จากการประชุมคณะกรรมการเตรียมการเปิดให้บริการและการบริหารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ครั้งที่ 2/2565 ในวันที่ 3 พฤศิกายน 2565 ซึ่งมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมนั้น ความคืบหน้าล่าสุด ‘คณะอนุกรรมการด้านราคาค่าโดยสารและบัตรโดยสาร’ ได้รายงานผลการดำเนินงานพิจารณารูปแบบการคิดคำนวณค่าโดยสาร โดยเปรียบเทียบกับวิธีการของรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง และการใช้บัตรโดยสารร่วม
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง - ชมพู ตั๋วราคาเท่าไหร่?
คณะอนุกรรมการฯ เผยว่า อัตราค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองนั้น เมื่อเปิดให้บริการแบบเก็บค่าโดยสารต้องพิจารณาจากดัชนีผู้บริโภค (CPI) กรณีใช้ CPI ล่าสุด หรือ ก.ย. 2565 (หากเปิดเดินรถใน ธ.ค. 2565) โดยเปรียบเทียบกับวิธีการของรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง อัตราค่าโดยสารจะอยู่ที่ 15-45 บาท เพิ่มขึ้นจากการคำนวณเบื้องต้นจากข้อมูลปี 2559 ที่ 14-42 บาท
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีชมพู เมื่อเปิดให้บริการแบบเก็บค่าโดยสารต้องพิจารณาจากดัชนีผู้บริโภค (CPI) กรณีใช้ CPI เม.ย. 2566 (หากเปิดเดินรถใน ก.ค. 2566) โดยเปรียบเทียบกับวิธีการของรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง อัตราค่าโดยสารจะอยู่ที่ 15-45 บาท เพิ่มขึ้นจากการคำนวณเบื้องต้นจากข้อมูลปี 2559 ที่ 14-42 บาทเช่นเดียวกัน
แต่ทั้งนี้ การคิดอัตราค่าโดยสารจะต้องมีการคำนวณใหม่อีกครั้งก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบประมาณ 30 วัน เบื้องต้นอาจจะมีการคำนวนอัตราค่าโดยสารใหม่ประมาณช่วง เดือนมี.ค.-เม.ย.2566 เพื่อให้สอดคล้องกับดัชนีผู้บริโภคตามความจริงในช่วงเวลานั้นก่อนจะเคาะราคาค่าโดยสารทั้งสองเส้นทางอย่างเป็นทางการ
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง - ชมพู ใช้บัตรแบบไหนบ้าง?
ด้านบัตรโดยสาร แบ่งออกเป็น 3 ประเทศด้วยกัน คือ 1. บัตรโดยสารเที่ยวเดียว (Single Journey Card), 2. บัตร EMV Contactless และ บัตรแรบบิท, 3. บัตรโดยสารในการเดินทางร่วม
- บัตรโดยสารเที่ยวเดียว (Single Journey Card) คิดอัตราค่าโดยสารตามระยะทาง ออกบัตรที่เครื่องจำหน่ายบัตรโดยสารอัตโนมัติ และที่ห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร รองรับการออกบัตรโดยสารเที่ยวเดียวสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งออกบัตรที่ห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร
ทั้งนี้ บัตรโดยสารเที่ยวเดียวสามารถใช้เดินทางได้ภายในวันเดียวกับวันที่ออกบัตร และสามารถใช้เดินทางเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าสายสีชมพู สีเหลือง และสีเขียว สำหรับผู้ที่ได้รับการยกเว้นค่าโดยสาร ได้แก่ ผู้พิการ (แสดงบัตรผู้พิการที่ออกโดยหน่วยงานราชการ), เด็กเล็ก (อายุไม่เกิน 14 ปี สูงไม่เกิน 90 เซนติเมตร) โดยสามารถขอรับบัตรเดินกางที่ห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร
- บัตร EMV Contactless ซึ่งในขณะนี้ อยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบ และพัฒนาระบบ Software ให้รองรับมาตรฐานบัตร EMV คาดว่าจะใช้บริการได้ในช่วงต้นปี 2566 และมีแผนติดตั้งระบบที่รองรับบัตรแรบบิทด้วย
- บัตรโดยสารในการเดินทางร่วม ซึ่งในอนาคตจะสามารถใช้ร่วมกับรถไฟสายสีแดง โดยสามารถใช้ร่วมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีม่วงได้โดยเสียค่าแรกเข้าแค่ครั้งเดียวเพราะเป็นระบบเดียวกัน (หากเป็นรถไฟฟ้า BTS ต้องเสียค่าแรกเข้าใหม่ เพราะเป็นคนละระบบกัน) รวมถึงอาจจัดให้มีบัตรโดยสารรายเดือนจำหน่ายในอนาคต
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง - ชมพู เปิดเมื่อไหร่?
นอกจากนี้ ในที่ประชุมเมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา ยังมีการหารือแนวทางการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพูกับระบบขนส่งอื่น เช่น การก่อสร้าง Skywalk เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีหัวหมาก กับสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ สถานีหัวหมาก ตลอดจนได้หารือแนวทางการปรับเส้นทางรถโดยสารประจำทาง เพื่อรองรับการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู
โดยปรับเพิ่มรถโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเหลือง จาก 59 เส้นทาง เป็น 81 เส้นทาง และสายสีชมพูจาก 50 เส้นทาง เป็น 82 เส้นทาง เพื่ออำนวยความสะดวกการเชื่อมต่อการเดินทางให้แก่ประชาชน
ส่องเส้นทางวิ่ง รถไฟฟ้าสายสีเหลือง - ชมพู ได้ที่นี่
รถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู มีแผนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2566 โดยในเดือนธ.ค. ที่จะถึงนี้ มีแผนจะเปิดให้ประชาชนบางกลุ่มทดลองนั่งแบบลงทะเบียนใช้บริการล่วงหน้า และทดลองใช้แบบไม่เก็บค่าโดยสาร จากนั้นจะเปิดเดินรถบางส่วน (Partial) แบบเก็บค่าโดยสารในปีหน้า