“ไนกี้” แบรนด์รองเท้าผ้าใบอันดับ 1 ของโลก กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ หลังจากยอดขายเติบโตเพียง 1% ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลว่า ผู้บริโภคทั่วโลกเริ่มระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น
จากรายงานของทาง เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล ระบุว่า แมตต์ เฟรนด์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของไนกี้ ยอมรับว่า บริษัทยังคงประสบปัญหา เนื่องจากการอัดโปรโมชันอย่างต่อเนื่องของค่ายรองเท้าคู่แข่ง รวมทั้งยอดเข้าชมดิจิทัลแพลตฟอร์มของแบรนด์ก็ลดลงด้วย
ไนกี้ ได้มีความพยายามกระตุ้นยอดขายในช่วงเทศกาล Black Friday หรือ Back to School ที่ผ่านมาที่ บริษัทยังคงประสบปัญหา เนื่องจากการอัดโปรโมชันอย่างต่อเนื่องของค่ายรองเท้าคู่แข่ง รวมทั้ง ยอดเข้าชมดิจิทัลแพลตฟอร์มของแบรนด์ก็ลดลงด้วย
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาหุ้นบริษัทได้มีการปรับตัวลดลงราว 11% ทำให้ ไนกี้ คาดการณ์รายได้ปีงบประมาณหน้าจะเติบโตจากปีก่อนเพียง 1% เท่านั้น จากสถานการ์นี้ ทำให้ไนกี้ได้เตรียมแผนปรับลดต้นทุนลงราว 2,000 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 69,200 ล้านบาท ภายใน 3 ปีข้างหน้า ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพองค์กรและปลดพนักงานบางส่วน
แนวทางการแก้ปัญหาของไนกี้ คือ เตรียมลดความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในเครือมากขึ้น โดยไม่ผลิตผลิตภัณฑ์ที่ไม่สร้างยอดขาย ขณะเดียวกันก็มุ่งหน้าสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ตรงจุดมากขึ้น
นอกจากนี้ เฟรนด์ ระบุว่า ในสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันกันดุเดือด ทำให้บริษัทยกระดับนวัตกรรมและประสบการณ์ในการซื้อสินค้าให้กับผู้บริโภค เพิ่ม “Storytelling” ให้สินค้า มีความรวดเร็ว และการตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค
มีแผนปรับโครงสร้างใหม่ คาดว่า ไนกี้จะนำเงินบางส่วนไปลงทุนกับการผลิตและจำหน่ายสินค้าสำหรับผู้หญิง รองเท้าวิ่ง และแบรนด์รองเท้า “จอร์แดน” และเพิ่มเทคโนโลยีในการผลิต นำระบบออโตเมชัน(Automation) มาใช้ในธุรกิจ
ดังนั้น การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งนี้จะช่วยให้ไนกี้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลประกอบการย้อนหลัง 4 ปีของ บริษัท Nike Inc จำกัด (มหาชน) หรือ NKE
สำหรับผลประกอบการปี 2566 นี้ ไนกี้ยังคงได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาสินค้า ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของห่วงโซ่อุปทาน และอัตราค่าขนส่งสินค้าทางทะเลที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของไนกี้มองว่า ยอดขายที่เติบโตเพียง 1% ในไตรมาส 4 ของปี 2566 นั้น ถือว่าน่าพึงพอใจแล้ว เมื่อเทียบกับสภาพเศรษฐกิจและบรรยากาศการใช้จ่ายของผู้คนในขณะนี้
ด้านเดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล วิเคราะห์ว่า ตอนนี้ไนกี้กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้นจากแบรนด์คู่แข่ง ทั้งยังมีความกังวลเกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมของสินค้าด้วยว่า ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ไนกี้จะสามารถตอบสนองความต้องการในส่วนนี้ให้กับลูกค้าได้หรือไม่
ที่มา เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล