การท่องเที่ยวไทยปี 2568 โจทย์เปลี่ยนอีกครั้ง เพราะแม้ฟื้นตัวจากโควิดมาแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถเติบโตได้เท่าเดิม ด้วยหลายปัจจัยมากระทบจนทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวเบอร์ 1 อย่างจีน ลดน้อยลง โดยเฉพาะหลังเกิด 2 เหตุการณ์ใหญ่ ทั้งการหายตัวไปของดาราจีนซิงซิง และเหตุกาณ์ตึกสตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว ได้สร้างความกังวลใจให้แก่นักท่องเที่ยวจีน จนจำนวนลดลงอย่างน่าใจหาย แม้รัฐบาลไทยและททท.จะพยายามเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวถึงความปลอดภัยเมื่อเดินทางมายังประเทศไทย
เป้าหมายเดิมของนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยปี 68 นี้อยู่ที่ราว 39- 40 ล้านคน แต่ตอนนี้ผ่านมาแล้ว 6 เดือนมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเพียง 15 ล้านคน ทำให้ ททท. ปรับเป้าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยลดลงเหลือราว 35-38 ล้านคน แน่นอนว่า หากนักท่องเที่ยวจีน ลดน้อยลงเราอาจจะต้องเบนเข็มไปในกลุ่มนักท่องเที่ยวอื่นๆที่มีศักยภาพ
จำนวนนักท่องเที่ยวจีน ยังไม่กระเตื้อง ตั้งเเต่ 1 ม.ค.-11พ.ค.68 มี 1.7 ล้านคน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า ขณะนี้เห็นสัญญาณการเติบโตดีในหลายตลาดนักท่องเที่ยวศักยภาพ โดยเฉพาะ ยุโรป ตะวันออกกลาง อเมริกา และโอเชียเนีย ที่เติบโตสูงโดดเด่น 2 digit อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี จึงเดินหน้าเร่งบูสต์ตลาดคุณภาพสู่ Million Market พร้อมปรับโครงสร้างตลาดสู่ Value over Volume อย่างยั่งยืน
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า แนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงวันที่ 1-9 มิถุนายน 2568 ซึ่งเป็นช่วง Green Season เห็นแนวโน้มการเติบโตดีในหลายตลาด โดยล่าสุดมีการเปลี่ยนแปลงอันดับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยสูงสุดจากตลาดจีนเป็นมาเลเซีย ซึ่งในช่วงตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนเป็นต้นมา นักท่องเที่ยวมาเลเซียซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดนักท่องเที่ยวหลักของไทยมีการเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น 13.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ยังเห็นสัญญาณการเติบโตที่ดีของนักท่องเที่ยวในหลายตลาดศักยภาพ โดยเฉพาะตลาดยุโรปที่มีกำลังซื้อสูง โดยรวมเติบโตเพิ่มขึ้น 13% ได้แก่ ตลาดเยอรมนีที่มีการเติบโตของนักท่องเที่ยวสูงถึง 71% ตลาดอิตาลีเพิ่มขึ้น 28% สวิตเซอร์แลนด์ เพิ่มขึ้น 24% นอกจากนี้ ตลาดนักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง ซึ่งกำลังเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว เห็นแนวโน้มการเติบโตที่สูงขึ้นถึง 55% โดยเฉพาะ ซาอุดีอาระเบีย (+61%) โอมาน (+54%) U.A.E. (+51%) ตลาดอิสราเอล (+32.49%) และเริ่มเห็นสัญญานการเติบโตที่ดีของตลาดดาวรุ่ง ได้แก่ ตลาดฟิลิปปินส์ (+24%)
จากสถิติสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 9 มิถุนายน 2568 นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว 15,543,344 คน โดยตลาดนักท่องเที่ยวที่มีฐานตลาดใหญ่ และมีการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง ได้แก่
ตลาดศักยภาพขนาดกลาง ได้แก่ อิสราเอล 165,602 คน (+74.65%) อิตาลี 136,209 คน (+28.45%) แคนาดา 134,095 คน (+7.12%) โปแลนด์ 120,944 คน (+31.07%) เนเธอร์แลนด์ 119,992 คน (+12.69%) สวีเดน 117,434 คน ( +10.47%)
มีการเปิดเที่ยวบินลอนดอน-กรุงเทพฯ ของ Norse Atlantic Airways 2-4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และ TUI UK ประกาศเพิ่มเที่ยวบินลอนดอน-กรุงเทพฯ และ แมนเชสเตอร์-กรุงเทพฯ เป็น 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่ง ททท.จะร่วมทำ Joint Promotion ร่วมกับสายการบิน British Airways และ Norse Atlantic Airways เพื่อเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวกระตุ้นยอดขายทั้งกลุ่ม First Visit และ Re-visit
ร่วมกับ Tour Operator รายหลักในตลาด เช่น Der, TUI และสายการบิน Condor จัดเที่ยวบินเช่าเหมาลำในช่วงเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2568 ร่วมกับการจัด Celebrity Fam Trip เจาะกลุ่มตลาด DINKs, Gen Z และ LGBTQ
จัดกิจกรรม Joint Promotion ร่วมกับ Tour Operator รายใหญ่ที่มีเครือข่ายทั้งเมืองหลักและเมืองรองในพื้นที่รัสเซีย
จัด Joint Promotion ร่วมกับพันธมิตร อาทิ Carrefour Voyages, Lastminute, Edreams (Opodo) และร่วมงานส่งเสริมการขาย อาทิ Cannes Yachts Show, Wedding & Honeymoon Fair
จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย 2 by 4 Global Amazing Month Campaign ผ่านแพลตฟอร์ม Travelstride จัด Co-op Sales Campaign ร่วมกับสายการบิน EVA ผ่าน Expedia
ซึ่ง จากผลกระทบของสถานการณ์การท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมา ททท. ดำเนินแนวทางการปรับกลยุทธ์ให้ตอบสนองต่อโครงสร้างตลาดการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไป โดยให้น้ำหนักกับการ Relocation สร้างความสมดุลตลาดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และนำเสนอจุดขายทางการท่องเที่ยวใหม่ ๆ ของประเทศไทย เพื่อสร้างสมดุลในเชิงพื้นที่ โดยเฉพาะในเมืองรอง หรือเมืองน่าเที่ยวที่ยังมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางไปไม่มากนัก และใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ และ Event Marketing เพื่อกระตุ้นตลาดในช่วง Green Season ตลอดจนมุ่งเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีกำลังซื้อและการใช้จ่ายทางการท่องเที่ยวสูง เพื่อปรับโครงสร้างตลาดการท่องเที่ยวให้เติบโตแข็งแกร่งสู่ Value over Volume อย่างยั่งยืน
อ้างอิง : ททท.