บิตคอยน์ อาจกำลังกลายร่างจาก ‘สินทรัพย์เสี่ยง’ เป็น ‘สินทรัพย์ปลอดภัยเฉพาะกิจ’ ในยามสงครามเช่นนี้ หลังยอดการซื้อขายในวันที่รัสเซียบุกยูเครน พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 2 เดือน ทะลุ 3 แสนล้านบาท
‘บิตคอยน์’ ที่บรรดากูรูด้านการลงทุนตีตราว่าเป็นสินทรัพย์เสี่ยง อาจกำลังกลายร่างเป็น ‘สินทรัพย์ปลอดภัยเฉพาะกิจ’ ในยามที่รัสเซียกับยูเครน รบบพุ่งกันอยู่อย่างทุกวันนี้ก็เป็นได้ โดยรายงานจาก Arcane Research บริษัทวิเคราะห์ด้านบล็อกเชน เปิดเผยปริมาณการซื้อขาย ‘ที่แท้จริง’ ของคริปโทเคอร์เรนซีในสกุลบิตคอยน์พุ่งขึ้นสูงถึง 1 หมื่นล้านบาท (ราว 3.27 แสนล้านบาท) ในวันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ประธานาธิบดี วลาดีเมียร์ ปูติน ประกาศสงครามกับยูเครน นับเป็นปริมาณการซื้อขายต่อวันสูงที่สุด นับตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคมของปีก่อน
ปริมาณการซื้อขายกว่า 3 แสนล้านบาทในครั้งนี้ เป็นผลมาจากการระดมทุนเป็นสกุลเงินคริปโทเพื่อช่วยเหลือชาวยูเครน มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกที่กดดันค่าเงิน “รูเบิล” ของรัสเซีย และมาตราการการขึ้นดอกเบี้ยสุดโหดของ ของธนาคารกลางรัสเซียเพื่อรักษาเสถียรภาพค่าเงิน
ไม่ใช่แค่แรงซื้อเท่านั้น ในวันดังกล่าว นักลงทุนบางส่วนก็เทขายบิตคอยน์เพื่อจำกัดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในภาวะสงคราม ทำให้มูลค่าบิตคอยน์ลดลง 10% ในวันนั้น
คำว่า ปริมาณการซื้อขาย ‘ที่แท้จริง’ ที่ Arcane Research กล่าวถึงนี้ คือปริมาณการซื้อขายจากเอ็กซ์เชนจ์ที่เชื่อถือได้ และไม่ใช่การปั่นราคา ซึ่งในกรณีนี้ เป้นการใช้ข้อมูลจากเอ็กซ์เชนจ์ที่เชื่อถือได้ 10 เจ้าด้วยกัน เช่น Coinbase, Kraken, Binance, FTX ฯลฯ
นอกจาก Arcane Research แล้ว ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์อื่นๆ เช่น Messari ซึ่งรวบรวมข้อมูลการซื้อขายที่แท้จริงของบิตคอยน์ จากเอ็กซ์เชนจ์จำนวนมาก พบว่ามีปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 1.16 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 3.8 แสนล้านบาท) ด้าน Coingecko ที่รวบรวมข้อมูลปริมาณซื้อขายจากเอ็กซ์เชนจ์มากถึงกว่า 500 เจ้าพบว่า ปริมาณการซื้อขายพุ่งขึ้นสูงถึง 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ (8.2 แสนล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม หลังจากวันที่ 24 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา ปริมาณการซื้อขายจริงรายวันก็ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ราว 7.5 พันล้านดอลลาร์ (2.4 แสนล้านบาท) ในวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา อ้างอิงจากข้อมูลของ Messari
สำหรับเหตุการณ์การดีดตัวของราคาบิตคอยน์ ที่พุ่งขึ้นถึง 14.5% ใน 24 ชม. ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ มาเคลื่อนไหวที่ประมาณ 44,000 ดอลลาร์/บิตคอยน์นั้น Arcane Research กล่าวว่า เป็นผลมาจากการแห่เข้าถือครองบิตคอยน์จากรัสเซีย และยูเครน (แม้ถ้าเทียบกับทั้งโลกแล้ว จะถือเป็นส่วนน้อยก็ตาม) นอกจากนี้ ยังเป็นผลจากเคสการนำบิตคอยน์มาใช้ในช่วงสงคราม ที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
“นักลงทุนเริ่มสังเกตเห็นแล้วว่า คริปโทเคอร์เรนซีจะกลายมาเป็นเงินตราที่ไม่อิงกับการเมือง และไม่ต้องพึ่งพาความน่าเชื่อถือจากตัวกลาง ในช่วงเวลาที่ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ก่อตัวมากขึ้น เกิดความขัดแย้ง และเกิดความพยายามในการควบคุมแหล่งเงินทุน ซึ่งข้อสังเกตเหล่านี้อาจมีผลถึง 15% ต่อการเคลื่อนไหวของราคาบิตคอยน์ ในรอบ 7 วันที่ผ่านมา”