แหล่งข่าวระดับสูงจากอุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซี กล่าวกับทีมงาน "SPOTLIGHT" ว่า ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ได้ตั้งคณะทำงานภายในขึ้นมาเพื่อศึกษาในเรื่องการกำหนดเกณฑ์ให้มีระดับราคาเสนอซื้อและเสนอขายของหลักทรัพย์ในแต่ละวันสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นสูงสุด (Ceiling) หรือลดลงต่ำสุด (Floor) ของเหรียญคริปโตเคอเรนซีในตลาดศูนย์กลางซื้อขายศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ที่ ก.ล.ต. เป็นผู้ให้ใบอนุญาตและกำกับดูแล คล้ายกับที่ใช้กับตลาดหุ้นไทย
เนื่องจากภาวะการซื้อปัจจุบันขณะนี้พบการเก็งกำไร รวมถึงการปั่นราคาของเหรียญคริปโตเคอเรนซีจำนวนมากทำให้ราคามีความผันผวนสูง ส่งผลให้มีนักลงทุนได้รับความเสียหาย
"ตอนนี้มีคณะทำงาน ก.ล.ต. คงกำลังศึกษาเรื่องการออกเกณฑ์ Ceiling กับ Floor ว่าจะทำหรือไม่ทำ เนื่องจากเหรียญในตลาดคริปโตเคอเรนซีที่ราคามีการเคลื่อนไหวตามราคาของทั่วโลกที่ซื้อขายเพราะเป็นเหรียญคริปโตเคอเรนซีเคอเรนซีเหรียญเดียวกันซึ่งเมื่อราคาโลกผันผวนราคาในไทยก็ผันผัวนตามไปด้วยซึ่งไม่ได้เหมือนหุ้นไทยที่กำหนด Ceiling กับ Floor ไว้ไม่ให้ขึ้นหรือลงเกิน 30% ในแต่ละวัน เพื่อให้นักลงทุนได้มีเวลาโอกาสคิดหากราคาหุ้นหวือหวาเกินไป ดังนั้นคงต้องพิจาณาข้อดีข้อเสียให้รอบครอบว่าการใช้ Ceiling กับ Floor กับตลาดคริปโตเคอเรนซีของไทยจะเป็นการลดความผันผวนของราคาคริปโตเคอเรนซีได้รึเปล่าและเป็นการคุ้มครองผู้ลงทุนได้จริงหรือไม่" แหล่งข่าว กล่าว