ข่าวเศรษฐกิจ

รู้จัก "ยุนซอกยอล" ปธน..ใหม่เกาหลีใต้ผู้ผลักดันคริปโทฯ

14 มี.ค. 65
รู้จัก "ยุนซอกยอล" ปธน..ใหม่เกาหลีใต้ผู้ผลักดันคริปโทฯ
ไฮไลท์ Highlight
"การจะตระหนักได้ถึงศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น เราจะต้องยกเครื่องการกำกับดูแล ที่เรียกว่าห่างไกลจากความเป็นจริงและความมีเหตุมีผลเสียก่อน" ยุน กล่าวในงานสัมมนาเวอร์ชวลแห่งหนึ่ง เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา

ทำความรู้จักกับ "ยุนซอกยอล" ปธน.คนใหม่ของเกาหลีใต้ กับนโยบายคริปโทเคอร์เรนซีของเขา

 

ศึกเลือกตั้งล่าสุดทำให้รัฐบาลเกาหลีใต้เปลี่ยนขั้ว หลังจากได้ประธานาธิบดีคนใหม่ที่เป็นฝั่งอนุรักษ์นิยมขวาจัด ซัดจีนและเกาหลีเหนืออย่างเปิดเผย แถมยังเป็นแอนตี้เฟมินิสม์ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้ก็คือ แม้จะเป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยม แต่เขากลับเป็นคนที่สนับสนุน "คริปโทเคอร์เรนซี" อย่างเปิดเผย และทำให้สื่อท้องถิ่นมองว่า อาจทำให้ตลาดคริปโทฯ เกาหลีใต้บูมขึ้นอีกหลังจากนี้

ในการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา ผู้สมัครทั้งสองพรรคต่างออก NFT มาแข่งกันดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ แต่ "ยุนซอกยอล" (Yoon Suk-yeol) อดีตอัยการซึ่งเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยังมีนโยบายหาเสียงอีกหลายข้อที่ทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นพวก โปรคริปโทฯ ซึ่งหลักๆ ก็คือ การ ผ่อนคลายกฎระเบียบที่เข้มงวด"

"การจะตระหนักได้ถึงศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น เราจะต้องยกเครื่องการกำกับดูแล ที่เรียกว่าห่างไกลจากความเป็นจริงและความมีเหตุมีผลเสียก่อน" ยุน กล่าวในงานสัมมนาเวอร์ชวลแห่งหนึ่ง เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา

ยุนประกาศว่าจะผ่อนคลายกฎระเบียบที่กำกับดูแลอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล (Deregulation) เพื่อส่งเสริมให้วงการนี้เติบโตขึ้น และจะไฟเขียวให้เกาหลีใต้มีการระดมทุนออกโทเคนดิจิทัลได้ ขณะเดียวกัน ก็จะออกกฎหมายพื้นฐานด้านสินทรัพย์ดิจิทัล มาดูแลเรื่องการใช้คริปโทฯ ที่ ผิดกฎหมายด้วย

ที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือ การสัญญาว่าจะดูแลเรื่อง "ภาษีคริปโทฯ" ให้เป็นธรรมขึ้น


เมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลประธานาธิบดี มุนแจอิน ได้ประกาศแผนที่จะเก็บภาษีคริปโทฯ สำหรับผู้ที่มีรายได้จากคริปโทฯ มากกว่า 2.5 ล้านวอนต่อปี (ประมาณ 72,000 บาท) โดยจะเริ่มตั้งแต่ปีภาษี 2022 เป็นต้นไป แต่ก็ถูกต่อต้านอย่างหนักว่า เป็นการรีดภาษีที่โหดเกินไปและไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะหากเทียบกับกฎหมายในตลาดหุ้น ที่ตั้งเพดานให้นักลงทุนต้องเสียภาษีเมื่อทำกำไรได้ 50 ล้านวอน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่างกันมาก ที่สุดแล้ว รัฐบาลจึงเลื่อนออกไปเป็นปีภาษี 2023


แต่นักวิเคราะห์จับตากันว่า ชัยชนะของยุน อาจกระทบกับเรื่องภาษีคริปโทฯ ด้วย เพราะเจ้าตัวเคยหาเสียงเอาไว้เช่นกันว่า จะเปลี่ยนแปลงมาตรฐานไม่ให้เหลื่อมล้ำกับตลาดหุ้นมากเกินไป

เจ้าหน้าที่บริษัทเอ็กซ์เชนจ์รายหนึ่งให้มุมมองกับหนังสือพิมพ์โคเรียไทม์ส ว่า คาดว่ารัฐบาลใหม่ของยุนจะช่วยส่งเสริมบรรยากาศโดยเปิดทางให้บริษัทสามารถเข้ามาลงทุนในคริปโทฯ ได้ จากปัจจุบันที่ยังทำไม่ได้ ซึ่งหากไฟเขียวให้นักลงทุนสถาบัน ก็จะช่วยให้มีทุนไหลเข้าในตลาดนี้ได้อีกมาก ไม่ใช่แค่จากนักลงทุนรายย่อยเท่านั้น

ส่วนกรณีการไฟเขียว ICO ที่หลายคนรอคอยนั้น ยุนเคยหาเสียงว่าเห็นด้วยกับการระดมทุนออกโทเคนดิจิทัล แต่ควรเป็นรูปแบบของ Initial Exchange Offering หรือ IEO ที่ให้ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือเอ็กซ์เชนจ์ เป็นตัวกลางดูแลการจัดระดมทุนทั้งหมดให้แก่บริษัท หรือโปรเจกต์นั้นๆ มากกว่า เพราะมองว่ามีความปลอดภัยกว่า

แม้ว่าอาจต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าที่ตลาดซื้อขายคริปโทฯ จะได้รับการยอมรับในระดับสถาบัน แต่เพียงแค่ "วิสัยทัศน์" ของผู้นำ ก็ทำให้อุตสาหกรรมมีความหวังมากขึ้นแล้ว

advertisement

SPOTLIGHT