Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เมื่อบริษัทเสนอให้ 'เกษียณก่อนกำหนด' เมื่อไหร่ควรรับ? เมื่อไหร่ควรรอ?
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

เมื่อบริษัทเสนอให้ 'เกษียณก่อนกำหนด' เมื่อไหร่ควรรับ? เมื่อไหร่ควรรอ?

21 ส.ค. 68
17:19 น.
แชร์

หลังยุคโควิด-19 ที่เศรษฐกิจผันผวนไม่แน่นอน โลกการทำงานเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน สิ่งที่เคยถูกมองว่าเป็น “มาตรการชั่วคราว” อย่างการปลดคน ลดต้นทุน หรือปรับโครงสร้างองค์กร กลายเป็นภาพที่เห็นได้บ่อยแทบทุกวงการธุรกิจ เมื่อรายได้หดตัว ขณะที่ต้นทุนยังพุ่งสูงขึ้น หลายบริษัทจึงต้องปรับตัวเพื่อเอาตัวรอด และหนึ่งในวิธีที่ถูกนำมาใช้มากขึ้นคือ แพ็กเกจ Early Retirement หรือการเกษียณก่อนกำหนด

แพ็กเกจลักษณะนี้มักถูกเสนอให้พนักงานที่อยู่กับองค์กรมายาวนาน เช่น ผู้บริหารอาวุโส หัวหน้าทีม หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เป้าหมายของบริษัทคือการลดภาระค่าใช้จ่าย แต่ยังรักษาภาพลักษณ์ว่าไม่ได้ “ทอดทิ้ง” บุคลากรที่เคยทุ่มเทให้บริษัท หากแต่ยื่นข้อเสนอที่ดูเหมือนเป็นทางเลือกอย่างสมัครใจ อย่างไรก็ตาม แม้ข้อเสนอเหล่านี้อาจดูใจกว้างและน่าสนใจในช่วงแรก แต่การตัดสินใจยอมรับหรือปฏิเสธกลับไม่ง่าย เพราะผลลัพธ์อาจกระทบต่อรายได้ สุขภาพ และคุณภาพชีวิตของพนักงานไปอีกยาวนาน

ดังนั้น คำถามสำคัญที่หลายคนต้องคิดให้รอบคอบก่อนยอมรับแพ็กเกจ Early Retirement คือ เมื่อข้อเสนอมาถึงตรงหน้า ควรรับไว้เลย หรือควรรอเวลาให้เหมาะกว่านี้? ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิดแน่นอน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับรายละเอียดในสัญญา ความพร้อมทางการเงินของคุณเอง และทิศทางชีวิตที่คุณอยากเดินต่อจากนี้

แพ็กเกจ Early Retire มีอะไรบ้าง? ทำไมต้องดูให้ละเอียด?

หัวใจสำคัญของแพ็กเกจ Early Retire คือ เงินชดเชย (Severance Package) ซึ่งมักคำนวณจากเงินเดือนและจำนวนปีที่ทำงาน เช่น ให้เงินชดเชยหนึ่งถึงสองสัปดาห์ต่อจำนวนปีที่ทำงาน หรือบางบริษัทอาจใจดีถึงขั้นให้เงินชดเชยเป็นเงินเดือนหนึ่งเดือนต่อจำนวนปีที่ทำงาน หากคุณทำงานมานาน เงินก้อนนี้อาจมากพอให้ใช้จ่ายได้หลายปี 

นอกจากนี้ บางบริษัทยังให้ตัวเลือกพนักงานสามารถเลือกรับเป็นก้อนใหญ่ครั้งเดียว เพื่อนำไปปิดหนี้ ลงทุน หรือใช้เป็นทุนเริ่มธุรกิจใหม่ หรือเลือกให้บริษัททยอยจ่ายเป็นงวด ๆ เพื่อลดภาระภาษี เพราะการรับเงินก้อนใหญ่ในปีเดียวอาจทำให้คุณถูกจัดเก็บภาษีในขั้นที่สูงขึ้น จนมูลค่าจริง ๆ ของข้อเสนอน้อยกว่าที่คิด

นอกจากเงินชดเชยแล้ว บริษัทอาจยังให้สิทธิประโยชน์เสริม เช่น การคืนวันลาพักร้อนหรือลาป่วยที่ยังเหลือ ซึ่งบางครั้งกลายเป็นเงินก้อนเพิ่มแบบไม่รู้ตัว บางที่อาจให้ สิทธิด้านประกันสุขภาพและทันตกรรม หรือให้คุณและครอบครัวยังคงอยู่ในแผนประกันต่อ โดยหากไม่มีสิทธินี้ คุณอาจต้องซื้อประกันเองจากตลาดกลางหรือใช้แผนของคู่สมรส ซึ่งเบี้ยอาจสูงมากจนทำให้เงินที่ได้จากแพ็กเกจ Early Retire ดูไม่คุ้มอีกต่อไป

