,141 คัน
ขณะที่รถที่เติมก๊าซ LPG ก็มีจำนวนมากเช่นกัน 615,656 คัน ส่วนรถที่เติม .NGV มี 310,597 คัน จะเห็นได้ว่าในยุคนึงที่ราคาน้ำมันแพงประมาณปี 2551 -2552 ช่วงนั้นมีการสนับสนุนส่งเสนิมให้ใช้ก๊าซ NGV ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในภาคการขนส่ง
รถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100% มีจำนวน 15,474 คัน
ส่วนในยุคปัจจุบันแน่นอนว่า หันไปหายานยนต์ไฟฟ้าที่ขณะนี้บรรดาค่ายรถยนต์ต่างประกาศเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าแน่นอน แต่ตัวเลขจดทะเบียนจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100% ในประเทศไทยยังมีจำนวนไม่มากนัก อยู่ที่ 15,474 คัน กลุ่มของรถยนต์ไฟฟ้า ยังเป็นรถยนต์ไฮบริดเป็นส่วนใหญ่ 218,030 คัน ซึ่งได้รวมไฮบริด ทั้ง เบนซิน ไฟฟ้า และ ดีเซล ไฟฟ้า ไปแล้ว ขณะที่รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ยังมีปริมาณมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100% โดยมีจำนวนอยู่ที่ 34,938 คัน
คาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยจะขยายตัว 539.7% ในปีนี้
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีทีบี หรือ ttb analytics ประเมินยอดขายรถยนต์นั่งไฟฟ้า (Electric Vehicles : xEV) ของไทยปี 2565 แตะ 6.36 หมื่นคัน พุ่ง 48% โดยเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ถึง 1 หมื่นคัน หรือขยายตัว 539.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
TTB analytics มองว่า ตัวเลขที่เติบโตแบบก้าวกระโดดของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย มาจากมาตรการส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ตามกระแสความนิยมยานยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคทั่วโลกในด้านราคา และเทคโนโลยีแบตเตอรี่ รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่อยู่ระดับสูงต่อเนื่อง เช่นเดียวกับยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด (Hybrid) และไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) ที่คาดว่าจะสูงถึง 5.3 หมื่นคัน สวนทางกับกระแสรถยนต์นั่งเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง (Internal Combustion Engine: ICE) หดตัวจากปี 2564 ถึง 8.8%
คนไทยใช้รถยนต์แบรนด์อะไรมากที่สุด
ส่วนแบรนด์รถยนต์ยอดนิยมของคนไทย 10 อันดับแรก ส่วนใหญ่ยังเป็นรถยนต์จากค่ายญี่ปุ่น
1.โตโยต้า 3,710,662 คัน
2.ฮอนด้า 2,265,955 คัน
3.อีซูซุ 1,077,546 คัน
4.มิตซูบิชิ 836,321 คัน
5.นิสสัน 791,055 คัน
6.มาสด้า 556,578 คัน
7.ฟอร์ด 441,617 คัน
8.เบนซ์ 269,658คัน
9.เชฟโรเลต 251,027 คัน
10.ซูซูกิ 245,888 คัน
ส่วนในหมวดรถหรูที่คนไทยใช้ เช่น ปอร์เช่ 13,790 คัน เฟอร์รารี่ 875 คัน เบนท์ลีย์ 815 คัน ลัมโบกินี่ 590 คัน
กระแสความเปลี่ยนแปลงของโลกที่หันสู่ยานยต์ไฟฟ้าทำให้ตลาดรถยนต์ทั้งโลก รวมถึงตลาดในประเทศไทยก็กำลังจะเปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน และน่าจับตามองอย่างยิ่งกับความนิยมของผู้บริโภคที่กำลังเปลี่ยนไป ตัวอย่างเช่น การรุกคืบของรถยนต์ค่ายจากจีน ที่มีการพัฒนาไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วกว่า ก็สามารถทำตลาดได้ดีในประเทศไทยเช่นกัน หรือแม้แต่ล่าสุดการที่เทสล่า เตรียมจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในไทยด้วยตัวเอง ก็เป็นสัญญาณบอกได้ว่า อุตสาหกรรมรถยนต์เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนแปลงแล้ว
ข้อมูล กระทรวงคมนาคม , กรมการขนส่งทางบก ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2565
ข่าวที่เกี่ยวข้อง