ผลการสำรวจความคิดเห็นนักท่องเที่ยวจีนเมื่อปีที่แล้ว พบว่า ชาวจีนต้องการเดินทางท่องเที่ยวยุโรป, ออสเตรเลีย, แคนาดา, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้มากที่สุด แต่ด้วยเพราะข้อจำกัดด้านเที่ยวบินทั้งปัญหาเรื่องวีซ่าและกฎระเบียบการเข้าเมืองท่หลายประเทศกำหนดขึ้นมาเจาะจงนักท่องเที่ยวจีน จึงทำให้บางจุดหมายปลายทางชาวจีนไม่ได้รับความสะดวกที่จะไปเยือน ดังนั้นจึงทำให้ชาวจีนเลือกเดินทางมาท่องเที่ยวในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีนปี 2566 ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อช่วงต้นเดือนนี้
ซีทริป (Ctrip) เว็บไซต์จองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมภาษาจีนในเครือทริปดอตคอม กรุ๊ป (Trip.com Group) ระบุว่า ชาวจีนจองเที่ยวบินไปยังพื้นที่นอกจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่มขึ้นถึง 640% จากช่วงวันหยุดตรุษจีนปีที่แล้ว โดยกรุงเทพ, สิงคโปร์, กัวลาลัมเปอร์, เชียงใหม่, มะนิลา และบาหลี เป็น 6 จุดหมายปลายทางแรก ขณะที่การจองโรงแรมในต่างประเทศของชาวจีนเพิ่มขึ้น 4 เท่าตัวจากปีที่ผ่านมา และกรุงเทพฯมาแรงที่สุด โดยอดจองโรงแรมในกรุงเทพช่วงตรุษจีนเพิ่มขึ้นกว่า 33 เท่าตัว
กรุงเทพฯ จุดหมายปลายทางอันดับ 1 สำหรับกรุ๊ปทัวร์จีน
โทมัส ลี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจระหว่างประเทศของทริปดอตคอม ยืนยันว่า ปัจจุบันไทยถือเป็นตัวเลือกอันดับแรกสำหรับกรุ๊ปทัวร์จีน โดยกรุ๊ปทัวร์แรกของซีทริปเดินทางออกจากจีนเมื่อวันที่ 7 ก.พ. มุ่งตรงมายังกรุงเทพและพัทยา ส่วนจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมรองลงมาคือมัลดีฟส์และอียิปต์
ทั้งนี้ทางการจีนอนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวกลับมาจัดกรุ๊ปทัวร์ได้อีกครั้งตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. ใน 20 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย, อินโดนีเซีย, กัมพูชา, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, สิงคโปร์ และลาว ตลอดจนถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, แอฟริกาใต้, ฮังการี, คิวบา และรัสเซีย ส่วนกรุ๊ปทัวร์ไปญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และเวียดนามนั้นยังไม่ได้รับอนุญาตจากทางการจีน
ทำไมประเทศไทยจึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจีน
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกูล บอกว่า เหตุผลหลักที่นักท่องเที่ยวจีนเลือกมาประเทศไทยเพราะเดินทางสะดวก
“สุดท้าย เราก็สามารถเปิดประเทศได้ โดยมีข้อจำกัดที่น้อยมาก “
“ประเทศไทยทำทุกวิถีทางเพื่อให้แน่ใจว่านักท่องเที่ยวชาวจีน และรวมถึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก จะสามารถเดินทางมายังประเทศไทยได้” รองนายกฯอนุทิน กล่าว
ท่ามกลางนโยบายของหลายประเทศที่เข้มงวดกับการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีน ตรงกันข้ามกับประเทศไทย ซึ่ง นายอนุทิน บอกว่่า นโยบายของไทยใช้หลักการตามวิทยาศาสตร์ ขณะนี้คนไทยมีภูมิคุ้มกันมากกว่า 75% แล้ว ทั้งจากการติดเชื้อโควิด 19 ตามธรรมชาติและการฉีดวัคซีน ซึ่งทำให้รัฐบาลไทยคาดหวังว่า ปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาประเทศไทยถึง 30 ล้านคน โดย12-15 ล้านคนอาจมาจากนักท่องเที่ยวจีน นั่นทำให้เห็นว่า “นักท่องเที่ยวจีนมีความสำคัญมากต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย”
อย่างไรก็ตามประเเทศไทยไม่ได้มีเพียงแค่นักท่องเที่ยวจีนเท่านั้น “รัสเซีย” ซึ่งเป็นกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวใหญ่อันดับ 7 ของไทยในปี 2562 ก็ไต่อันดับได้ดีขึ้นโดยในเดือนพฤศจิกายน 2565 นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเดินทางเที่ยวไทยมากเป็นอันดับ 3 รองลงมาจาก นักท่องเที่ยวมาเลเซีย และ อินเดีย โดย 1 ใน 4 ของนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวภูเก็ตเป็นชาวรัสเซีย
อะไรคือสิ่งที่นักท่องเที่ยวจีนกังวลมากที่สุด
Lee จาก Trip.com Group ระบุว่า “ปัจจุบันความกังวลสูงสุดสำหรับลูกค้าคือปัญหาเกี่ยวกับวีซ่า” ตั้งแต่เปิดประเทศ นักท่องเที่ยวชาวจีนถูกบปิดกั้นไม่ให้ขอวีซ่า เพื่อที่จะเดินทางไปยังประเทศต่าง โดยใให้เหตุผลเรื่องความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโควิด 19 ล่าสุดเกาหลีใต้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะกลับมาออกวีซ่าระยะสั้นให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนอีกครั้ง
ดังนั้นในหลายเส้นทาง ชาวจีนต้องเผชิญกับการรอวีซ่านานเนื่องจากมีความต้องการสูง เช่น การยื่นคำร้องขอวีซ่าเข้าสหภาพยุโรป ก่อนเกิดโรคระบาดจะได้รับการดำเนินการภายในเวลาไม่กี่วัน แต่ตอนนี้ผู้ยื่นคำร้องกำลังเผชิญกับการรอนานถึงสองเดือน และนอกจากเรื่องวีซ่าแล้ว นักท่องเที่ยวชาวจีนยังกังวลเรื่องสุขภาพอีกด้วย
“ราคา” ไม่ใช่ปัญหาของนักท่องเที่ยวจีน
หลังโควิดคลี่คลายความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางของแต่ละทริปเพิ่มขึ้น แต่ในรายงานของ Morgan Stanley ระบุว่า มีความต้องการโรงแรมหรูระดับไฮเอนด์ในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน นักท่องเที่ยวจำนวนมากคาดว่า ค่าใช้จ่ายในการเดินทางสูงสุดของพวกเค้า คือ ค่าโรงแรมที่พัก โดยเพิ่มขึ้นจาก 17% ในปี 2560 เป็น 20% ในปี 2566
ราคาจองโรงแรมเฉลี่ยในกรุงเทพฯ ช่วงปลายเดือนมกราคมพุ่งขึ้นราว 70% อ้างอิงจาก Ctrip ขณะที่ ความสนใจในโรงแรมหรูเพิ่มขึ้นจาก 18% เป็น 34% ในช่วงปี 2565-2566 ส่วนโรงแรมราคาประหยัดและโรงแรมระดับกลางมีความน่าสนใจลดลงทั่วโลก