ผลสำรวจชี้ นักลงทุนคริปโทฯ เกือบครึ่งเพิ่งเริ่มเล่นเมื่อปีที่แล้ว นำโดย "บราซิล-อินโดฯ" หวังหนีเงินเฟ้อฉุดค่าเงินตกต่ำ
เจมินาย (Gemini) แพลตฟอร์มเทรดคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ในสหรัฐ เปิดเผยรายงานล่าสุดพบว่า ปี 2021 ที่ผ่านมา เป็นปีทองที่มีผู้เริ่มเข้าลงทุนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเป็นครั้งแรก โดยเกือบครึ่งหนึ่ง มาจากประเทศที่มีปัญหาอัตราเงินเฟ้อขยายตัว จนส่งผลให้สกุลเงินท้องถิ่นด้อยค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ
รายงานระบุว่า "บราซิล" และ "อินโดนีเซีย" เป็นประเทศที่มีผู้เริ่มลงทุนในคริปโทฯ เมื่อปีที่แล้ว มากที่สุดถึง 41% ของผู้ที่ตอบแบบสอบถามทั้งหมด ขณะที่สัดส่วนดังกล่าวคิดเป็น 20% ในสหรัฐ และ 18% ในสหราชอาณาจักร
รายงานซึ่งสำรวจความเห็นนักลงทุนคริปโทฯ 30,000 คน ใน 20 ประเทศทั่วโลก ระหว่างเดือน เม.ย. 2564 - ก.พ. 2565 พบว่า 79% ของผู้ที่ถือคริปโทฯ เมื่อปีที่แล้ว ตัดสินใจซื้อเพื่อการลงทุนในระยะยาว
ส่วนผู้ที่ปัจจุบันยังไม่ได้ลงทุนคริปโทฯ และอาศัยอยู่ในประเทศที่สกุลเงินเสื่อมค่าลงเพราะเงินเฟ้อนั้น ระบุว่า มีแนวโน้มมากกว่า 5 เท่า ที่จะซื้อสินทรัพย์คริปโทฯ เพื่อป้องกันผลกระทบจากเงินเฟ้อ ตัวอย่างเช่น มีเพียง 16% ของผู้ตอบแบบสำรวจในสหรัฐ และ 15% ในยุโรปเท่านั้นที่เห็นด้วยว่า คริปโทเคอร์เรนซีใช้ป้องกันผลกระทบจากเงินเฟ้อได้ เมื่อเทียบกับผู้ตอบแบบสำรวจ 64 % ในอินโดนีเซียและอินเดีย
ทั้งนี้ ค่าเงินรูปีของอินเดีย อ่อนค่าลงไปถึง 17.5% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ค่าเงินรูเปียห์ ของอินโดนีเซีย อ่อนค่าลงถึง 50% เมื่อเทียบระหว่างปี 2011 และ 2020
นอกจากนี้ ยังมีเพียง 17% ของชาวยุโรปที่รายงานว่า ถือสินทรัพย์คริปโทฯ ในปี 2564 และ 7% ของผู้ที่ไม่ได้ถือสินทรัพย์คริปโทฯ ในตอนนี้แสดงความตั้งใจว่าจะซื้อสินทรัพย์คริปโทฯ ในอนาคต
ทั้งนี้ ความนิยมในคริปโทเคอร์เรนซีเมื่อปีที่แล้ว เกิดขึ้นในขณะที่ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดตลาดกาลที่กว่า 68,000 ดอลลาร์ เมื่อเดือน พ.ย. และดันให้มาร์เก็ตแคปของตลาดคริปโทฯ พุ่งขึ้นแตะ 3 ล้านล้านดอลลาร์ ก่อนที่ปัจจุบัน ราคาจะปรับตัวลดลง โดยคอยน์เก็คโคให้กรอบเคลื่อนไหวที่ 34,000 - 44,000 ดอลลาร์