สินทรัพย์ดิจิทัล

3 คาเฟ่ อินเทรนด์ แห่รับชำระ คริปโต ธ.ค. นี้

30 พ.ย. 64
3 คาเฟ่ อินเทรนด์  แห่รับชำระ คริปโต ธ.ค. นี้

ต้านไม่ไหวจริงๆ กับกระแส “คริปโตเคอร์เรนซี” สินทรัพย์แห่งอนาคตที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ทั้งในแง่ของสินทรัพย์การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง และเป็นอนาคตของโลกการเงิน

ย้อนไปไม่กี่ปีก่อน คริปโตฯ ยังเป็นสิ่งที่พูดถึงกันเฉพาะกลุ่มมากๆ มาวันนี้ แม้แต่เด็กมัธยม หรือคนที่ห่างไกลวงการลงทุน ก็ยังหันมาเปิดพอร์ท ถือเหรียญคริปโตฯไว้ในมือ


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) อัพเดตตัวเลขจำนวนผู้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย เมื่อเดือนกันยายน ว่ามีถึง 1.63 ล้านคน ยังไม่นับรวมผู้ใช้ที่ใช้ช่องทางอื่นๆ ที่ยังไม่ได้รับการรับรองโดยกลต. ทั้งในและต่างประเทศ

ไม่น่าแปลกใจที่ธุรกิจไหนก็อยากจะเกาะกระแสนี้ด้วย ทั้งบ้าน คอนโด รถสปอร์ต ตั๋วหนัง ฯลฯ ก็สามารถซื้อด้วยคริปโตได้แล้ว หนึ่งธุรกิจในไทยที่เริ่มมาจับกระแสคริปโตฯ นี้ด้วยคือธุรกิจ “ร้านกาแฟ” ที่ถ้าเทียบกับบ้าน คอนโด หรือรถ แล้วราคาจะคนละเรื่องกัน แต่ถ้าพูดถึงความถี่ในการซื้อ ก็ต้องถือว่าสูงกว่ามากๆ สำหรับคนที่มีพอร์ทคริปโตฯ อยู่แล้ว คงสะดวกดีไม่น้อยถ้าเหรียญสกุลต่างๆ ที่เราถืออยู่บนโลกดิจิทัล สามารถใช้ซื้อของในโลกจริงได้ทันที

มาอัพเดตความเคลื่อนไหวของ 3 คาเฟ่ ชื่อดัง ที่จับกระแสจะรับชำระเงินด้วยคริปโตเคอร์เรนซีภายในเดือนธันวาคมนี้

172632

 

666602
อินทนิล

เปิดรับชำระครั้งแรก 1 ธ.ค. 2564

ช่องทางการรับชำระเงิน : bitazza

เหรียญที่รับชำระ : บิตคอยน์ (Bitcoin/BTC), อีเทอเรียม (Ethereum/ETH) และเทเทอร์ (Tether/USDT)

ร้านกาแฟ “อินทนิล” ร้านกาแฟในเครือ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด ประกาศเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ว่า 1 ธันวาคมนี้ ร้านอินทนิลจำนวน 21 สาขา จะเริ่มรับชำระค่าอาหารและเครื่องดื่มด้วยคริปโตฯ 3 สกุลเงินยอดนิยม ได้แก่ บิตคอยน์ อีเทอเรียม และเทเทอร์ ผ่าน “bitazza” โบรกเกอร์สินทรัพย์ดิจิทัลสัญชาติไทย โดยในต้นปีหน้า จะรับชำระเงินผ่านคริปโตฯ เพิ่มอีก 100 สาขาในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจะครอบคลุมสาขาทั่วประเทศภายในครึ่งปี นับเป็น Chain Store Coffee เจ้าแรกในไทย ที่รับชำระค่าสินค้าด้วยคริปโตฯ

 classcafe2

Class Cafe

เปิดรับชำระครั้งแรก 26 ธ.ค. 2564

ช่องทางการรับชำระเงิน : bitazza

เหรียญที่รับชำระ : บิตคอยน์ (Bitcoin/BTC), อีเทอเรียม (Ethereum/ETH) และเทเทอร์ (Tether/USDT)

ด้วยแผนที่จะมุ่งสู่สังคมไร้เงินสดเต็มตัว “Class Cafe” ร้านกาแฟของคนรุ่นใหม่ที่มีสาขากระจายตัวอยู่ในภาคอีสาน รวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทางร้านจึงประกาศที่จะ “ไม่รับเงินสด 100%” โดยลูกค้าสามารถชำระเงินได้ทางบัตรเครดิต เดบิต QR Code พร้อมเพย์ แอพพลิเคชัน CLASS go รวมไปถึงจะเริ่มรับคริปโตฯ ผ่าน bitazza ในวันที่ 26 ธันวาคมนี้

 

hipcoffee1


Hip Coffee & Restaurant

เปิดรับชำระผ่านคริปโตฯ ครั้งแรก 15 ธ.ค. 2564

ช่องทางการรับชำระเงิน : Bitkub

เหรียญที่รับชำระ : บิตคอยน์ (Bitcoin/BTC), อีเทอเรียม (Ethereum/ETH)

