ข่าวเศรษฐกิจ

สั่งการ 'นิคมอุตสาหกรรม' 67 แห่งทั่วประเทศรับมือน้ำท่วม

12 ก.ย. 65
สั่งการ 'นิคมอุตสาหกรรม' 67 แห่งทั่วประเทศรับมือน้ำท่วม

สั่งการ 'นิคมอุตสาหกรรม' รับมือน้ำท่วมนครหลวง บางปะอิน บางหว้า บางปูด้าน GISTDA ชี้พื้นที่เกษตรเจ๊งกว่า 9 หมื่นไร่

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สั่งการให้นิคมอุตสาหกรรม 67 แห่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน ทั้งนิคมอุตสาหกรรมนครหลวง บางปะอิน และ บางหว้า ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งนิคมอุตสาหกรรมบางปู ในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมีพื้นที่ใกล้ทะเล อาจเกิดน้ำทะเลหนุน ให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เตรียมพร้อมรับมือหากเกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลันขึ้น

นิคมอุตสาหกรรมใด ที่มีการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมไว้ล่วงหน้า ต้องติดตามการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนพระราม 6 อย่างใกล้ชิด 

รวมทั้งให้เร่งพร่องน้ำในพื้นที่อุตสาหกรรมให้อยู่ในระดับต่ำที่สุด เพื่อกันไว้เป็นพื้นที่แก้มลิงรองรับน้ำ ตรวจสอบเครื่องสูบน้ำ เครื่องปั่นไฟ ให้พร้อมใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ยังให้มีการซ้อมแผนรับมือน้ำท่วมเป็นประจำ ตามมาตรการของกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ในชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการ และ นักลงทุน ว่า ทุกนิคมอุตสาหกรรมจะรับมือกับปัญหาน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ส่งผลกระทบหนักเหมือนในอดีต

ด้านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการทุกเหล่าทัพติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้การสนับสนุนกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล กำจัดผักตบชวาที่ขวางทางน้ำ คูคลองและประตูระบายน้ำ จัดกำลังพลไปดูแลศาสนสถาน และโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบ

นอกจากนี้ ยังพร้อมแบ่งมอบพื้นที่จัดยานพาหนะเข้าเสริมรถสาธารณะ อำนวยความสะดวกกระจายไปรับส่งประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม

นิคมอุตสาหกรรม

ทางด้าน GISTDA รายงานภาพถ่ายดาวเทียมSentinel-1 ของวันที่ 10 กันยายน 2565 ซึ่งบ่งชี้ว่า มีน้ำท่วมขังแล้วกว่า 5 แสนไร่ในหลายจังหวัดแถบ 6 ลุ่มน้ำ และมีพื้นที่เกษตรได้รับความเสียหายกว่า 9 หมื่นไร่

ในเชิงรายละเอียดนั้น พบพื้นที่น้ำท่วมขังแล้วจำนวน 573,855 ไร่ ในหลายพื้นที่ของลุ่มน้ำยม ลุ่มน้ำน่าน ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำป่าสัก ลุ่มน้ำท่าจีน ลุ่มน้ำบางประกง ได้แก่ นครสวรรค์ 114,110 ไร่  พิจิตร 110,286 ไร่ สุโขทัย 105,044 ไร่ พิษณุโลก 66,486 ไร่ พระนครศรีอยุธยา 48,015 ไร่ ปราจีนบุรี 29,434 ไร่ อ่างทอง 14,204 ไร่

เพชรบูรณ์  12,946 ไร่ สุพรรณบุรี 10,716 ไร่ อุทัยธานี 10,645 ไร่ ชลบุรี 8,860 ไร่ ฉะเชิงเทรา 8,704 ไร่ สระบุรี 6,772 ไร่ ชัยนาท 6,746 ไร่ ลพบุรี 5,998 ไร่ กาญจนบุรี 5,643 ไร่ อุตรดิตถ์  5,410 ไร่ นครปฐม  1,478 ไร่ นครนายก 1,355 ไร่ ขอนแก่น 739 ไร่ นครราชสีมา  263 ไร่ ในขณะที่พื้นที่นาข้าวได้รับผลกระทบแล้วทั้งสิ้น 93,396 ไร่ 

ส่วนลุ่มน้ำชี และลุ่มน้ำมูล ยังท่วมขังกว่า 2 แสนไร่ โดยข้อมูลจากดาวเทียม Cosmo-SkyMed-1 พบพื้นที่น้ำท่วมขัง 222,458  ไร่ บริเวณบางส่วนของจังหวัด #กาฬสินธุ์  12,463 ไร่ #บุรีรัมย์  3,985 ไร่ #มหาสารคาม  19,530 ไร่ #ยโสธร  25,521 ไร่ #ร้อยเอ็ด  73,021 ไร่#ศรีสะเกษ  28,226 ไร่ #สุรินทร์  46,933 ไร่ #อำนาจเจริญ  400 ไร่ #อุดรธานี  101 ไร่ และ #อุบลราชธานี  12,278 ไร่ โดยพื้นที่นาข้าวได้รับผลกระทบแล้วทั้งสิ้น 131,227 ไร่

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมขังในช่วงนี้ GISTDA ได้วางแผนและปรับแผนรับสัญญาณดาวเทียม เพื่อวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง

 

advertisement

SPOTLIGHT