"พิสิษฐ์" ยัน สว.ไม่ได้ของบสร้าง โรงภาพยนตร์4D แค่ปรับปรุงห้องสารนิเทศ
"สว.พิสิษฐ์" ยัน สว. ไม่ได้ของบสร้าง โรงภาพยนตร์4D แค่ปรับปรุงห้องสารนิเทศ สส. -สว.ไม่ได้ใช้ทำไว้เพื่อปชช. แจงตัดงบโครงการพัฒนาทักษะภาษาจีนแล้ว
วันที่ 7 พ.ค. 68 ที่อาคารรัฐสภา นาย พิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงษ์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) แถลงข่าวถึงการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ของ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา และสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยมีโครงการพัฒนาระบบ โรงภาพยนตร์4D จำนวน 180 ล้านบาท และโครงการพัฒนาทักษะภาษาจีนสำหรับสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 2,363,900 บาทว่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
งบประมาณไม่ว่าจะเป็น สส.หรือ สว. ไม่มีอำนาจหน้าที่อนุมัติงบประมาณตามมาตรา 144 และหวังว่าสื่อมวลชน อย่าเอา สว.ไปบอกว่าใช้งบนั้นใช้งบนี้ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้มาเกิดจากการอนุมัติของคณะรัฐมนตรี
นายพิสิษฐ์ ยังชี้แจงถึงกรณีที่ตนเองถูกโจมตีเกี่ยวกับการใช้งบพัฒนาระบบโรงภาพยนตร์ 4D 180 ล้านบาทว่า โครงการนี้เป็นการจัดทำงบประมาณโดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อปรับปรุงห้องสารนิเทศ ไม่ใช่โรงภาพยนตร์ เพราะการจะแนะนำสถานที่ได้ดีที่สุด ก็จะต้องผ่านห้องในลักษณะนี้ ห้องที่จะบอกว่าสถานที่แห่งนี้คืออะไร และทำอะไรบ้าง และสถานที่แห่งนี้คนที่ใช้ไม่ใช่ สส.หรือ สว.แต่เป็นประชาชน งบประมาณทุกบาททุกสตางค์เป็นของประชาชน อย่าบอกว่า สว.เป็นคนใช้ และในสภาที่ถนนอู่ทองในก็เคยมีห้องแบบนี้ ประชาชนก็ได้เข้าไปใช้ ดังนั้นขอให้ทำความเข้าใจใหม่ว่าไม่ใช่โรงภาพยนตร์
ส่วนโครงการพัฒนาทักษะภาษาจีนสำหรับสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 2,363,900 บาท ที่เป็นการส่งเสริมบทบาทของรัฐสภาไทยในเวทีระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการของการวางแผนงบประมาณภาครัฐซึ่งสอดคล้องกับภารกิจด้านการต่างประเทศและการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาไทยกับจีน และสมาชิกวุฒิสภาไม่ได้เป็นผู้เสนอของงบประมาณ แต่เป็นผู้มีส่วนร่วมในกิจกรรม ซึ่งการเดินทางไปต่างประเทศแบบนี้มีความจำเป็น แต่งงบประมาณก้อนนี้ ถูกคณะรัฐมนตรีไม่อนุมัติตั้งแต่เดือนมี.ค.แล้ว ที่มีคลิปออกมาล่าสุดว่า ตนใช้เงิน และภาษีของประชาชนไป 2.4 ล้านบาท ตรงนี้อยากให้แก้ข่าวให้ด้วย ซึ่งโครงการเรียนภาษาจีนไม่ได้มีเฉพาะในปีนี้ แต่มีมาตั้งแต่ปี 2549 และตนได้สอบถามกับสำนักงบแล้วว่าได้ใช้เงิน 50,000 บาทต่อการเรียน 15 ครั้ง ซึ่งมีทั้งข้าราชการในสภา สว.เข้าไปร่วมเรียนด้วย จำนวน 50-60 คน กับงบประมาณ 50,000 บาทต่อการเรียน 15 ครั้ง จึงขอถามว่าการใช้งบประมาณแบบนี้เกินกว่าเหตุหรือไม่
ส่วนที่มีข่าวว่า สว. 15 คนได้ไปต่างประเทศ ตนขอยืนยันตรงนี้ว่าทุกคนได้ชำระค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพราะฉะนั้นไม่ได้ใช้งบประมาณภาษีแม้แต่สตางค์แดงเดียว
Advertisement