                        และ บิทคับ คอยน์ (Bitkub Coin/KUB)

ร้านกาแฟซึ่งเป็นคอมมูนิตี้ของชาว คริปโตเคอร์เรนซี ใจกลางเมืองโคราชของ "คุณเอ็กซ์ เศรษฐภัทร์" ที่มีจอแสดงกราฟแบบ Real-time เอาใจสายเทรดคริปโตฯ พร้อมตั้งใจให้ร้านเป็นแหล่งรวมคนที่สนใจในเรื่องคริปโตเคอร์เรนซี และเทรนด์ของโลกอนาคต มาแลกเปลี่ยนพูดคุยกัน

ล่าสุด “คุณโอ๋ อัครวัฒน์” ผู้จัดการร้านเผยว่า Hip Coffee & Restaurant กำลังจะก้าวสู่การเป็นคาเฟ่อีกรายรับชำระเงินด้วยคริปโตเคอร์เรนซี โดยได้จับมือกับ “Bitkub” แพลตฟอร์มเทรดเหรียญดิจิทัลชั้นนำอีกรายของไทย รับเหรียญดังๆ หลายสกุล เพื่อให้เป็นคอมมูนิตี้ของคนรักคริปโตฯ อย่างแท้จริง และคุณโอ๋ยังเล่าให้ฟังอีกว่า มีอีกหนึ่งโปรเจกต์ใหญ่ร่วมกับ Bitkub อยากให้ชาวคริปโตฯ ทั้งหลายอดใจรอชม
.

 
อ้างอิงจากข้อมูลของ bitazza ปัจจุบัน มีร้านค้าที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ bitazza จำนวนกว่า 300 ราย ในหลากหลายกลุ่มธุรกิจ อาทิ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าไฮเอนด์ ไปจนถึงโชว์รูมรถยนต์ ที่พัก บริการเช่าเฮลิคอปเตอร์ บ้านจัดสรรและคอนโด

ล่าสุด จับมือบางจาก โดยเริ่มจากร้านอินทนิล ขยายไปสู่ปั๊มน้ำมันและอื่นๆ
นับเป็นธุรกิจพลังงานรายแรกในไทย ที่รับชำระด้วยคริปโตเคอร์เรนซี

 
ขายของด้วยคริปโตฯ รายได้จะผันผวนไหม?

แม้มูลค่าของเหรียญบนกระดานจะผันผวนตลอดเวลา แต่ร้านค้าจะยังคงได้รายได้เท่าเดิม ข้อดีของการจับมือกับ Exchange หรือ Broker สัญชาติไทยคือ ร้านค้าสามารถแลกเหรียญสกุลต่างๆ มาเป็นเงินบาทผ่านตัวกลางได้ทันที ซึ่งก็คือ แม้ลูกค้าจะซื้อกาแฟกันคนละช่วงเวลา ลูกค้าแต่ละคนจะชำระค่ากาแฟด้วยจำนวนเหรียญที่ไม่เท่ากัน แต่ร้านจะได้รับรายได้คิดเป็นเงินบาท ที่คงเดิมนั่นเอง

ตัวอย่างเช่น กาแฟ ราคาแก้วละ 50 บาท

เวลา 10 โมงเช้า USDT ราคา 33.84 บาท/ 1 USDT ลูกค้าคนที่ 1 จะต้องจ่ายค่ากาแฟ 1.478 USDT

เวลาบ่าย 2 USDT ราคา 34.22 บาท/ 1 USDT ลูกค้าคนที่ 2 จะต้องจ่ายค่ากาแฟ 1.461 USDT

ลูกค้าสองคนชำระเงินด้วยจำนวนเหรียญที่ไม่เท่ากัน แต่ร้านค้ายังคงได้เงินเท่าเดิม

 
อนาคตของโลกการเงิน หรือแค่เกาะกระแส?

แม้จุดประสงค์ของการสร้างสกุลเงินคริปโตเคอร์เรนซี คือการมาให้ผู้คนใช้ทดแทนระบบการเงินที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน แต่ ณ ตอนนี้นี้ก็ยังถือว่ายังอยู่ในสเต็ปแรกๆ ของการเปลี่ยนผ่านเท่านั้น

ยังมีธุรกิจจำนวนไม่มากที่ให้ลูกค้าซื้อสินค้าและบริการ จำนวนคนที่ถือสินทรัพย์ดิจิทัลก็ยังนับว่ายังไม่มากนัก และที่สำคัญ หน่วยงานภาครัฐทั่วโลกเองก็ยังมีมาตรการคุมเข้มสกุลเงินดิจิทัล ยังไม่ได้สนับสนุนให้มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย

ในอนาคต เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เองว่า ธุรกิจเจ้าไหนมีเป้าหมายแค่มาเกาะกระแสเรียกลูกค้า หรือว่าเจ้าไหนมีแผนจะปรับโฉมประสบการณ์การใช้จ่ายของลูกค้า ให้ไปในทิศทางของโลกแห่งอนาคตจริงๆ

advertisement

SPOTLIGHT