ข่าวเศรษฐกิจ

ชมภาพภารกิจ มาครง ปธน.ฝรั่งเศส ชื่มชม Soft Power ของไทย

18 พ.ย. 65
ชมภาพภารกิจ มาครง ปธน.ฝรั่งเศส  ชื่มชม Soft Power ของไทย

ภายหลังจากที่นายเอมานูว์แอล มาครง (Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส และคณะจำนวน ๑๒๐ คน (รวมผู้สื่อข่าว) เดินทางเยือนไทยระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2565 เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ในฐานะแขกของประธาน ตามคำเชิญของฝ่ายไทย ได้มีการเผยแพร่ภาพภารกิจของผู้นำฝรั่งเศสที่เดินทางไปเยี่ยมชมทำกิจกรรมหลายแห่งในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร

เอมานูว์แอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส

เอมานูว์แอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส

โดยภารกิจเมื่อวานนอกจากผู้นำฝรั่งเศสจะหารือกับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแล้ว ยังมีการพบปะกับภาคเอกชนไทย อย่างคุณธนินทร์ เจียรวนนท์ ท่านประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ และผู้บริหารในเครือ

เอมานูว์แอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส

รวมไปถึงการชมมวยไทยที่สนามมวยราชดำเนิน มีนักมวยชื่อดังหลายคนไปให้การต้อนรับ และผู้นำฝรั่งเศสได้ดูสาธิตแม่ไม้มวยไทยอีกด้วย และพบกับผู้ว่า กทม.ชัชชาติ สิทธิพันธ์   นอกจากนี้ผู้นำฝรั่งเศส ยังเดินไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน อีกด้วย

เอมานูว์แอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส

เอมานูว์แอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส

เอมานูว์แอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส

สำหรับกิจกรรมของผู้นำและคู่สมรสที่มาร่วมประชุม APEC 2022 ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพได้สอดแทรกความเป็นไทยเอาไว้ในทุกกิจกรรมเพื่อให้ผู้เข้าร่วมการประชุมได้สัมผัสกับประสบการณ์ความเป็นไทย ทั้งอาหาร สถานที่ การแสดง การอำนวยความสะดวกและการให้บริการต่างๆ ถือว่า เป็นโอกาสดีตลอดสัปดาห์นี้ที่ Soft Power ของไทยจะถูกเผยแพร่ผ่านการประชุม APEC  2022 และทุกฝ่ายคาดหวังว่าจะทำให้ชาวโลกได้เห็นคุณค่าในมิติต่างๆของความเป็นไทย

เอมานูว์แอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส

เอมานูว์แอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส

ส่วนผลการ หารือทวิภาคีกับรัฐบาลไทย ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ชื่นชมความร่วมมือระหว่างไทยกับฝรั่งเศสที่มีความคืบหน้าในหลาย ๆ ด้าน แม้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะความร่วมมือด้านอวกาศ ในการพัฒนาดาวเทียมธีออส 2  และได้มีการหารือในการทำความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางราชการไทย - ฝรั่งเศส  โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศสพร้อมเร่งรัดการดำเนินการคาดว่าภายในเดือนมกราคม 2566 จะมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม

ส่วนในด้านเศรษฐกิจการค้าการลงทุน ทั้งสองฝ่ายจะสนับสนุนการส่งออกสินค้าสิ่งแวดล้อมและการลงทุนในธุรกิจสีเขียว เช่นการลดภาษีนำเข้า นอกจากนี้ฝรั่งเศสพร้อมมีความร่วมมือกับไทยในด้านการผลิตและพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และเกษตรกรรม ตลอดจนพร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการพัฒนา EEC

นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือในด้านความมั่นคงเพิ่มขึ้นในอนาคต เช่นเดียวกับในด้านการศึกษาที่ฝรั่งเศสมีพร้อมสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนนักศึกษา นักวิชาการ และนักวิจัยระหว่างกันมากขึ้น คาดว่าปีหน้าทั้งสองฝ่ายจะสามารถลงนามในความตกลงด้านการศึกษาระหว่างกันได้อีกด้วย  

  

advertisement

SPOTLIGHT