บางบริษัทอาจเสนอ ประกันชีวิตต่อเนื่อง แต่ส่วนใหญ่ความคุ้มครองจะจำกัด เช่น คุ้มครองเท่ากับเงินเดือนเพียงหนึ่งปี หรือคุ้มครองต่อเพียงไม่กี่ปี หากคุณยังมีครอบครัวที่ต้องพึ่งพิง นอกจากนี้ ยังมีสิทธิพิเศษอื่น ๆ ที่บางแห่งเสนอเพิ่ม เช่น การเร่งสิทธิใช้หุ้นออปชัน (stock options) การมอบหุ้น (restricted stock) สิทธิด้านการศึกษาและอบรมเพื่อเปลี่ยนสายงาน บริการแนะแนวอาชีพ การจัดหางานใหม่ ไปจนถึงการให้คำปรึกษาด้านการเงินและการวางแผนเกษียณโดยผู้เชี่ยวชาญ

อย่างไรก็ตาม แพ็กเกจเหล่านี้มักมาพร้อม เงื่อนไขแฝง เช่น ข้อตกลงห้ามแข่งขัน (non-compete) ที่จำกัดไม่ให้คุณทำงานกับคู่แข่งช่วงเวลาหนึ่ง ข้อตกลงไม่เปิดเผยข้อมูล (NDA) หรือแม้แต่การสละสิทธิบำนาญบางส่วนที่ยังไม่ครบกำหนด หากไม่อ่านสัญญาให้ละเอียด สิ่งที่ดูเหมือน “สิทธิประโยชน์” อาจกลายเป็น “พันธะผูกมัด” ที่มีราคาสูงกว่าที่คิด

เมื่อไหร่ควรพิจารณารับข้อเสนอ?

การตัดสินใจรับ Early Retire ไม่ใช่เรื่องที่มีคำตอบตายตัว แต่ก็มีบางสถานการณ์ที่ข้อเสนอนี้อาจคุ้มค่าเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงที่บริษัทกำลังควบรวมกิจการ ปรับโครงสร้าง หรือมีแผนลดพนักงานครั้งใหญ่ เพราะถ้าคุณเลือกที่จะรอดูต่อไป หรือทู่ซี้อยู่ต่อในขณะที่บริษัทมีแนวโน้มที่จะไปต่อไม่ไหว คุณก็เสี่ยงที่จะถูกเลิกจ้างภายหลังโดยแทบไม่ได้สิทธิอะไรเลย เพราะการที่บริษัทเสนอ Early Retirement ให้คุณมักเป็นการบอกนัยๆ ว่าบริษัทไม่อยากให้คุณอยู่ต่อแล้ว และหากสถานการณ์ดำเนินไปถึงจุดที่บริษัทต้องเลย์ออฟ คุณก็อยู่ในกลุ่มแรกๆ ที่ต้องออกจากงาน

สิ่งสำคัญอีกอย่างคือความมั่นคงทางการเงินของตัวคุณเอง เพราะหากคุณมีเงินออมและการลงทุนมากพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันโดยไม่ต้องพึ่งพาเงินเดือน ข้อเสนอ Early Retire อาจเป็นเหมือนประตูที่เปิดสู่ชีวิตใหม่ 

หลายคนใช้โอกาสนี้ทำในสิ่งที่อยากทำมานาน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเป็นที่ปรึกษาอิสระ การสอน การเริ่มต้นธุรกิจเล็ก ๆ หรือแม้แต่การเดินทางไปท่องโลก ตัวอย่างเช่น ผู้บริหารวัย 60 ปีคนหนึ่งได้รับข้อเสนอเงินชดเชยหนึ่งปีพร้อมสิทธิประกันสุขภาพ ซึ่งเมื่อนำมาคำนวณแล้วมูลค่าแทบไม่ต่างจากการทำงานต่ออีกสองปีเต็ม เขาจึงตัดสินใจรับข้อเสนอ และออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างที่ตั้งใจ

ดังนั้น การวางแผนการเงินตลอดการทำงานเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะหากคุณบริหารการเงินดี มีเงินเก็บสูง และมีช่องทางกระจายความเสี่ยงอยู่แล้ว เช่น ประกันภัย แพ็กเกจ Early Retirement อาจจะเป็นเหมือนของขวัญที่เข้ามาให้คุณได้เริ่มชีวิตใหม่ได้เร็วกว่าเดิม

นอกจากนี้ บางคนยังอาจเลือกอีกเส้นทางหนึ่งที่เรียกว่า “double dip” คือการรับเงิน Early Retire แล้วออกไปหางานใหม่ต่อทันที ทำให้ได้ทั้งเงินก้อนและเงินเดือนจากงานใหม่พร้อมกัน กลยุทธ์นี้เหมาะกับผู้ที่ยังมีทักษะที่ตลาดต้องการ และอยากเร่งสะสมเงินเกษียณให้มากขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ

ข้อเสนอ Early Retire ยังจะยิ่งน่าสนใจ หากคุณอยู่ในวัยที่ใกล้กับสิทธิประโยชน์สำคัญบางอย่าง เช่น ช่วงอายุที่สามารถถอนเงินกองทุนเกษียณได้โดยไม่ถูกปรับ หรือช่วงอายุที่เริ่มขอรับ Social Security ได้ หากแพ็กเกจที่ได้รับสามารถช่วยพาคุณข้ามจุดเปลี่ยนเหล่านี้ไปได้ การตอบรับข้อเสนออาจเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุดในระยะยาว

เมื่อไหร่ควรรอหรือปฏิเสธไปก่อน?

