ไลฟ์สไตล์

เปิด 10 อันดับประเทศเป็นมิตรกับ Digital Nomad ทำงานทางไกล พร้อมอยู่เที่ยวได้ยาวๆ

11 ม.ค. 67
เปิด 10 อันดับประเทศเป็นมิตรกับ Digital Nomad ทำงานทางไกล พร้อมอยู่เที่ยวได้ยาวๆ

‘สเปน’ ติดอันดับ ‘ประเทศที่น่าไปทำงานทางไกล’ ที่สุดในโลก เพราะมีนโยบายวีซ่าเอื้อให้ ‘ดิจิทัล โนแมด’ (Digital Nomad) หรือกลุ่มบุคคลที่ทำงานออนไลน์ทางไกลได้ เข้าไปทำงาน เพียงมีรายได้ประมาณ 2,140 ยูโร หรือราว 82,304 บาท/เดือน และมีประสบการณ์ทำงานไม่ต่ำกว่า 1 ปี

ในปัจจุบันมีหลายบริษัท โดยเฉพาะบริษัทเทคโนโลยี อนุญาตให้พนักงานทำงานออนไลน์ทางไกลได้มากขึ้น เพราะระบบการทำงานได้เปลี่ยนมาเป็นระบบดิจิทัล ทำให้พนักงานสามารถทำงานจากที่ใดก็ได้ที่มีคอมพิวเตอร์และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ค่อนข้างเร็วและเสถียร โดยไม่ต้องเข้าออฟฟิศ หรือปักหลักอยู่ที่ใดที่หนึ่งนานๆ 

รูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไปนี้ ทำให้เกิดกลุ่มแรงงานยุคใหม่ที่เรียกว่า ‘ดิจิทัล โนแมด’ ขึ้นมา โดยหากแปลตรงตัว โนแมด จะแปลว่า กลุ่มคนเร่ร่อน ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ดังนั้น ‘ดิจิทัล โนแมด’ ก็คือกลุ่มที่ทำงานออนไลน์จากที่ไหนก็ได้นั่นเอง

ทั้งนี้ ด้วยความที่ดิจิทัลโนแมดมักจะเป็นแรงงานทักษะและรายได้สูง หลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะประเทศในช่วงหลังเกิดการระบาดของโควิดที่เสียรายได้จากการท่องเที่ยว จึงได้ออกวีซ่าทำงานทางไกลออกมาดึงดูดให้ดิจิทัลโนแมดเหล่านี้เข้าไปทำงานและจับจ่ายใช้สอยในประเทศมากยิ่งขึ้นเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว โดยในปัจจุบันมีประมาณ 50 ประเทศทั่วโลกที่เปิดให้บุคคลทั่วไปสมัครวีซ่าชนิดนี้เพื่อเข้าไปทำงานในประเทศได้

‘สเปน’ อันดับ 1 ขวัญใจโนแมด เน็ตเร็ว พาครอบครัวไปด้วยได้

ในทุกปี  VisaGuide.World เว็บไซต์ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับวีซ่า ได้จัดทำ Digital Nomad Visa Index ซึ่งเป็นการจัดอันดับประเทศต่างๆ ที่มีวีซ่าชนิดนี้ เพื่อหาว่าประเทศใดมีวีซ่าและเงื่อนไขที่เอื้อแก่การเข้าไปทำงานของดิจิทัลโนแมดมากที่สุด โดยประเมินจากหลายปัจจัย อาทิ เช่น

  • ระยะเวลาของวีซ่าดิจิทัลโนแมด
  • ความเร็วอินเทอร์เน็ต
  • การเก็บภาษีรายได้และระยะยกเว้นภาษี
  • เกณฑ์รายได้ขั้นต่ำ
  • ค่าครองชีพในแต่ละประเทศ
  • ความปลอดภัย และสภาพชีวิตของคนในแต่ละประเทศ

