Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
Hard หรือ Local Currency ลงทุนตราสารหนี้กลุ่มตลาดเกิดใหม่อย่างไรดี?
โดย : ภัทรนันท์ ธนียวัน ลิ้มอุดมพร

Hard หรือ Local Currency ลงทุนตราสารหนี้กลุ่มตลาดเกิดใหม่อย่างไรดี?

26 ก.ย. 68
00:00 น.
แชร์

ช่วงที่ผ่านมาผู้เขียนได้รับคำถามเข้ามาเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับเรื่องของการลงทุนในตราสารหนี้กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ แต่หนึ่งในคำถามที่นิยมมากจนต้องนำมาเขียนเพราะเป็นคำถามที่ดีคือ หากอยากลงทุนในตราสารหนี้กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets Bond) ควรลงทุนในรูปแบบสกุลเงินใดระหว่าง Hard Currency หรือสกุลเงินมั่นคง กับ Local Currency หรือสกุลเงินท้องถิ่น?

สิ่งที่ต้องเข้าใจก่อนเป็นอย่างแรกคือ Hard Currency และ Local Currency ครับ อย่างที่เคยกล่าวไปในตอนก่อนหน้า Hard Currency หรือสกุลเงินมั่นคง เป็นสกุลเงินที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกและมีสภาพคล่องที่สูง กรณีถือสินทรัพย์ในสกุลเงินเหล่านั้นจะสามารถเปลี่ยนมือได้ง่าย และค่าเงินมักไม่ผันผวนมาก สามารถคงมูลค่าได้ยาวนาน ตัวอย่างเช่น ดอลลาร์สหรัฐฯ (USD), สวิสฟรังก์ (CHF), ยูโร (EUR) หรือดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) เป็นต้น[1]

ส่วน Local Currency คือ สกุลเงินท้องถิ่นที่ใช้กันในประเทศ ตัวอย่างเช่น บาทไทย (THB), อินโดนีเซียรูปี (IDR) หรือหยวนจีน (RMB สำหรับตลาดในประเทศ, CNH สำหรับตลาดนอกประเทศ) เป็นต้น

ในการออกตราสารหนี้นั้น ผู้ออกไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือบริษัท สามารถเลือกได้ว่าจะออกในรูปสกุลไหน จะเป็นสกุลเงินท้องถิ่นหรือสกุลเงินมั่นคงก็ได้ แล้วแต่ว่าจะออกเพื่อระดมทุนในสกุลไหน อย่างไรก็ตาม หากออกในรูปสกุลต่างประเทศ กฎหมายที่มักจะบังคับใช้ก็จะเป็นกฎหมายของประเทศเจ้าของสกุลเงินนั้นๆ ขึ้นกับประเทศที่ไปออกด้วย เรียกกันอีกแบบว่า Foreign Currency Debt หรือ External Debt (EXD) นั่นเอง[2] ซึ่งก็มักจะออกในรูปแบบของสกุลเงินมั่นคง ส่วนการออกในสกุลเงินท้องถิ่นนั้นๆ ก็จะเรียกว่า Local Currency Debt หรือ Local/Domestic Debt (LDM)

สำหรับประเทศไทย กองทุนรวมตราสารหนี้กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่เหล่านี้ ในปัจจุบัน (รวมถึงต้นสังกัดของผู้เขียนอย่าง X-EMBOND) เป็นรูปแบบสกุล Hard Currency ทั้งหมด สาเหตุประการหนึ่งคือการลงทุนในตราสารหนี้ที่เป็น Local Currency มีความเสี่ยงสำคัญสองจุด คือ

  • สภาพคล่อง (Liquidity) ที่การซื้อขายตราสารหนี้ในสกุลท้องถิ่นนั้นมักมีสภาพคล่องที่น้อยกว่า สมมติว่าจะเอาพันธบัตรรัฐบาลไทยในรูปสกุลเงินบาทที่ถืออยู่ไปขายกับนักลงทุนต่างประเทศนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าเป็นตราสารหนี้ของรัฐบาลไทยที่ออกในรูปสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ การซื้อขายเปลี่ยนมือก็จะง่ายขึ้น
  • และจุดที่สองคือ ระเบียบและกฎหมาย เนื่องจากการใช้เงินสกุลท้องถิ่นมักจะเจอความเข้มงวดในเรื่องการแลกเปลี่ยน ยิ่งขนาดการลงทุนใหญ่ก็ยิ่งมีผลกับค่าเงินและความผันผวนของค่าเงิน ทำให้ในบางสถานการณ์อาจถูกจำกัดการแปลงเงินและเสี่ยงต่อการเอาเงินออกมาไม่ได้ ตัวอย่างเช่นในกรณีเกาหลีใต้เมื่อปี 1997 ที่จำกัดอัตราแลกเปลี่ยนไม่ให้เกินวันละ 5% เท่านั้น หากเกินกว่านั้นตลาดแลกเปลี่ยนจะปิดทำการทันที[3] การออกกฎหมายเหล่านี้กลายเป็นความเสี่ยงกับ Local Currency ซึ่งหากนักลงทุนที่เพิ่งจะลงทุนในตราสารหนี้เหล่านี้ อาจโชคร้ายเจอสถานการณ์เหล่านี้ได้ง่าย ๆ

