Logo site Amarintv 34HD
อมรินทร์ทีวีแจกใหญ่ส่งท้ายปี ดูทั้งวันแจกทุกวันLogo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
4 เรื่องที่ OECD แนะไทยปฏิรูป เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย ‘ประเทศรายได้สูง’
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

4 เรื่องที่ OECD แนะไทยปฏิรูป เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย ‘ประเทศรายได้สูง’

11 ธ.ค. 68
15:53 น.
แชร์

ประเทศไทยมีเป้าหมายอันทะเยอทะยานที่จะเป็น ‘ประเทศรายได้สูง’ ในปี 2037 และเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development: OECD)

ไทยจะบรรลุเป้าหมายอันทะเยอทะยานนี้ได้อย่างไร คำตอบส่วนหนึ่งอยู่ในรายงานสำรวจและประเมินสถานทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ปี 2568 (Economic Survey of Thailand 2025) ที่ OECD เผยแพร่เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งรายงานนี้ฉายภาพความท้าทายของเศรษฐกิจไทย และมีข้อเสนอเชิงนโยบายสำหรับผู้กำหนดนโยบายของไทย 

รายงานของ OECD กล่าวถึงประเทศไทยว่า ประเทศไทยมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมที่ดีในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจกำลังอ่อนแรงลง และอัตราการเติบโตของรายได้ต่อหัวประชากร (GDP per capita) ก็ชะลอลง เนื่องจากเผชิญกับความท้าทายระยะยาวหลายประการ อุตสาหกรรมหลักของไทยอย่างการท่องเที่ยวและการผลิตเผชิญกับอุปสรรค มีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในภาคการผลิต ขณะที่การเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมทางการค้าโลกก็เพิ่มความเสี่ยงด้านลบมากขึ้น แนวโน้มการส่งออกที่อ่อนแอลงได้กดทับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ความตึงเครียดทางการค้าโลกสร้างความท้าทายให้ผู้ส่งออกไทย

OECD ระบุว่า พัฒนาการเหล่านี้เพิ่มความจำเป็นที่ประเทศไทยจะต้องปฏิรูปโครงสร้างเพื่อฟื้นฟูการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน แม้ว่าการสร้างฉันทามติทางการเมืองในบางประเด็นจะเป็นเรื่องท้าทาย และบางการปฏิรูปจะต้องระดมรายได้เพิ่มเติมและต้องหาวิธีใช้ทรัพยากรสาธารณะที่มีจำกัดให้มีประสิทธิผลมากขึ้น 

ในงานสัมมนาเพื่อเผยแพร่รายงาน Economic Survey of Thailand 2025 เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ฟรานติเช็ก รูซิกกา (František Ruzicka) รองเลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD Deputy Secretary General) กล่าวว่า OECD พร้อมที่จะสนับสนุนประเทศไทยอย่างเต็มที่ในการยกระดับกฎระเบียบและกลไกการขับเคลื่อนนโยบาย เพื่อที่จะยกระดับศักยภาพของประเทศไทยให้สามารถก้าวขึ้นสู่การเป็นประเทศรายได้สูงและเข้าเป็นสมาชิก OECD ในอนาคตต่อไป

รายงานของ OECD เสนอแนะ 4 ประเด็นสำคัญที่ไทยต้องดำเนินการปฏิรูป ได้แก่ 

1. การขับเคลื่อนผ่านการปรับโครงสร้างนโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาเสถียรภาพทางการคลังในระยะปานกลาง ผ่านการลดการขาดดุลทางการคลัง การปฏิรูประบบภาษีและการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายภาครัฐ เช่นเดียวกับการดำเนินนโยบายการเงินให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ 

ขอบเขตการสนับสนุนทางการคลังของไทยมีจำกัด เนื่องจากภาระหนี้สาธารณะของไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนใกล้เพดาน 70% รัฐบาลจำเป็นต้องมีรายได้เพิ่มขึ้นเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการคลัง และพร้อมสำหรับรองรับความต้องการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ดังนั้น การวางแผนการคลังจึงต้องมุ่งเน้นการลดการขาดดุลและหนี้สาธารณะในระยะกลาง

การควบคุมการขาดดุลและความต้องการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนั้น จำเป็นต้องมีการขยายความสามารถในการจัดเก็บรายได้ทางการคลัง ซึ่งรวมถึงการเพิ่มอัตราและขอบเขตของภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) การลดเกณฑ์การเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และการลดรายจ่ายทางภาษี