โดยสำหรับอันดับปี 2024 ประเทศที่มีนโยบายวีซ่าและสภาพความเป็นอยู่ที่เอื้อต่อการทำงานของดิจิทัลโนแมดมากที่สุด ก็คือ ‘สเปน’ ที่เฉือนเอาชนะแชมป์เก่าอย่างโปรตุเกสไปได้ เพราะมีเกณฑ์รายได้ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่น มีสภาพชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างดี ค่าครองชีพอยู่ในระดับกลางค่อนข้างต่ำ และมีโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากของผู้ที่ทำงานทางไกล

จากข้อมูลของ VisaGuide.World สเปนเริ่มเปิดรับสมัครวีซ่าดิจิทัลโนแมดตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2023 ภายใต้ Startup Act เพื่อดึงดูดผู้มีความรู้ความสามารถสูงเข้ามาทำงานในประเทศ และดึงดูดให้บริษัทสตาร์ทอัพต่างๆ ตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศ โดยผู้ทีมีสิทธิสมัครวีซ่าดิจิทัลโนแมดของสเปนจะต้อง

  • ไม่เป็นประชากรของประเทศในสหภาพยุโรป และ เขตเศรษฐกิจยุโรป (European Economic Area: EEA) 
  • ได้รับอนุญาตจากนายจ้างให้ทำงานทางไกล หรือมีบริษัทของตัวเองซึ่งมีแหล่งรายได้จากลูกค้าทั่วโลกที่ไม่ใช่สเปน
  • ต้องทำงานทางไกลมาแล้วอย่างน้อย 1 ปี 
  • ต้องมีรายได้อย่างน้อย 2,140 ยูโรต่อเดือน หรือ 25,680 ยูโรต่อปี
  • มีประกันชีวิตที่ครอบคลุมถึงการอยู่อาศัยในสเปน

ผู้ที่สนใจสมัครสามารถเตรียมเอกสารที่จำเป็น เช่น พาสปอร์ต หลักฐานการจ้างงาน และเอกสารแสดงระดับเงินเดือนไปยัง สถานทูตหรือสถานกงสุลสเปนในประเทศของตัวเองได้ และหลังจากได้วีซ่าดังกล่าวแล้ว ผู้ถือวีซ่าจะมีสิทธิอาศัยและทำงานในประเทศสเปนเป็นเวลา 1 ปี แต่สามารถต่ออายุวีซ่าได้ถึง 5 ปี

นอกจากนี้ ผู้ถือวีซ่ายังสามารถพาคู่สมรส บุตรที่อายุต่ำกว่า 18 ปี หรือบิดามารดา ไปอยู่อาศัยในสเปนด้วยได้ แต่ในกรณีของพ่อแม่และบุตรที่มีอายุมากกว่า 18 ปี ผู้สมัครวีซ่าต้องแสดงหลักฐานว่าผู้ติดตามของตนนั้นพึ่งพาตนด้านการเงินอยู่ และสำหรับบุตรต้องยังไม่ได้แต่งงานมีครอบครัวเป็นของตัวเอง

อย่างไรก็ตาม ยังมีประเทศอีกมากมายที่มีเงื่อนไขวีซ่าและสิทธิประโยชน์ดึงดูดดิจิทัลโนแมด ไม่ว่าเป็นอาร์เจนตินา โรมาเนีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และโครเอเชีย ซึ่งล้วนแต่มีจุดเด่น คือ การยกเว้นภาษีรายได้ตลอดการถือวีซ่า 
artboard1_20

ประเทศไทยก็มีวีซ่าดิจิทัลโนแมด แต่เกณฑ์สูงเกิน

สำหรับประเทศไทยเราเอง ก็ได้มีการออกวีซ่าสำหรับดิจิทัลโนแมดออกมาโดยเฉพาะแล้วเช่นกันในเดือนกันยายนปี 2022 ภายใต้วีซ่าสำหรับพำนักอาศัยระยะยาว 10 ปี หรือ 10-year Long-term residency (LTR) ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อดึงดูดทั้งแรงงานทักษะสูง การลงทุน และผู้ทำงานทางไกลรายได้สูงจากต่างประเทศ

