2 ยักษ์ใหญ่ ด้านการผลิตไฟฟ้าและพลังงานทดแทน อย่าง บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF และ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จากัด (มหาชน) หรือ GUNKUL ได้ประกาศความสำเร็จในการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า กับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าถึงระยะเวลา 25 ปี
GULF และ GUNKUL 2 ยักษ์ใหญ่ ด้านการผลิตไฟฟ้าและพลังงานทดแทน เปิดสัญญาขายไฟฟ้าให้ กฟผ. รวม 20 โครงการ นานถึง 25 ปี
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้ทำการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มเติมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จำนวน 12 โครงการ
โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 644.8 เมกะวัตต์ โครงการทั้งหมดมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2569-2572 และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. อยู่ที่ระยะเวลา 25 ปี จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ ระหว่างปี 2559-2572
มีรายละเอียด ดังนี้
- โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินทั้งหมด 5 โครงการ (solar farms) โครงการนี้จะให้กำลังการผลิตตามสัญญารวม 259.6 เมกะวัตต์
- โครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงานทั้งหมด 7 โครงการ (solar farms with battery energy storage systems) โดยจะให้กำลังการผลิตตามสัญญารวม 385.2 เมกะวัตต์
ผลประกอบการย้อนหลัง บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
- ปี 2563 มีรายได้รวม 33,370 ล้านบาท กำไรสุทธิ 4,282 ล้านบาท
- ปี 2564 มีรายได้รวม 49,983 ล้านบาท กำไรสุทธิ 7,670 ล้านบาท
- ปี 2565 มีรายได้รวม 95,076 ล้านบาท กำไรสุทธิ 11,417 ล้านบาท
- 9 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้รวม 88,669 ล้านบาท กำไรสุทธิ 10,095 ล้านบาท
GUNKUL ประกาศขายไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 8 โครงการ เป็นระยะเวลา 25 ปี
นางสาวโศภชา ดารงปิยวุฒิ์ กรรมการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ระบุ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 กลุ่มบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นทางตรงผ่านบริษัท กันกุล โซลาร์ พาวเวอร์เจน จำกัด บริษัท กันกุล วัน เอ็นเนอร์ยี 2 จำกัด และบริษัท กันกุล วัน เอ็นเนอร์ยี 9 จำกัด ถือหุ้น 100% ได้เข้าลงนาม ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (“PPA”) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (“กฟผ.”) เป็นระยะเวลา 25 ปี
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงาน แสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (Solar Farms) จำนวนรวม 8 โครงการ มีขนาดกาลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 429.6 เมกะวัตต์ โดยจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2569 - 2573
ทั้งนี้ เมื่อโครงการดังกล่าวสามารถ เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ครบตามกำหนด จะส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาโดยรวมสูงขึ้นเป็น 1,045.15 เมกะวัตต์ จากเดิม 615.55 เมกะวัตต์ คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 70% โดยมีรายละเอียดดังนี้
ทั้งนี้ บริษัทจะทยอยลงนามในสัญญา PPA เพิ่มเติมตามรายชื่อโครงการที่ได้รับคัดเลือกตามประกาศของ กกพ.
ผลประกอบการย้อนหลัง บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)
- ปี 2563 มีรายได้รวม 8,996 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3,412 ล้านบาท
- ปี 2564 มีรายได้รวม 9,868 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,229 ล้านบาท
- ปี 2565 มีรายได้รวม 7,566 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3,010 ล้านบาท
- 9 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้รวม 6,055 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,369 ล้านบาท
GULF เดินหน้าขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ 1,294 เมกะวัตต์
ปัจจุบัน กลุ่ม GULF มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย ที่มีสัญญาขายไฟฟ้าให้กับกฟผ. ไปแล้วทั้งสิ้น 24 โครงการ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 1,294.1 เมกะวัตต์ ดังนี้
- โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ แบบติดตั้งพื้นดิน (solar farms) จำนวน 13 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 652.9 เมกะวัตต์
- โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน (solar farms with battery energy storage systems) จำนวน 11 โครงการ กำลังการผลิตตามสัญญาไฟฟ้ารวม 641.2 เมกะวัตต์
โดยจะมีกำหนดดำเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2567-2572 มีอัตราจำหน่ายไฟฟ้า ในรูปแบบ FiT โครงการ solar farms ที่ 2.1679 บาท/กิโลวัตต์-ชั่วโมง และโครงการ solar farms with battery energy storage systems ที่ 2.8331 บาท/กิโลวัตต์-ชั่วโมง ตลอดอายุสัญญา
GULF มีนโยบายเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน ไม่ต่ำกว่า 40% ภายในปี 2578 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของประเทศที่มุ่งผลักดันพลังงานสะอาด เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน และดึงดูดเม็ดเงินจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทยังมีแผนการขยายการลงทุนนโครงการโรงงานไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนแบบต่างๆ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานน้ำ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม การรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการฯ จะช่วยลดความผันผวนจากราคาเชื้อเพลิง และเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของประชาชนทั้งในภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมให้ได้ใช้ไฟฟ้าในราคาที่ต่ำตลอดอายุสัญญา เนื่องจากโครงการฯ มีต้นทุนผลิตไฟฟ้าที่ต่ำกว่าราคาค่าไฟฟ้าเฉลี่ยในปัจจุบัน