ส่วนนโยบายการเงิน ที่ผ่านมานโยบายการเงินได้ตอบสนองต่อภาวะเศรษฐกิจ โดยการลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควรเตรียมพร้อมที่จะผ่อนคลายต่อไป หากกิจกรรมทางเศรษฐกิจอ่อนตัวลงอีก โดยมีเงื่อนไขว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ

2. การยกระดับผลิตภาพการผลิตและการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน 

ไทยจำเป็นต้องมีการเพิ่มผลิตภาพในภาคธุรกิจ เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตของผลิตภาพแรงงานชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด การปรับปรุงนโยบายการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ควบคู่ไปกับมาตรการเสริมสร้างการแข่งขัน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อรองรับการพัฒนาของประเทศ การลดขั้นตอนทางราชการ และต่อต้านการทุจริต จะช่วยกระตุ้นการเติบโตได้ 

แม้ FDI ของไทยจะยังมีจำนวนมาก แต่ก็ยังน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านมาก การลดอุปสรรคการลงทุน และความก้าวหน้าในข้อตกลงการค้าเสรี จะช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพการดึงดูดการลงทุนได้

การแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างผลิตภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขสภาพการแข่งขันที่ไม่เท่าเทียมกันระหว่างบริษัทเอกชนและรัฐวิสาหกิจ นอกจากนี้ การลดกฎระเบียบและขั้นตอนที่ยุ่งยาก จะช่วยกระตุ้นทั้งการแข่งขันและผลิตภาพ การบริหารจัดการเศรษฐกิจที่ดีขึ้น รวมถึงความก้าวหน้าในการต่อต้านการทุจริตก็เป็นสิ่งสำคัญ

3. การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ไทยจำเป็นต้องมีการดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดการปล่อยคาร์บอนจากการผลิตไฟฟ้าและการขนส่ง ต้องมีการพัฒนาระบบเตือนภัยและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงต่อสภาพภูมิอากาศ และการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และมาตรการจูงใจเพื่อสนับสนุนการปรับตัวของเกษตรกร 

ประเทศไทยมีความเสี่ยงสูงจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การปรับปรุงการระบุความเสี่ยงและการจัดการภัยพิบัติ รวมถึงระบบเตือนภัยล่วงหน้าที่ดีขึ้น การจัดทำแผนที่ภัยพิบัติ และการลงทุนในการจัดการน้ำเป็นสิ่งจำเป็น ขณะที่มาตรการปรับตัวในภาคเกษตรกรรม เช่น การพัฒนาพันธุ์พืช การเผยแพร่แนวปฏิบัติที่เหมาะสม และการป้องกันชายฝั่งด้วยแนวทางทางธรรมชาติ ร่วมกับมาตรการทางกายภาพ จะช่วยรักษาทรัพยากรและภาคท่องเที่ยวในระยะยาว

4. การปฏิรูปเชิงนโยบายเพื่อลดขนาดของเศรษฐกิจนอกระบบ 

แรงงานกว่าครึ่งในไทยยังทำงานอยู่นอกระบบ ไทยต้องลดขนาดเศรษฐกิจนอกระบบลง โดยการดำเนินการสองด้านหลัก ๆ คือ

ด้านการลงทุนในทุนมนุษย์และการคุ้มครองทางสังคม ต้องมีการพัฒนาทักษะแรงงานเพื่อให้มีงานที่มีความมั่นคง ต้องปรับปรุงระบบความคุ้มครองทางสังคมให้มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น การมีมาตรการด้านภาษีขั้นต่ำ ค่าแรงขั้นต่ำที่เหมาะสม และระบบประกันสังคมที่เอื้อต่อแรงงานรายได้น้อย 

ด้านกฎระเบียบทางธุรกิจและการจ้างงาน การผ่อนปรนกฎระเบียบด้านใบอนุญาตและระบบภาษีที่ง่ายขึ้นสำหรับธุรกิจขนาดเล็กจะช่วยลดอุปสรรคในการจ้างงานอย่างเป็นทางการ ในขณะที่ต้นทุนในการสร้างงานอย่างเป็นทางการสามารถลดลงได้โดยการทบทวนกฎระเบียบด้านตลาดแรงงาน การบังคับใช้กฎหมายแรงงานและภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจนอกระบบไปสู่เศรษฐกิจในระบบที่เป็นทางการได้ และจะเป็นการลดขนาดเศรษฐกิจนอกระบบโดยไม่กระทบต่อการจ้างงาน

แชร์
4 เรื่องที่ OECD แนะไทยปฏิรูป เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย ‘ประเทศรายได้สูง’