ที่ผ่านมา ประเทศไทยเป็นจุดหมายยอดนิยมของเหล่าดิจิทัลโนแมดอยู่แล้ว ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ค่าครองชีพที่ต่ำ และโครงสร้างด้านอินเทอร์เน็ตคุณภาพสูง โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวอย่างกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ แต่จะเข้ามาโดยใช้วีซ่าอื่นๆ เช่น วีซ่าท่องเที่ยว เพราะว่าในอดีตไทยยังไม่มีวีซ่าออกมาตอบโจทย์ผู้ทำงานทางไกลโดยเฉพาะ

ดังนั้น ในปี 2022 หลังไทยเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยว ไทยก็ได้ออกวีซ่าระยะยาวสำหรับชาวต่างชาติศักยภาพสูงเข้ามาทำงาน ใช้จ่าย และลงทุนในประเทศไทย โดยเน้นดึงดูดชาวต่างชาติ 4 กลุ่ม คือ

  1. ประชากรที่มีความมั่งคั่งสูง (Wealthy Global Citizen)
  2. ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ (Wealthy Pensioner)
  3. ผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย (Work from Thailand Professional) ซึ่งดิจิทัลโนแมดรวมอยู่ในกลุ่มนี้
  4. ผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ (Highly Skilled Professional)

อย่างไรก็ตาม วีซ่าระยะยาวของไทยก็มีข้อจำกัดสำคัญคือเงื่อนไขที่ค่อนข้างสูง เพราะดิจิทัลโนแมดที่อยากเข้ามาทำงานที่ไทยจะต้อง

  • มีรายได้ถึง 80,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือราว 2,797,080 บาทต่อปี และ 233,090 บาทต่อเดือน ซึ่งสูงกว่าทุกประเทศใน 10 อันดับแรกใน Digital Nomad Visa Index
  • มีประสบการณ์ทำงานไม่ต่ำกว่า 5 ปี ในฟิลด์การทำงานปัจจุบัน ในช่วง 10 ปีที่ป่านมา
  • ถ้ามีรายได้ประมาณ 40,000 - 80,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี จะต้องจบการศึกษาอย่างน้อยในระดับปริญญาโท มีทรัพย์สินทางปัญญาในครอบครอง หรือมีบริษัทหรือธุรกิจที่มีการระดุมทุนใน Series A
  • ทำงานในบริษัทที่จดทะเบียนถูกกฎหมายและบริษัทที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายใน 3 ปีที่ผ่านมา
  • มีประกันสุขภาพที่มีวงเงินคุ้มครองไม่ต่ำกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ

จะเห็นได้ว่า ประเทศไทยตั้งเกณฑ์สำหรับดิจิทัลโนแมดไว้สูงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ซึ่งทำให้ดิจิทัลโนแมดส่วนใหญ่ไม่สามารถขอวีซ่านี้ในประเทศไทยได้ เพราะแม้จะมีรายได้สูงถึงเกณฑ์ ก็ค่อนข้างยากที่จะได้ทำงานในบริษัทที่มัรายได้อย่างน้อย 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี เพราะส่วนมากเป็นสตาร์ทอัพที่ยังมีรายได้และกำไรไม่มั่นคง

ดังนั้น หากประเทศไทยอยากดึงดูดให้ดิจิทัลโนแมดเข้ามาทำงานในไทยมากขึ้นจริง ก็อาจจะต้องมีการปรับเกณฑ์สำหรับบุคคลในกลุ่มนี้ให้ยืดหยุ่นและสอดคล้องกับคุณสมบัติของดิจิทัลโนแมดในความเป็นจริง มิเช่นนั้นดิจิทัลโนแมดส่วนมากก็จะเลือกไปประเทศที่มีเกณฑ์ต่ำกว่า ทำให้เราอาจเสียรายได้จำนวนมหาศาลในภาคการท่องเที่ยวและบริการจากชาวต่างชาติเหล่านี้

 

อ้างอิง: VisaGuide.World, NomadGirl




advertisement

SPOTLIGHT