กระทรวงสาธารณสุขเปิดงบสู้โควิด เผยรัฐบาลใช้จ่ายด้านสาธารณสุขเพื่อรับมือ ‘โควิด’ ในช่วงปี 2563-2565 รวมถึง 444,294 ล้านบาท มากกว่าครึ่งเป็นค่าบริการสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 เช่น ค่าตรวจคัดกรอง ค่ารักษาพยาบาล ค่าฉีดวัคซีน
นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ 11) ในฐานะประธาน คณะกรรมการ MIU (MOPH Intelligence Unit) กล่าวว่า จากการศึกษาของโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) กระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับการเงินการคลังสุขภาพเพื่อตอบสนองต่อการระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย พบว่า แหล่งงบประมาณหลักด้านสาธารณสุขในการรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 มาจาก 2 แหล่งคืองบกลางและงบเงินกู้ กรอบวงเงิน 1 ล้านล้านบาท และ 5 แสนล้านบาท
นพ.รุ่งเรือง กล่าวว่า จากงบดังกล่าว รัฐได้ใช้จ่ายด้านสาธารณสุขเพื่อตอบสนองต่อการระบาดของโรคโควิด-19 ระหว่างปี 2563-2565 รวมทั้งสิ้น 444,294 ล้านบาท โดยสามารถแบ่งเป็นประเภทของการใช้จ่ายได้ดังนี้ คือ
สำหรับสถานะเงินบำรุงของโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จากการศึกษาพบว่าเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับสถานะเงินบำรุงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เช่นเดียวกับภาพรวมของรายได้และอัตราการเพิ่มของสินทรัพย์ของโรงพยาบาลเอกชนที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งบอกว่าเงินที่อุดหนุนโรงพยาบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพียงพอในการรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19
ส่วนภาวะล้มละลายจากค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของครัวเรือนไทยในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 พบว่าลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ก่อนการระบาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งครัวเรือนที่มีรายได้น้อยที่สุด พบว่า มีความเสี่ยงในการล้มละลายลดลงร้อยละ 30-33
ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ไม่ใช่จีนที่เริ่มรายงานเคสโควิด-19 และประสบความสำเร็จในการควบคมการระบาดในช่วงเริ่มแรกด้วยการล็อคดาวน์และประกาศปิดการเดินทางระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม การระบาดในไทยก็เริ่มรุนแรงขึ้นจากการเข้ามาของโควิด-19 สายพันธุ์ Delta และ Omicron โดยจากข้อมูลในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ปี 2566 ขององค์กรอนามัยโลก ไทยมีผู้ป่วยโควิดสะสมทั้งหมด 4.7 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 33,911 คน