ข่าวเศรษฐกิจ

ปีใหม่นี้คนไทยใช้จ่ายมากสุดในรอบ 3 ปี103,039 ล้านบาทปิดฉากความเฉาโควิด

22 ธ.ค. 65
ปีใหม่นี้คนไทยใช้จ่ายมากสุดในรอบ 3 ปี103,039 ล้านบาทปิดฉากความเฉาโควิด
ไฮไลท์ Highlight
"ผลกระทบของการใช้จ่ายช่วงปีใหม่ เรื่องของระบบเศรษฐกิจเป็นเรื่องของคนที่มีหนี้ กับไม่มีหนี้ หนี้ตกอยู่กับคนที่มีรายได้น้อย ทั้งนี้เชื่อว่าปีนี้หนี้ครัวเรือนจะลดลงจาก 90% ของ GDP ลงมาเหลือ 86% ในสิ้นปี และเมื่อถ่วงกับเรื่องโควิด จะเห็นว่าไม่มีผลต่อการใช้จ่ายเลย ดังนั้น จึงฟันธงว่าคนจะมีการใช้จ่ายจำนวนชิ้นและมูลค่ามากขึ้น ปีใหม่ปีนี้น่าจะมีการจับจ่ายใช้สอยที่คึกคักทั่วไทย และเป็นการเคาต์ดาวน์ที่มีความสุข โดยระดับแสนล้านบาทในรอบ 3 ปี หมายความว่าโควิดปิดประเด็นไปเรียบร้อยแล้ว โควิดรอบนี้ปิดฉากสำหรับเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจไทยพร้อมทะยานขึ้น" นายธนวรรธน์ กล่าว

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจ "พฤติกรรมและการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 66" พบว่า แผนการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงปีใหม่ 66 อยู่ที่ 103,039 ล้านบาท นับเป็นมูลค่าการใช้จ่ายที่สูงสุดในรอบ 3 ปี ตั้งแต่ปี 63 ซึ่งถือเป็นการปิดฉากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

นอกจากนี้ พบว่า การใช้จ่ายในปีนี้ขยายตัว 20.1% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงสุดใน 17 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 50 ที่ ม.หอการค้าไทย เริ่มทำผลสำรวจ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากฐานต่ำหรือติดลบในปีที่แล้ว ขณะที่คาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ปี 66 จะอยู่ที่ 3.3%

เม็ดเงินสะพัดปีใหม่ 2566

จากคำถามของผลการสำรวจว่า ผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน 54.4% บอกว่า มีผลให้ใช้จ่ายเพิ่มขึ้น-เพิ่มขึ้นมาก  ส่วนการแพร่ระบาดของโควิดในปัจจุบัน 80.4% บอกว่าไม่มีผลเลย ส่วนเรื่องภาระหนี้สินในปัจจุบัน 55.6% บอกว่ามีผลต่อการใช้จ่ายลดลง และ 44.4% บอกว่าไม่มีผลเลย

"ผลกระทบของการใช้จ่ายช่วงปีใหม่ เรื่องของระบบเศรษฐกิจเป็นเรื่องของคนที่มีหนี้ กับไม่มีหนี้ หนี้ตกอยู่กับคนที่มีรายได้น้อย ทั้งนี้เชื่อว่าปีนี้หนี้ครัวเรือนจะลดลงจาก 90% ของ GDP ลงมาเหลือ 86% ในสิ้นปี และเมื่อถ่วงกับเรื่องโควิด จะเห็นว่าไม่มีผลต่อการใช้จ่ายเลย ดังนั้น จึงฟันธงว่าคนจะมีการใช้จ่ายจำนวนชิ้นและมูลค่ามากขึ้น ปีใหม่ปีนี้น่าจะมีการจับจ่ายใช้สอยที่คึกคักทั่วไทย และเป็นการเคาต์ดาวน์ที่มีความสุข โดยระดับแสนล้านบาทในรอบ 3 ปี หมายความว่าโควิดปิดประเด็นไปเรียบร้อยแล้ว โควิดรอบนี้ปิดฉากสำหรับเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจไทยพร้อมทะยานขึ้น" นายธนวรรธน์ กล่าว

สรุปแผนการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงปีใหม่ 2566 อยู่ที่ 103,039 ล้านบาท แบ่งเป็น

1. ไปเที่ยว ได้แก่ ในประเทศ 57,491 ล้านบาท และต่างประเทศ 2,945 ล้านบาท
2. กิจกรรมอื่นๆ ได้แก่ เลี้ยงสังสรรค์ 11,732 ล้านบาท, ทำบุญ 8,266 ล้านบาท, อุปโภคบริโภค 18,943 ล้านบาท, สินค้าคงทน 2,096 ล้านบาท และสินค้าฟุ่มเฟือย 1,562 ล้านบาท

เมื่อสอบถามถึงบรรยากาศในช่วงเทศกาลปีใหม่ปีนี้ จะเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว พบว่า 48.3% ตอบว่าจะคึกคักมากกว่าปีที่แล้ว และ 42.5% ตอบว่าจะคึกคักพอๆ กับปีที่แล้ว

สำหรับสิ่งที่ต้องการได้เป็นของขวัญจากรัฐบาลมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ

  1. การปฏิรูปภาครัฐ ปราบปรามการทุจริต รัฐบาลควรมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ 37.6%
  2. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจการใช้จ่ายเงินภายในประเทศ อาทิ คนละครึ่ง 26.7% และ
  3. ลดภาระค่าครองชีพของประชาชน อาทิ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมัน 12.9%

ปัจจัยที่น่าเป็นห่วงในปี 2566 มากที่สุด 5 อันดับแรก คือ

1.ยาเสพติด
2.เศรษฐกิจ
3.ค่าครองชีพ
4.การตกงาน
5.หนี้สินในปัจจุบัน

ทั้งนี้ เมื่อให้ประเมินผลการแก้ไขปัญหาด้านต่างๆ ของรัฐบาลในรอบปีที่ผ่านมา 3 อันดับแรกที่ได้คะแนนสูงสุด (เต็ม 10 คะแนน) คือ เรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ 7.9 คะแนน รองลงมาคือการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม 6 คะแนน และแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ 5.9 คะแนน

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า มาตรการของภาครัฐ จะช่วยพยุงเศรษฐกิจในไตรมาส 1/66 โดยเชื่อว่าโครงการช้อปดีมีคืน จะมีการใช้จ่ายประมาณ 4-8 หมื่นล้านบาท และรวมกับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินที่เข้ามาเพิ่มจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวอีกราว 1-2 หมื่นล้านบาท ซึ่งรวมแล้วทั้ง 2 โครงการ จะอยู่ที่ราว 1 แสนล้านบาท ก็จะมีส่วนช่วยผลักดัน GDP ให้เพิ่มขึ้นจากฐานเดิมได้อีก 0.7-1.0% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 66

 

 

advertisement

SPOTLIGHT