การเงิน

ชงแก้กฎหมายเครดิตบูโร 'เคลียร์หนี้หมด ปลดแบล็กลิสต์ทันที'!

18 ต.ค. 65
ชงแก้กฎหมายเครดิตบูโร 'เคลียร์หนี้หมด ปลดแบล็กลิสต์ทันที'!

คลังชงแก้กฎหมายเครดิตบูโร เสนอเคลียร์หนี้ครบเมื่อไร ปลดสถานะ "แบล็กลิสต์" ให้ทันที ไม่ต้องรอนานถึง 2 ปี หวังช่วยลูกหนี้เคลียร์ประวัติ เปิดทางเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้สะดวกขึ้น

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้หารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับข้อเสนอของบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) ที่อยากให้สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (น็อนแบงก์) เช่น ธุรกิจลีสซิ่ง เช่าซื้อ รวมไปถึง นาโนไฟแนนซ์ และฟิโกไฟแนนซ์ เป็นต้น สามารถเข้าไปเป็นสมาชิกที่จะส่งข้อมูลให้เครดิตบูโรได้ เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการประเมินสินเชื่อให้ครอบคลุมมากขึ้น

อย่างไรก็ดี รมช.คลัง ระบุว่ายังคงมีความเป็นห่วงในบางประเด็น โดยเฉพาะผลกระทบและความไม่เป็นธรรมต่อประชาชนระดับกลาง และระดับล่าง ซึ่งอาจจะประสบปัญหาการกู้เงินในระบบได้ในอนาคต

ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบัน การจัดทำรายชื่อบัญชีดำ (แบล็กลิสต์) มีเงื่อนไขว่า ผู้ที่เป็นหนี้เสียขาดการชำระหนี้เกิน 3 เดือน จะถูกขึ้นบัญชีดำถึง 2 ปี ทำให้ในระหว่าง 2 ปีนี้จะไม่สามารถไปขอกู้ในระบบได้

“แม้จะมีการจ่ายหนี้ครบแล้ว ก็ยังจะไม่ถูกปลดจากบัญชีดำ และยังมีชื่อค้างอยู่ในระบบ ยังไม่สามารถยื่นขอกู้ได้นานถึง 2 ปี ดังนั้น ผมจึงเสนอให้เครดิตบูโรต้องแก้ไขประเด็นนี้ หากใครมีการเคลียร์หนี้เก่าหมด ก็จะพ้นการถูกขึ้นบัญชีดำทันที” นายสันติ กล่าว

ที่ผ่านมามีผู้ร้องเรียนถึงกรณีการถูกขึ้นบัญชีดำมาที่กระทรวงการคลัง "มากกว่า 1 ล้านราย" สิ่งที่เป็นห่วง คือ เมื่อมีการกักรายชื่อไว้นานถึง 2 ปี ประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่เคยเป็นหนี้เสียจะไม่สามารถไปกู้เงินในระบบได้ และจำเป็นต้องหันไปพึ่งหนี้นอกระบบ ซึ่งมีดอกเบี้ยสูง โดยมีผลต่อหนี้ครัวเรือนในอนาคตด้วย หากแก้ไขในประเด็นนี้ก็จะเป็นการสร้างความเป็นธรรมให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อยด้วย ส่วนกรณีที่ผู้ที่เป็นหนี้เสียอยู่และยังไม่เคยเคลียร์หนี้เดิม ก็ยังคงอยู่ในบัญชีดำตามเงื่อนไขเดิม

สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ กระทรวงการคลังจะมีการหารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อเดินหน้าแก้ระเบียบกฎหมายดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากเรื่องกฎหมายเครดิตบูโรจะต้องมีการแก้ไขในบางประเด็นอยู่แล้ว หากดำเนินการเรียบร้อยแล้วก็จะเดินหน้าเสนอ ครม.อนุมัติต่อไป เพื่อเดินหน้าเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT