หลังจากจีนประกาศเปิดพรมแดนให้นักท่องเที่ยวและประชาชนเดินทางเข้า-ออกประเทศได้ในวันที่ 8 มกราคมอย่างกะทันหันเมื่อปลายปี 2022 ที่ผ่านมา หลายๆ ประเทศทั่วโลกก็เกิดอาการ ‘แตกตื่น’ และเร่งออกมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวจากจีนกันด้วยความกังวลว่านักท่องเที่ยวจีนจะเข้ามาทำให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ภายในประเทศตัวเอง เพราะในตอนนี้หลังรัฐบาลเปิดให้ประชาชนเดินทางภายในประเทศ ยอดการระบาดภายในจีนก็พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์
ในโอกาสที่นักท่องเที่ยวจีนกำลังจะกลับเข้ามาประเทศไทยในรอบ 3 ปีนี้ ทีมข่าว Spotlight จึงอยากชวนทุกคนมาดูกันว่าเมื่อเทียบกับไทยแล้วนานาประเทศมีมาตรการอย่างไรบ้างเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดครั้งใหม่ภายในประเทศ
ชาติตะวันตกและเอเชียตะวันออกเร่งตั้งมาตรการป้องกัน อาเซียนอ้าแขนพร้อมต้อนรับ
เพื่อคัดกรองนักท่องเที่ยวที่จะเริ่มเดินทางเข้ามาในประเทศวันที่ 8 มกราคมนี้ หลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะประเทศในอเมริกาเหนือ และยุโรป ได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อใช้กับนักท่องเที่ยวจีนโดยเฉพาะ อย่างเช่น ขอให้ส่งผลตรวจ PT-PCR ที่เป็นลบ 48 ชั่วโมงหรือ 2 วันก่อนการเดินทาง ให้ส่งหลักฐานการฉีดวัคซีน หรือบางประเทศอาจเข้มหน่อยคือให้นักท่องเที่ยวจีนทุกคนเข้าตรวจโควิดเมื่อเดินทางมาถึง
โดยจากการรายงานของ Reuters ประเทศต่างๆ ตัดสินใจสร้างมาตรการขึ้นมาตั้งรับนักท่องเที่ยวจีนเพราะพวกเขา ‘ไม่ไว้วางใจ’ ความสามารถของรัฐบาลจีนในการควบคุมการระบาดของโควิดภายในประเทศ และมองว่าจีนไม่มีความโปร่งใส เพราะในขณะนี้จีนไม่เปิดเผยยอดผู้ติดเชื้อ หรือผู้เสียชีวิตรายวันจากโควิดให้นานาชาติรับรู้
อย่างไรก็ตาม บางประเทศ โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เช่นไทย เวียดนาม มาเลเซีย และเขมร เลือกที่จะไม่ตั้งมาตรการอะไรเป็นพิเศษ เพราะประเทศเหล่านี้ต้องพึ่งเม็ดเงินของนักท่องเที่ยวจีนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิด และกลัวว่าการตั้งมาตรการที่เป็นการเลือกปฏิบัติกับนักท่องเที่ยวจีนจะกระทบความสัมพันธ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ประเทศมีกับจีน
โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลจีนได้ออกมาประกาศเมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมาแล้วว่าจีนจะมี ‘มาตรการตอบโต้’ สำหรับทุกๆ ประเทศที่เลือกปฏิบัติกับนักท่องเที่ยวจีน พร้อมประนามว่ามาตรการกีดกันนักท่องเที่ยวจีนของบางประเทศ ‘มีจุดประสงค์ทางการเมือง’ ซึ่งเป็น ‘เรื่องที่ยอมรับไม่ได้’ และ ‘ไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์รองรับ’ บ่งบอกชัดเจนว่าจีนไม่พอใจและมีท่าทีแข็งกร้าวกับประเทศใดก็ตามที่ออกมาตรการมาคัดกรองนักท่องเที่ยวของประเทศตัวเอง
จากข้อมูลของ The Diplomat จีนเป็นแหล่งนัดท่องเที่ยวที่สำคัญมากต่อ 10 ประเทศอาเซียน โดยในปี 2019 ก่อนมีการระบาดของโควิด มีประชาชนจีนถึง 32 ล้านคนเดินทางเข้ามาในอาเซียน คิดเป็นเกือบ 25% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกในปีนั้น แต่ตัวเลขนี้ร่วงลงมาเหลือเพียง 4 ล้านคนในปี 2020 หลังทั้งประเทศปลายทางและต้นทางเริ่มได้ผลกระทบจากโควิด
จากการวิเคราะห์ของธนาคาร ING จากเนเธอร์แลนด์ ภาคส่วนของท่องเที่ยวของประเทศอาเซียนไม่มีทางฟื้นตัวขึ้นมาในระดับก่อนโควิดได้เลยหากไม่มีนักท่องเที่ยวจีน เพราะสำหรับบางประเทศ นักท่องเที่ยวจีนคิดเป็นถึง 1 ใน 3 หรือมากกว่านั้น ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางเข้าประเทศในแต่ละปี
ในส่วนของประเทศไทย ระหว่างปี 2015-2020 นักท่องเที่ยวจีนคิดเป็นถึง 52.96% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางเข้าประเทศ โดยในปี 2019 มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาถึง 11 ล้านคน
สำหรับปีนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า รัฐบาลคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยถึงประมาณ 3 แสนคนในไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม 2023) คิดเป็น 5% ของนักท่องเที่ยวทุกชาติรวมกัน โดยคาดว่ามกราคมจะเข้ามา 60,000 คน กุมภาพันธ์ 90,000 คน และมีนาคม 150,000 คน
มาตรการคัดกรองนักเที่ยวจีนของแต่ละประเทศ
จากข้อมูลของ Reuters, Al Jazeera และ The Diplomat แต่ละประเทศทั่วโลกได้ออกมาประกาศใช้มาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวจีนดังนี้
ไทย: ขอหลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดส ให้นักท่องเที่ยวซื้อประกันสุขภาพก่อนเดินทาง และตรวจสายพันธุ์ไวรัสในน้ำเสียจากเครื่องบินเพื่อเฝ้าระวัง
มาเลเซีย: ขอหลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดส ตรวจอุณหภูมินักเดินทาง และตรวจสายพันธุ์ไวรัสในน้ำเสียจากเครื่องบินเพื่อเฝ้าระวัง
อินโดนีเซีย: ขอหลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดส
เกาหลีใต้: ขอผลตรวจ PT-PCR ที่เป็นลบ 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ตรวจโควิดนักท่องเที่ยวจีนทุกคนภายในวันแรกที่มาถึง
ญี่ปุ่น: ขอผลตรวจ PT-PCR ที่เป็นลบ 48 ชั่วโมงก่อนเดินทางจากนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ บังคับให้ผู้ที่มาถึงแล้วพบว่าติดเชื้อกักตัว 7 วัน และจำกัดไม่ให้สายการบินเพิ่มเที่ยวบินจากจีน
ออสเตรเลีย: ขอผลตรวจ PT-PCR ที่เป็นลบ 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
อินเดีย: ขอผลตรวจ PT-PCR ที่เป็นลบ 48 ชั่วโมงก่อนเดินทางจากนักท่องเที่ยวจากจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไทย และบังคับให้นักท่องเที่ยวที่มาถึงกักตัวหากมีอาการหรือตรวจพบเชื้อ
กาตาร์: ขอผลตรวจ PT-PCR ที่เป็นลบ 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
สหรัฐอเมริกา: ขอผลตรวจ PT-PCR ที่เป็นลบ 48 ชั่วโมงก่อนเดินทางจากนักท่องเที่ยวจีน ฮ่องกง และมาเก๊าทุกคนที่อายุมากกว่า 2 ปี และให้ตรวจโควิดเมื่อมาถึง
แคนาดา: ขอผลตรวจ PT-PCR ที่เป็นลบ 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
สหราชอาณาจักร: ขอผลตรวจ PT-PCR ที่เป็นลบ 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
ฝรั่งเศส: ขอผลตรวจ PT-PCR ที่เป็นลบ 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง พร้อมสุ่มตรวจ PCR นักท่องเที่ยวจีนที่มาถึง
อิตาลี: ตรวจโควิดนักท่องเที่ยวจีนทุกคนที่เดินทางมาถึง
สเปน: ขอผลตรวจ PT-PCR ที่เป็นลบ 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง และหลักฐานการฉีดวัคซีนครบโดสหลังเดินทางมาถึง
โมร็อกโก: ไม่ให้นักท่องเที่ยวจีนเข้าประเทศอย่างเด็ดขาด เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม
ที่มา: Reuters, Al Jazeera, The Diplomat, สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข, Forbes