ในทางกลับกัน ในบางกรณี การรับ Early Retire อาจไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสม โดยเฉพาะถ้าคุณยังไม่มั่นคงทางการเงิน ไม่มีเงินออมเพียงพอ หรือยังมีภาระหนี้สินสูง การออกจากงานก่อนเวลาอาจทำให้คุณต้องใช้เงินออมเร็วเกินไป และเสี่ยงที่จะหมดก่อนถึงวัยที่คุณจะได้รับสิทธิเต็มจากกองทุนบำนาญ

ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพก็เป็นอีกเรื่องใหญ่ หากข้อเสนอไม่ครอบคลุมประกันสุขภาพ คุณอาจต้องซื้อประกันเองในตลาดกลาง ซึ่งค่าเบี้ยสำหรับคนวัยหกสิบขึ้นไปสูงมากจนทำให้ข้อเสนอ Early Retire ไม่คุ้ม และแม้บริษัทจะเสนอสิทธิด้านสุขภาพให้ แต่คุณก็ควรตรวจสอบอย่างละเอียดด้วยว่าแผนที่บริษัทเสนอให้เป็นเพียงแผนชั่วคราวหรือครอบคลุมยาว และต้องดูด้วยว่าคุณสามารถรับภาระค่าเบี้ยส่วนที่เหลือได้จริงหรือไม่

อีกปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามคือเรื่องภาษี เพราะเงินก้อนใหญ่จากการชดเชยอาจดันคุณเข้าสู่ขั้นภาษีที่สูงขึ้น ทำให้ผลประโยชน์สุทธิลดลง การเจรจาให้บริษัททยอยจ่ายเป็นงวด ๆ อาจช่วยกระจายภาระภาษีและทำให้ข้อเสนอดูน่าสนใจกว่าเดิม

นอกจากนี้ แม้การปฏิเสธ Early Retire อาจทำให้คุณยังคงมีโอกาสเติบโตในบริษัท ไม่ว่าจะเป็นการได้เลื่อนตำแหน่ง การรักษาตำแหน่งเดิม หรือย้ายไปทำงานในหน่วยงานที่มั่นคงกว่า แต่ต้องยอมรับด้วยว่าก็มีความเสี่ยงเช่นกัน เพราะตำแหน่งของคุณอาจถูกยกเลิกในอนาคต และโดยทั่วไปบริษัทมักให้เวลาคิดเพียง 60-90 วันในการตัดสินใจ คุณจึงต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ภายใต้เวลาจำกัดและความไม่แน่นอนที่สูงมาก

Early Retire โอกาสทองหรือกับดักหลังเกษียณ?

จากข้อมูลทั้งหมด จะเห็นได้ว่าแพ็กเกจ Early Retire อาจเปรียบได้เสมือนดาบสองคม เพราะด้านหนึ่งมันอาจเป็นโอกาสทองที่เปิดทางให้คุณก้าวออกจากงานพร้อมเงินก้อนและสิทธิประโยชน์ครบมือ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ ไม่ว่าจะในฐานะที่ปรึกษา ผู้ประกอบการ หรือเพียงแค่ได้ใช้เวลาอย่างอิสระตามที่ใจต้องการ แต่อีกด้านหนึ่ง มันก็อาจกลายเป็นกับดัก หากคุณยังไม่พร้อมทั้งเรื่องการเงิน สุขภาพ หรือแผนชีวิตหลังจากนี้

เมื่อได้ข้อเสนอ Early Retire มา คุณจึงไม่ควรเร่งรีบตัดสินใจ โดยสิ่งที่คุณควรถามตัวเองคือ คุณมีเงินเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตยาวนานหลังเกษียณแล้วหรือไม้? คุณยังมีสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพต่อเนื่องหรือไม่? คุณเข้าใจผลกระทบทางภาษีชัดเจนแค่ไหน? และที่สำคัญที่สุด คุณมีภาพที่ชัดเจนสำหรับชีวิตหลังเกษียณงานแล้วหรือยัง?

ถ้าคุณถามตัวเองแล้วยังไม่ได้คำตอบชัดเจน การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน ภาษี และกฎหมายแรงงานคือสิ่งที่ควรทำก่อนตัดสินใจ เพราะแม้ Early Retirement อาจเป็นข้อเสนอที่ดีที่สุดที่บริษัทเคยยื่นให้คุณ แต่ถ้าประเมินผิดพลาด มันก็อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความกังวลและความไม่มั่นคงในชีวิตหลังเกษียณได้เช่นกัน


แชร์
เมื่อบริษัทเสนอให้ 'เกษียณก่อนกำหนด' เมื่อไหร่ควรรับ? เมื่อไหร่ควรรอ?