หากพูดถึงในมิติอื่น การออกเป็น Hard หรือ Local Currency นั้นมีผลอยู่ไม่ใช่น้อย จากสถิติย้อนหลังของดัชนี J.P. Morgan EMBI Global Core Index (ดัชนียอดฮิตติดลมบนของสาย Hard Currency) และ J.P. Morgan GBI-EM Core Index (ดัชนียอดฮิตติดลมบนของสาย Local Currency) ที่ทาง บลจ. เอ็กซ์สปริงไปรวบรวมมา พบว่ามักจะวิ่งสวนทางกับดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (Dollar Index: DXY) โดยนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2021 ถึงวันที่ 23 กรกฎาคม 2025 ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (Correlation) รายเดือนของ Hard Currency เฉลี่ยอยู่ที่ -0.539 ส่วน Local Currency เฉลี่ยอยู่ที่ -0.779[4] บ่งบอกว่าจริง ๆ แล้วการที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวนั้นเป็นผลดีต่อสินทรัพย์ แต่จะเป็นผลดีกับ Local Currency มากกว่า Hard Currency ที่จะสวนทางน้อยกว่า

อย่างไรก็ตามการสรุปเช่นนี้อาจไม่ครอบคลุมไปทั้งหมด เนื่องจากการลงทุนนั้นจำเป็นต้องคำถึงนึงผลตอบแทนเทียบกับความเสี่ยง/ความผันผวน เพื่อให้เห็นภาพการลงทุนที่ครอบคลุมในทุกทิศทางด้วย

จากสถิติที่ บลจ. เอ็กซ์สปริง รวบรวมมา นับตั้งแต่ต้นปี 2014 โดยให้กลุ่มตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ที่เป็น Hard Currency โดยใช้ดัชนี Bloomberg Emerging Markets Hard Currency Aggregate Index, Local Currency Government Broad ใช้ดัชนี Bloomberg EM Local Currency Government Universal Index และ Local Currency Government Core ใช้ดัชนี Bloomberg EM Local Currency Government Index นั้น พบว่าผลตอบแทนเฉลี่ยของปี 2014-2024 นั้น กลุ่ม Hard Currency อยู่ที่ 3.09%, Local Currency (Broad) อยู่ที่ 2.31% และ Local Currency (Core) อยู่ 1.62% และเมื่อพิจารณาจากความเสี่ยงในช่วงเดียวกันแล้ว ปรากฏว่าความผันผวนของกลุ่ม Hard Currency อยู่ที่ 3.46%, Local Currency (Broad) อยู่ที่ 3.82% และ Local Currency (Core) อยู่ 5.11% 

หากพิจารณาจากข้อมูลที่ปรากฏก็สามารถตอบได้ว่า แม้ตราสารหนี้กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets Bond) กลุ่มสกุลเงินท้องถิ่นจะมีผลตอบแทนที่ดีในช่วงเวลาที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง และดีกว่าในบางปีบางช่วงเวลา แต่เมื่อพิจารณาในระยะยาวแล้ว จะพบว่ากลุ่ม Hard Currency ยืนระยะได้ดีกว่าบนความผันผวนที่น้อยกว่าด้วยเช่นกัน แต่หากนักลงทุนสามารถแบกรับความเสี่ยงหรือความผันผวนได้ กลุ่ม Local Currency ก็จะมีผลตอบแทนจากสถิติที่ดีกว่าด้วยเช่นกัน

ดังนั้นหากนักลงทุนจะพิจารณาเลือกว่าจะลงทุนใน Hard Currency หรือ Local Currency อาจต้องพิจารณาจากข้อมูลที่ได้นำเสนอและความเสี่ยงของท่านประกอบการลงทุนไปด้วยนะครับ ทั้งนี้ การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูล ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคตครับ

ข้อมูลอ้างอิง:

[1] https://corporatefinanceinstitute.com/resources/foreign-exchange/hard-currency/

[2] Bank of America, The Emerging Markets Debt Primer, 2025 Edition

[3] Bank of America, The Emerging Markets Debt Primer, 2025 Edition

[4] Bloomberg

ภัทรนันท์ ธนียวัน ลิ้มอุดมพร

ภัทรนันท์ ธนียวัน ลิ้มอุดมพร

ผู้จัดการอาวุโส นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม เอ็กซ์สปริง จำกัด

แชร์
Hard หรือ Local Currency ลงทุนตราสารหนี้กลุ่มตลาดเกิดใหม่อย่างไรดี?