การเงิน

ครั้งแรกในรอบ 20 ปี! "1 ดอลลาร์ = 1 ยูโร" หรือยุโรปจะหนักกว่าที่คิด?

12 ก.ค. 65
ครั้งแรกในรอบ 20 ปี! "1 ดอลลาร์ = 1 ยูโร" หรือยุโรปจะหนักกว่าที่คิด?

 

ปัญหาค่าเงินอ่อนค่าไม่ได้มีแค่ค่าเงินบาทในบ้านเราเท่านั้น แต่ยังเป็นกันทุกที่โดยเฉพาะในญี่ปุ่นและฝั่งยุโรป เพราะทุกประเทศกำลังเจอดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นไม่หยุด

ล่าสุด ค่าเงินยูโร (Euro) ได้ทำสถิติอ่อนค่าจนลงมาแตะที่ "1 ยูโร ต่อ 1 ดอลลาร์" เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี เรียบร้อยแล้ว

ค่าเงินยูโรของยุโรปนั้น เคยต่ำกว่าดอลลาร์สหรัฐก็ในช่วงประมาณ 3 ปีแรก หลังจากที่เปิดตัวเงินสกุลยูโรเป็นครั้งแรกในปี 1999 ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา ก็ไม่มีอีกเลยที่เงินยูโรจะถูกกว่าเงินดอลลาร์

ยิ่งในช่วงที่สหรัฐเกิดวิกฤตซับไพรม์ในปี 2008 นั้น เงินยูโรแพงกว่าเงินดอลลาร์ถึง 1.6 เท่าเลยทีเดียว หรืออยู่ที่ประมาณ 1.47 ยูโร/ดอลลาร์

 000_326n42n


ทำไมยูโรถึงดิ่งหนักถึงขั้น 1:1 เช่นนี้?

- ยุโรปเป็นฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนหนักที่สุด ในแง่ของวิกฤตพลังงาน เพราะมีการพึ่งพาพลังงานจากทั้ง 2 ประเทศนี้อย่างหนัก ดังนั้น แบงก์ชาติยุโรป หรือ ECB จึงเจองานยากกว่าใครในการต้องแก้ทั้งปัญหาเงินเฟ้อและพยุงเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงไปพร้อมกัน จึงไม่น่าแปลกใจที่เรายังไม่เห็น ECB ขึ้นดอกเบี้ยตามสหรัฐ

แต่เพราะไม่ขึ้นดอกเบี้ยตามนี่เองที่ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยหรือบอนด์ยีลด์ของสหรัฐและยุโรปห่างกันมาก ทำให้เงินไหลออกไปเก็งกำไรในฝั่งสหรัฐแทน ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและเงินยูโรอ่อนค่าลง



ทำไมค่าเงินอ่อนค่า(ในเวลานี้) จึงไม่ใช่ข่าวดี?

- ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติที่เศรษฐกิจทั่วโลกทำมาค้าขายกันคึกคัก ใครๆ ก็อยากให้ค่าเงินของตัวเองอ่อนค่า เพราะหมายถึงจะส่งออกสินค้าและบริการได้มากขึ้น

แต่ปัจจุบันเป็นช่วงไม่ปกติ เพราะราคาน้ำมันโลกแพงขึ้นมาก ดันอัตราเงินเฟ้อถีบตัวสูง ยิ่งค่าเงินอ่อนค่าลงก็หมายถึงจะต้องซื้อน้ำมันในราคาแพงขึ้น (ซื้อขายน้ำมันเป็นดอลลาร์) ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมภาวะเงินเฟ้อให้รุนแรงขึ้นอีก จากตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดเดือน มิ.ย. ในกลุ่มยูโรโซน (กลุ่มประเทศที่ใช้ค่าเงินยูโร) ที่พุ่งไปถึง 8.6% แล้ว



ค่าเงินยูโรจะลงไปต่ำกว่านี้จนหลุด 1 ดอลลาร์ หรือไม่?

- มีความเป็นไปได้ ตราบใดที่สงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังไม่จบลงง่ายๆ

แคสปาร์ เฮนซ์ ผู้จัดการพอร์ตอาวุโสจาก BlueBay Asset Management ให้มุมมองกับบลูมเบิร์กว่า มีความเป็นไปได้ที่ยูโรจะหลุด 1 ดอลลาร์ ลงไปแตะที่ 0.9 ยูโร/ดอลลาร์ หากรัสเซียตัดการส่งออกพลังงานกับยุโรปลงทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ยุโรปต้องเผชิญฤดูหนาวที่ยากลำบากและกระตุ้นความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย

ที่จริงแล้ว นักเก็งกำไรค่าเงินในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเริ่มเก็งกันที่เรต 0.95 ยูโร/ดอลลาร์ ตั้งแต่เริ่มเดือนกรกฎาคมนี้กันแล้ว ขณะที่ดอยชท์แบงก์คาดว่าจะลงไปอยู่ที่ประมาณ 0.95-0.97 ยูโร/ดอลลาร์ ซึ่งจะถือเป็นการอ่อนค่าลงหนักสุดระหว่างเงินยุโรปกับเงินสหรัฐ นับตั้งแต่การล่มสลายของระบบ bretton Wood ในปี 1971


ที่มา: บลูมเบิร์ก

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT