รัสเซียหวังพึ่ง "คริปโท" กู้ชาติ ให้ใบอนุญาตแบงก์ใหญ่ Sberbank เทรด-ออกสินทรัพย์ดิจิทัลได้

แบงก์ชาติรัสเซียกลับใจ เล็ง “คริปโทเคอร์เรนซี” เป็นทางรอดใหม่จากมาตรการคว่ำบาตร ออกใบอนุญาต “เทรด-ออกสินทรัพย์ดิจิทัล” ให้กับ Sberbank ธนาคารเบอร์ 1 ของรัสเซีย

 
แม้ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ธนาคารกลางรัสเซีย จะเคยงัดกับรัฐบาลโดยประกาศท่าทีต่อต้านคริปโทเคอร์เรนซีอย่างรุนแรงมาแล้ว แต่ด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป ซึ่งเต็มไปด้วยแรงกดดันการคว่ำบาตรจากทั่วโลก ล่าสุด แบงก์ชาติรัสเซียก็ได้ “กลับลำ” หันมาไฟเขียวธุรกิจคริปโทเคอร์เรนซีแล้ว โดยการออกใบอนุญาตให้กับ Sberbank แบงก์ใหญ่อันดับ 1 ในประเทศที่มีรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

สื่อท้องถิ่นของรัสเซีย รายงานว่า แบงก์ชาติรัสเซียประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ได้ขึ้นทะเบียนให้ Sberbank เป็นผู้ให้บริการระบบข้อมูลด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งแบงก์ชาติรัสเซียระบุว่า การขึ้นทะเบียนดังกล่าว จะทำให้ Sberbank สามารถ “ออกสินทรัพย์ดิจิทัล และให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลภายในแพลตฟอร์มของธนาคารได้” เทียบได้กับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในบ้านเรา ซึ่งออกโดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

เมื่อแบงก์เข้ามาเป็น Exchange และ ICO Portal เองแล้ว แบงก์ก็จะสามารถทำอะไรได้หลายอย่างบนเทคโนโลยีบล็อกเชน ตั้งแต่ การบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล การช่วยให้บริษัทอื่นๆ ออกสินทรัพย์ดิจิทัล การให้บริการธุรกรรมซื้อขายแลกเปลี่ยน ไปจนถึง การออกสเตทเมนต์สินทรัพย์ดิจิทัลให้ลูกค้า

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ม.ค. เคยมีข่าวออกมาตั้งแต่ก่อนจะได้ใบอนุญาตแล้วว่า Sberbank กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมออกเหรียญของตัวเองในชื่อว่า “Sbercoin” ซึ่งจะเป็นเหรียญ Stablecoin ที่ผูกกับสินทรัพย์จริง เช่น เงินรูเบิลของรัสเซีย หรือทองคำ โดยเป็นโปรเจกต์ความร่วมมือกับทาง JPMorgan แบงก์ใหญ่ระดับโลกจากสหรัฐ

แม้ว่าทางแบงก์จะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่าโปรเจกต์ความร่วมมือออกเหรียญนี้จะถูกกระทบหรือไม่ อย่างไร แต่ที่แน่ๆ ก็คือ Sberbank คือหนึ่งในแบงก์รัสเซียที่ถูกนานาชาติคว่ำบาตรด้วย และได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการถูกตัดจากระบบ Swift หรือระบบการทำธุรกรรมโอนเงินข้ามประเทศ และยังเผชิญการแห่ถอนเงินอย่างหนักในสาขากลุ่มประเทศยุโรป จนกิจการในยุโรปต้องปิดตัวลงและเข้าสู่กระบวนการล้มละลายไปแล้ว

ปัจจุบัน ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การออกใบอนุญาตด้านสินทรัพย์ดิจิทัลให้ Sberbank และบริษัทอะตอมไมซ์ รัสเซีย ซึ่งเป็นเจ้าแรกที่ได้รับใบอนุญาตไปแล้ว จะช่วยให้รัสเซียสามารถรับมือกับมาตรการคว่ำบาตรจากทั่วโลกได้มากน้อยแค่ไหน

แต่อย่างน้อยที่สุด ก็เป็นการเพิ่มโอกาสใหม่ๆ ให้สถาบันการเงินในรัสเซีย และเพิ่มการการันตีได้ว่ารัสเซียจะยังมีช่องทางคริปโทฯ อยู่บ้าง ในวันที่ถูกรุมคว่ำบาตรและอายัดทรัพย์ หากโลกคริปโทฯ ถูกแทรกแซงจนไม่ Centralized อีกต่อไป